ตำรวจไซเบอร์รวบมือดีตัดต่อภาพอดีตนายก”ทักษิณ ชินวัตร“ โพสต์สร้างข่าวปลอม
เมื่อเวลา08.00 น.วันที่ 17 ม.ค.68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.ตอท.พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2
นำกำลัง พร้อมหมายค้น ศาลอาญาที่9/2568 ลงวันที่ 16 ม.ค. เข้าตรวจค้น หอพักครอบครัวมีสุข ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร
จับกุมนายนิรุติ อายุ 51 ปี ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง,เครื่องแท็บเล็ต 1 เครื่อง ได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่ตัดต่อ ดัดแปลงและเผยแพร่ภาพถ่ายอดีตนายกทักษิณ ค้างอยู่
สืบเนื่องจาก ฝ่ายกฎหมายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตรวจพบบัญชีผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่ปรากฏภาพถ่าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายคน ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
บางภาพถูกตัดต่อ ดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และพิมพ์ข้อความโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริงเพิ่มเติมลงในภาพดังกล่าว มีเจตนาทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังและได้รับความอับอาย
โดยนำภาพที่ถูกตัดต่อดัดแปลงเหล่านั้นไปโพสต์ให้แพร่หลายผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ที่เปิดแพร่หลายเป็นสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้และให้มีการแชร์ส่งต่อๆกันไป โพสต์ซ้ำหลายครั้งต่อเนื่องเรื่อยมา ประชาชนทั่วไปผู้พบเห็นเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเกลียดชัง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
นายทักษิณ มอบอำนาจให้ทนายความนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอให้ดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวกระทั่งจับกุมได้
ภายในห้องพักปรากฎภาพกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชน แปะอยู่ตามผนังห้อง อีกทั้งพบหลักฐานเป็นภาพตัดต่อใส่ร้ายข้อความอันเป็นเท็จจำนวนมากในคอมพิวเตอร์
สอบสวนรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กลมเปลี่ยนทิศ ที่มีการตัดต่อ ดัดแปลง ภาพนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และบุคคลผู้มีชื่อเสียงทางการเมืองในอดีตอีกหลายคนจริง โดยเป็นผู้ลงมือตัดต่อดัดแปลงและโพสต์ภาพด้วยตนเอง ผ่านโทรศัพท์มือถือและเครื่องแท็บเล็ตของกลาง และยังเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อีกหลายแพลตฟอร์มที่มีการโพสต์ภาพในลักษณะนี้
เบื้องต้นแจ้งข้อหานําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่นและภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย
ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”มาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป