เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ม.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ
แถลงข่าวจับกุมนายอี้หรง (Yirong) อายุ 34 ปีและนายปิน (Bin) อายุ 20 ปี สัญชาติจีนของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตร ATM และ Sim card ของบุคคลอื่น 57 ชุด
พล.ต.ต.สมบูรณ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ถึงกลุ่มคนร้ายฉ้อโกงออนไลน์ ที่มีพฤติกรรมหลวงลวงประชาชนให้หลงเชื่อ ใช้กลอุบายในลักษณะชักชวนให้ทำงานทางออนไลน์ ลงทุนร่วมกับแอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง
ช่วงแรกของการลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นจริง แต่เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนจำนวนมากขึ้น กลุ่มคนร้ายก็เชิดไป
ชุดสืบสวนตรวจจนทราบว่าคนร้ายทำหน้าที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินจากการหลอกลวงผู้เสียหาย พักอาศัยอยู่ที่ห้องเลขที่ 66/134 คอนโดแชมเบอร์ รามอินทรา ถนนรัชดาฯ-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. นำกำลังเข้าจับกุม “ชาวจีนทั้ง 2 คน อยู่อาศัยและทำงานในห้อง ทำหน้าที่ดูแล และจัดการระบบธุรกรรมการเงินของกลุ่มคนร้ายฉ้อโกงออนไลน์ โดยจะใช้บัญชีธนาคารผู้อื่นที่ได้จากการจ้างคนไทยเปิดบัญชี เป็นบัญชีม้าในการรับเงินจากผู้เสียหายที่โอนเงินมา แล้วจะโอนต่อเป็นทอดๆ ใช้ระบบอัตโนมัติหรือ AI โอนเงินภายในเวลาไม่กี่วินาทีโอนเงินเป็นจำนวนมาก
มีคนชื่อคริสไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง สั่งการส่งบัญชีให้โอนเงินที่ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีหรืออายัดเงิน จากนั้นนำเงินไปซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอล แล้วส่งต่อไปยังผู้ร่วมขบวนการ
ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีเงินหมุนเวียนผ่านระบบบัญชีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท พบที่หน้าบัญชีมีการโอนเงินที่ได้ทันที 1,400 ล้านบาท” ผบก.สปพ.กล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรับว่า เข้ามาในประเทศไทยและทำงานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินในการรับโอนเงิน และโอนเงินต่อในลักษณะดังกล่าว ได้เงินเดือนละ 30,000 บาท ทำมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว และให้การปฏิเสธคดีฉ้อโกงกรณีใช้อุบายหลอกลวงเงินผู้เสียหายให้โอนเงินเข้ามาในบัญชี
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน , เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นำตัวส่งสน.โคกคราม ดำเนินคดี