ป.ตามรวบ “โอ เพชรบุรี” มือปืนรับจ้างฆ่าคน กระหน่ำยิงโหด 2 ศพ ในรอบ 2 ปี จนตร.จะบรรจุอยู่ในปฏิทินรับจ้างปี 2561 หลังก่อเหตุหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปอยู่จังหวัดระยอง ก่อนถูกกองปราบจับกุม สารรภาพรับจ้างยิงคนเพราะต้องการเงินไปรักษาผ่าตัดลูกที่เป็นเนื้องอกที่ปาก และใช้หนี้พนันไก่ชน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.ป) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. จับกุมนายสุนทร หรือ โอ เพชรบุรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 ม.1 ต.ไร่ส้ม อ.เมืองเพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดระนอง ลงวันที่ 2 ธ.ค. 57 และศาลจังหวัดหลังสวน ลงวันที่ 11 พ.ค.58 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเหตุอันควร จับได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 14 ซ.ประปา 2 ถ.สุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง
พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวว่า สืบทราบว่า นายสุนทร มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้าง ก่อเหตุมาแล้ว 2 คดี คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 26 ต.ค.2556 ในพื้นที่ จ.ชุมพร หลังได้รับการว่าจ้างจากนายเอ นามสมมติ 70,000 บาท ให้ไปยิงนายพงษ์ นามสมมติ นายทุนที่ดินรายหนึ่งซึ่งเป็นคู่กรณีกับผู้ว่าจ้าง จากปัญหาปมขัดแย้งที่ดินใน จ.ชุมพร แต่กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ นายพงษ์รอดตายอย่างหวุดหวิด
คดีที่สองเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.57 ในพื้นที่ จ.ระนอง หลังได้รับการว่าจ้างจากนางเพียงนาค 1 แสนบาท ใช้อปืน .38 ยิงน.ส.เพ็ญประภา หรือ เอ๋ บุญทา จนเสียชีวิต สาเหตุจากเรื่องชู้สาว ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามจับกุมตัวผู้ว่าจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวทั้ง 2 คดีได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียงนายสุนทร เจ้าหน้าที่กก.5.บก.ป.จึงนำกำลังลงพื้นที่กระทั่งจับกุมได้
สอบสวน นายสุนทรรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริงเพราะต้องการหาเงินไปรักษาบุตรชายที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกบริเวณปาก ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาเป็นการด่วน รวมถึงนำเงินไปใช้หนี้พนันไก่ชน. จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายสุนทร เคยถูกต้องโทษจำคุกในคดียาเสพติดเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน เมื่อปี 2539 ก่อนจะพ้นโทษออกมาเป็นมือปืนรับจ้าง รวมถึงเตรียมถูกนำชื่อขึ้นบัญชีปฏิทินมือรับจ้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปี 2561 กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้ สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฏหมาย