ตำนานมือปราบพระกาฬ ชลอ เกิดเทศ โดยกิตติพงศ์ นโรปการณ์
ชลออาศัยความเป็นคนกว้างขวาง รู้จักคนเยอะ
ตั้งแต่สมัยยังเป็นรองผู้กำกับการอยู่ที่จังหวัดลพบุรีเข้ามาทำทีมฟุตบอล สโมสรตำรวจ ไปถึงการเข้ามาทำทีมฟุตบอลทีมชาติก่อนนี้ยามว่างจากภารกิจ หรือคุมทีมฟุตบอลทั้งสโมสร และทีมชาติไทย
เขามักจะเดินเข้าไปเที่ยวตามบ่อนการพนันต่างๆทั้งเล็กทั้งใหญ่ที่เปิดชุกชุม อยู่ในกรุงเทพฯไม่ว่าจะเป็นบ่อนระดับชาติของ “พี่วัฒ” นักการเมืองชื่อดังย่านถนนพัฒนาการ ที่เพิ่งเกิดเรื่อง ส.ส.กำธร ลาชโรจน์ นักการเมืองหนุ่มจากปัตตานี หายตัวออกไปก่อนเป็นศพ หรือไม่ก็บ่อนย่านประตูน้ำ
หรือจะเป็นบ่อนเล็กๆอย่างของ เสี่ยด๋อง ทนายความ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการว่าคดีความให้ผู้ต้องหา ว่าง่ายๆเป็นทนายโจร แต่ไม่มีใครกล้าไปยุ่ง เพราะนามสกุลของทนายหนุ่มคนนี้ไปพ้องจองกับผู้ใหญ่ในศาลสถิตยุติธรรมคนหนึ่ง
ในรายบ่อนเสี่ยด๋อง ชลอได้ยินมา มีนักพนันถูกฆ่ารัดคอตายเป็นศพคาบ่อนอยู่ 2-3 ราย
แต่ไม่เป็นข่าวใหญ่ เพราะตำรวจท้องที่รู้ว่าทนายความคนนี้มีที่มาอย่างไร
ประกอบกับไอ้พวกที่ตายไปก็เป็นนักพนันโนเนม ศพถูกแจ้งให้ญาติรับไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนาอย่างเงียบๆ
ประกอบกับไอ้พวกที่ตายไปก็เป็นนักพนันโนเนม ศพถูกแจ้งให้ญาติรับไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนาอย่างเงียบๆ
อีกบ่อนหนึ่ง เป็นของพันเอกนอกราชการ ลูกชายนายทหารใหญ่ที่เคยมีบทบาททางการเมือง แต่ไม่ค่อยมีใครนิยมเข้าไปเล่นมากนัก ชลอเรียกเขาว่าพี่เล็ก
แต่ที่สนิทๆกับชลอมาก นั่นก็คือ บ่อน จงอาง ย่านสะพานพระปิ่นเกล้า จงอาง เป็นรุ่นน้องชลอเกือบ 10 ปี เดิมทีทำบ่อนอยู่กับ เสี่ยด๋อง ก่อนที่จะแยกออกมาทำเอง
ถึงแม้นายตำรวจหนุ่มนักบู๊จะเดินเข้าบ่อนการพนันเมืองกรุงอยู่เป็นประจำ แต่เขาไม่ถึงกับขั้นเข้าเส้นเลือด ด้วยความที่เป็นคนพวกเยอะ เงินทองต้องกินต้องใช้ ลูกน้องก็มีมาก ติดกับความขี้เล่น แถมยังปากไวเท่าใจ หลังชลอเดินเข้าบ่อน จะประกาศเลย
“ วันนี้ กูเอาแค่ 5 หมื่น…….”
สุดท้ายคืนนั้น ชลอ ก็มีเงิน 5 หมื่นบาทติดกระเป๋า
แต่ก็ไม่ทุกบ่อนที่ชลอทำอย่างนี้ จะทำเฉพาะที่สนิทสนมกันเท่านั้น
ส่วนเหตุผลสำคัญที่ ชลอ ชอบเดินเข้าออกบ่อนการพนันหลายแห่งในเมืองกรุง เป็นเพราะต้องการเดินเข้าไปดูหน้าพวกมือปืน ลิ่วล้อ และบรรดาขาใหญ่ทั้งหลายตามบ่อนการพนันต่างๆ เดินดูจนจำได้ขึ้นใจ ใครเป็นใคร ไอ้นี่ซุ้มนี้ ไอ้นั่นซุ้มนั้น
รวมไปถึงนักการเมืองนักเล่น ขาใหญ่ที่เป็นหัวคะแนนตามจังหวัดต่างๆที่เข้ามาเล่นพนันในบ่อนเมืองกรุง หากมีเหตุยิงกันฆ่ากันที่ไหน เกี่ยวกับใคร ข่าวที่ชลอได้จากพวกที่อยู่ในบ่อนมักจะไม่ค่อยพลาด
ที่ชลอกล้าเดินเข้าออกบ่อนการพนันหลายแห่ง อย่างหนึ่งที่ชายหนุ่มนักบู๊เลือดสีกากี เชื่อว่า เขาจะปลอดภัย
เพราะได้รับไฟเขียวจากรองอธิบดีมือปราบ อย่างพล.ต.ท.ณรงค์ มหานนท์ ที่รับประกันให้เขา หากการเข้าไปในบ่อนการพนันหลายแห่งที่ว่า เป็นจังหวะที่มีการเข้าจับกุม หรือมีการร้องเรียน
กรณี ฆ่า ส.ส.กำธร ก็เช่นกัน ชลอได้ข่าวจาก รักษ์-เอกสิทธิ์ ขาใหญ่อีสานเหนือ ลูกค้าขาประจำในบ่อน “พี่วัฒ ”
“ฝีมือพี่เขาแหละนาย….”
“ มีลึกๆหลายเรื่องกับ ส.ส.เล็ก ไม่ว่าจะเรื่องเล่นกันในบ่อน หรือเรื่องที่ทะเลาะกันในสภา ทำนองเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้…”
ขาใหญ่เมืองเลยพูดเหมือนกระซิบให้ฟัง ทั้งที่อยู่กัน 2 คน ภายในห้องทำงานของชลอ ที่กองปราบปราม สามยอด ถนนวรจักร
“แล้วมันยังไงล่ะ…”
ชลอถามต่อ ถึงแม้ตัวเขาจะสนิทสนมกับ พี่วัฒ นักการเมืองดังมาตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย มาแล้วก็ตาม
แต่ด้วยความเป็นตำรวจ เขาก็ต้องฟังหูไว้หู ใช่ไม่ใช่อีกเรื่องเอาข้อมูลไว้ก่อน
“คนฆ่าส.ส.กำธร ถูกฆ่าปิดปากตายไปแล้วนาย”
รักษ์ ขาใหญ่นักเล่นในบ่อนพัฒนาการบอกต่อ
“ใครวะ….”
“โกอ่าง นาย โกอ่างคนสนิท พี่วัฒ กับนวลนภา ที่ถูกยิงตายคารถที่วัดประดู่ในทรงธรรม…”
“มึงว่าฝีมือใคร”
รองผู้การกองปราบปรามซัก
“ไม่ไอ้ฝ้าย-สำลี โภกาอินทร์ เด็กพี่วัฒ ก็ ไอ้ดี ไอ้ชุม 2 มือปืนเจ้าแม่นวลนภา”
“เอา..มึงช่วยดูไอ้ตัวดีที่ว่าทั้งหมด ยังอยู่สบายกันในบ่อนหรือเปล่า มีอะไรเข้ามา ขอบใจมากน้องรัก”
ชลอบอกเป็นทำนองไหว้วานให้นักพนันขาใหญ่จากเมืองเลยช่วยเป็นธุระ เป็นหูเป็นตาให้ขณะที่ รักษ์ -เอกสิทธิ์ ขอตัวกลับ
เมื่อนั่งอยู่คนเดียวชลอหยิบแฟ้มคดีโกอ่าง หรือนายวิสูตร หุ่นนิรันดร์ ที่ตกอยู่ในข่ายต้องสงสัย และถูกฆ่าตัดตอนจากกรณีการเสียชีวิตของ ส.ส.เล็ก-กำธร ลาชโรจน์ ออกมาอ่านอีกครั้ง
โกอ่าง หรือนายวิสูตร ถูก 2 มือปืนขี่รถจักรยานยนต์ดักยิงเสียชีวิตคารถวอลโว่ ขณะขับออกมาจากบ้านพักในซอยประดู่ในทรงธรรม ท้องที่ สน.ท่าพระ เมื่อเที่ยงวันที่ 8 สิงหาคม หรือ 10 วันจากการพบศพ ส.ส.หนุ่มจากปัตตานี
มันจะเกี่ยวพันกันหรือเปล่าวะ
ชลอรำพึงอยู่ในใจ พร้อมๆกับหยิบภาพถ่ายขาวดำออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ 3 ใบ ออกมาเปรียบเทียบกับภาพสเกตช์ฝีมือจิตรกรที่ร่างภาพหน้า 2 ผู้ต้องสงสัย จากปากคำเด็กปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
เห็นทั้งคู่เอารถยนต์ของ ส.ส.กำธร ไปล้างรถทำความสะอาด ก่อนจะพบศพ ส.ส.หนุ่มเจ้าของรถในเวลาต่อมา
เป็นภาพถ่ายหน้าตรงของชาย 3 คน นั่นคือ ไอ้ดี บุญรอด ไอ้ชุม หรือโก ภู่เต็ง 2 มือปืนคนสนิทนวลนภา เจ้าแม่บ่อนผู้เลอโฉม และภาพ ไอ้ฝ้าย-สำลี โภคาอินทร์ มือปืนประจำตัว “พี่วัฒ”
ก่อนหน้านี้ ชลอ สั่งให้ผู้กองครก-ร้อยตำรวจเอกเจตนากร นภีตะภัฎ รองสารวัตรคอมมานโด ไปหาภาพ 3 มือปืนเฝ้าบ่อน ผู้ต้องสงสัยฆ่า กำธร มาเก็บไว้ในแฟ้มมือปืน ถึงแม้ว่าชลอจะรู้จักหน้าค่าตาของทั้ง 3 คนนี้เป็นอย่างดีก็ตาม
แต่ก็เผื่อเอาไว้ให้พยานในคดีมาดูรูป ชี้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคดีนี้หรือคดีอื่น
—————————————–
การคลี่คลายเงื่อนงำสังหาร ส.ส.กำธร ดำเนินไปจนกระทั่งหัวค่ำวันที่ 31 สิงหาคม พุทธศักราช 2524
—————————————–
การคลี่คลายเงื่อนงำสังหาร ส.ส.กำธร ดำเนินไปจนกระทั่งหัวค่ำวันที่ 31 สิงหาคม พุทธศักราช 2524
บริเวณปากซอยพิชิต ถนนเจริญกรุง ระหว่างสี่แยกถนนอุณากรรณ และสี่แยกสามยอด แขวงวังบูรพาภิรมย์ กรุงเทพมหานคร
ปังๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอี๊ยดดดด…. โครมมมมม
เสียงปืนกลดังสนั่นหวั่นไหวมาจากมุมมืดของถนนฝั่งตรงข้ามซอยพิชิต ทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดินจับจ่ายซื้อของจากพ่อค้าแม่ขายในย่านนั้นต้องตกใจ สุดขีด ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่น ต่างคนต่างวิ่งหาที่กำบังหลบห่ากระสุนอย่างจ้าละหวั่น ทั้งๆที่บางคนยังไม่รู้ว่ามาจากทิศทางไหน
แต่ที่แน่ๆ รถเก๋งโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีเหลือง ที่มีรอยกระสุนพรุนไปทั้งคัน พุ่งออกมาจากปากซอยพิชิต เหมือนไร้คนบังคับ เสียหลักเข้าชนประตูเหล็กห้างหุ้นส่วนจำกัด สหไทยยนต์การ เสียงดังสนั่น กระจกหน้าแตกกระจายด้วยความแรง เครื่องยนต์ดังอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะดับ
ทุกอย่างนิ่งสนิท
ทุกอย่างนิ่งสนิท
ท่ามกลางไทยมุง ที่เริ่มปฏิบัติหน้าที่วิ่งกรูกันเข้าไปที่รถเก๋ง
สายตาทุกคู่เห็นชายหนุ่มในที่นั่งคนขับ คออ่อนคอพับแน่นิ่งท่ามกลางเลือดสีแดงฉานที่เปรอะเปื้อนตามเนื้อตามตัว โดยมีหญิงสาวอีกคน ที่นั่งเบาะข้างๆ ส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ผสมกับลิ่มเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากปาก
“เฮ้ย….ช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลเร็ว”
เสียงชายพลเมืองดีคนแรกที่ตั้งสติได้ตะโกนบอกกลุ่มชายที่อยู่ในกลุ่มไทยมุงเข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายชายหญิงทั้ง 2 คน
ร่างของชายที่ถูกยิง ตัวอ่อนปวกเปียกเหมือนผัก เห็นแล้วก็รู้ว่าวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง เพราะห่ากระสุนที่ทะลุเข้าไปในร่างกาย โดยเฉพาะที่ใบหน้า มีบางส่วนหลุดหายเป็นแผลน่าสยดสยอง
ขณะที่ร่างของหญิงสาวที่ถูกยิง ถูกพลเมืองดีช่วยกันนำออกจากซากรถ ส่งโรงพยาบาลกลางที่อยู่ใกล้ๆ แต่เธอก็สิ้นลมไปในเวลาไม่นานนัก
ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นชายฉกรรจ์ 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน วิ่งออกไปจากมุมมืดต้นเสียงปืนกลอย่างรวดเร็วคนซ้อนท้าย 1 ใน 2 คันนั้น ถือถุงดำที่มีปืนกล ทูตมรณะกระบอกกะทัดรัดถูกเก็บใส่ไว้ข้างใน โดยมีรถเก๋งสีน้ำตาลขับตามไปอีกหนึ่งคัน
ในเวลาไม่นานนัก ร้อยตำรวจตรีสาธิต เจริญพิภพ ร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาล สำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมกับสายตรวจจำนวนหนึ่ง
ผู้หมวดหนุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 32 ที่เพิ่งพ้นรั้วสถาบันได้ไม่นาน ถึงกับตะลึงในที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นปลอกกระสุนขนาด 11 มิลลิเมตร เกือบ 30 ปลอกตกกระจายอยู่บนพื้นถนน
ถึงจะยังงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกลางเมืองกรุง แต่ร้อยตำรวจตรีสาธิต ยังมีสติรีบหยิบวิทยุสื่อสารที่เหน็บไว้ข้างเอว กรอกเสียงแจ้งศูนย์วิทยุรามา ให้สกัดจับคนร้ายตามตำหนิรูปพรรณที่ได้รับมาเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน
เสร็จจากภารกิจแรก ผู้หมวดหนุ่มป้ายแดง ตกตะลึงหนักขึ้นไปอีก เมื่อเดินถือสมุดสีน้ำเงินรับแจ้งคดีไปจดรายละเอียด และวาดแผนที่สถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น
นามบัตร และเอกสารสำคัญหลายอย่างที่อยู่ภายในรถเก๋งโตโยต้า สีเหลืองทะเบียน 5 ง- 3847 กรุงเทพมหานครที่พรุนไปด้วยรอยกระสุน
นามบัตร และเอกสารสำคัญหลายอย่างที่อยู่ภายในรถเก๋งโตโยต้า สีเหลืองทะเบียน 5 ง- 3847 กรุงเทพมหานครที่พรุนไปด้วยรอยกระสุน
ระบุว่าชายที่เสียชีวิตคือ นายศรายุทธ ชะนะกุล ส.ส.ชัยนาท โฆษกพรรคกิจสังคม
ส่วนหญิงสาวที่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลกลางคือ ร้อยเอกทันตแพทย์หญิงศิริยา ชะนะกุล ภรรยานายศรายุทธ
ส่วนหญิงสาวที่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลกลางคือ ร้อยเอกทันตแพทย์หญิงศิริยา ชะนะกุล ภรรยานายศรายุทธ
เท่านั้น ร้อยตำรวจตรีสาธิต รีบรายงานเหตุด่วนอุกฉกรรจ์ไปยังผู้บังคับบัญชาโดยตรง คือพันตำรวจโทพลวุฒิ วิเศษสงวน สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ โดยรายงานเหตุดังกล่าวถูกถ่ายทอดไปตามลำดับชั้น
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง บริเวณที่เกิดเหตุ คลาคล่ำไปด้วยบรรดานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพลตำรวจตรีสถาพร วิมุตตานนท์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาลพระนครเหนือ พลตำรวจตรีจำรัส จันทรขจร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจโทเสน่ห์ สิทธิพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจโทณรงค์ มหานนท์ รองอธิบดีกรมตำรวจ ฝ่ายป้องกันและปราบราม
ถึงแม้จะเป็นกลางดึก แต่แสงไฟฟ้ายังพอมองเห็นสีหน้าของพลตำรวจโทณรงค์ บ่งบอกถึงความเครียด
เพราะรองอธิบดีมือปราบ ถูกพลตำรวจเอกสุรพล จุลละพราหมณ์ อธิบดีกรมตำรวจ กำชับมาอีกครั้ง ตั้งแต่ยังเดินทางมาไม่ถึงให้รีบดำเนินการสอบสวนสืบสวนหาต้นสายปลายเหตุการ สังหาร ส.ส.ชัยนาท พรรคกิจสังคม อย่างรวดเร็ว
เพราะคดีฆ่านายกำธร ลาชโรจน์ ส.ส.จากปัตตานี ยังจับคนร้ายไม่ได้
ยังมาเกิดคดีฆ่าโหด นายศรายุทธ โฆษกพรรคกิจสังคม พร้อมภรรยา กลางกรุงเทพฯอย่าง
ยังมาเกิดคดีฆ่าโหด นายศรายุทธ โฆษกพรรคกิจสังคม พร้อมภรรยา กลางกรุงเทพฯอย่าง
อุกอาจ ท้าทายกฎหมาย และบัลลังก์ของอธิบดีกรมตำรวจเป็นอย่างมาก