สถิติสิ้นสุด…
ไม่ใช่จากแมนฯซิตี้ ไม่ใช่จากแมนฯยูไนเต็ด ไม่ใช่จากเชลซี แต่มาจากเบิร์นลีย์ !!!
ในซีซั่นนี้เบิร์นลีย์ถือว่าฟอร์มย่ำแย่อย่างมาก ก่อนแข่งพวกเขายิงได้แค่ 9 ลูกในพรีเมียร์ลีก
เป็นทีมที่ยิงได้น้อยที่สุด ในบรรดา 20 ทีม ใครเจอเบิร์นลีย์ก็เก็บคลีนชีทกันได้ทั้งนั้น (ยกเว้นลิเวอร์พูล) ฮา
เบิร์นลีย์มีแผนการเล่นง่ายๆ คือ
“แพ็กทั้งทีม”
ลิเวอร์พูลอยากเจาะก็เจาะไป พวกเขาตั้งรับอย่างใจเย็น แล้วนานๆค่อยสวนขึ้นที ไปลุ้นเอาจากลูกฟรีคิก โยนบอมบ์เข้ากลางประตู
ส่วนทางเจ้าบ้านลิเวอร์พูล ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกเต็มไปด้วยความสับสน
เน้นขึ้นบอลทางขวาให้เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เปิดบอลเข้าไป
คือ คู่เซ็นเตอร์ของเบิร์นลีย์คือ เบน มี กับ เจมส์ ทาร์คอสสกี้ สองคนนี้ลูกบนพื้นแย่ แต่ลูกกลางอากาศดี
เทรนต์เปิดเข้าไปทีไรก็โดนเก็บกินหมด หรือถ้าพยายามเปิดแรงๆ ก็ไปเข้ามือนิค โป๊ป ที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีสุดๆอยู่แล้ว
ซึ่งอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆอย่างนั้นแหละ
เปิดยัดเข้าไป จะมีตัวบล็อก หรือเพื่อนข้างหน้าจะตัวเล็กยังไงก็ไม่สน ครอสอัดอยู่อย่างเดียว (เป็นคนมุ่งมั่น555++)
แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เบิร์นลีย์มาได้จุดโทษนาทีที่ 83
จากจังหวะที่ไม่มีอะไรเลย บอลเริ่มจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ เบิร์นลีย์บอมบ์เข้ากลางมา
ฟาบินโญ่เตะเคลียร์ไม่ขาด จนโดนโหม่งสวนกลับไป ปล่อยให้แอชลีย์ บาร์นส์ หลุดไปได้ อลิสซอน วิ่งเข้ามา..
บาร์นส์ ดีดบอลหนี แล้วรอให้โดนอลิสซอนกระแทก กรรมการไมค์ ดีน ชี้เป็นจุดโทษทันที เสียเหลี่ยมจังเบ้อเริ่ม !!!
ท้ายเกม ลิเวอร์พูลพยายามลุยแหลก จังหวะเตะมุมอลิสซอน เบ็คเกอร์ ดันขึ้นมาถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
สุดท้ายเกมจบลงด้วยสกอร์ 1-0 ลิเวอร์พูลแพ้คาบ้าน เป็นครั้งแรกในรอบ 1,369 วัน หรือ 68 นัดในพรีเมียร์ลีก
เบิร์นลีย์ก็สามารถเอาชนะได้ที่แอนฟิลด์เป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปี
จู้กหู้กกู้กราบ…
จบสถิตินะจ้ะ