ตำรวจไซเบอร์จับวัยรุ่นสร้างตัวปล่อยเงินกู้นอกระบบพบปืนเถื่อนอีก2กระบอกอ้างรับจำนำมา
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.68 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. สั่งการ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ ผกก.กก.3 บก.สอท.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ค้นบ้านหลังหนึ่งในต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช
จับกุมนายภิไชยเดช อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง สัญญาเงินกู้ 9 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ปืนลูกโม่ .38 ยี่ห้อ SMITH&WESSON ปืน 9 มม.ยี่ห้อ GLOCK ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก เครื่องกระสุน .38 12 นัด กระสุนปืน 9 มม. 20 นัด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สอท.5 สืบสวนทราบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี Ford Pichaidet โพสต์ข้อความโฆษณาชี้ชวนให้คนในพื้นพื้นที่นครศรีธรรมราช กู้เงินผ่านเฟซบุ๊กติดต่อเข้ามาเพื่อกู้ยืมเงินดอกลอยรายวัน และพบรูปถ่ายคู่กับอาวุธปืน
รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นศาลแขวงนครศรีธรรมราช เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวพบ นายภิไชยเดช ของกลาง สัญญาเงินกู้โดยระบุเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อวัน
ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบการโพสต์ข้อความโฆษณาชี้ชวนให้คนในพื้นพื้นที่นครศรีธรรมราช กู้เงินผ่านเฟซบุ๊กพบการสนหนาของประชาชน ผ่าน messenger เฟซบุ๊กดังกล่าว ติดต่อเข้ามาเพื่อกู้ยืมเงินดอกลอยรายวัน และภายในเครื่องโทรศัพท์มีถ่ายรูปคู่กับอาวุธปืนจำนวนมาก
สอบสวนยอมรับว่าปล่อยให้คนในพื้นที่กู้ยืมเงิน และเป็นเจ้าของอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว มีไว้ในครอบครองเป็นของตนเพียงคนเดียว และได้นำมาซุกซ่อนไว้ภายในบ้านหลังดังกล่าว เป็นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียนที่ได้มาจากการรับจำนำ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา จัดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะ (๑) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ตาม ม.4 พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560
ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิด ตาม ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ข้อ 5 ข้อ 16 ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2548 ข้อ 1
.มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน (ปืนเถื่อน) และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่ง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
