วันที่ 20 พ.ค.66 พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงแสน พร้อมชุดสอบสวน สภ.เชียงแสน และชุดสืบสวนภาค 5 จับกุมนายสุนฉ่าย อายุ 34 ปี บ้านอยู่ อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ นายพีระพล อายุ 34 ปี บ้านอยู่ กทม. น.ส.ณัฐธิดา อายุ 54 ปี บ้านอยู่ จ.นนทบุรี นายรัชต์ธพงศ์ อายุ 50 ปี บ้านอยู่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางเงินสด 3.5 แสนบาท โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด 1 คัน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง
นำตัวดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้ปล่อยตัวหรือเปลี่ยนข้อหาก็ล้วนแต่เป็นการจูงใจให้กระทำโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวณกฎหมายอาญา มาตรา 144 แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องมาจากชุดสืบสวนภาค 5 และสืบสวน สภ.เชียงแสน จับกุมคนจีน 5 คน ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองได้เมื่อวันที่18พ.ค. ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ได้มี นายสุนฉ่าย , นายพีระพล , นางสาวธัฐธิดา และ นายรัชต์ธพงศ์ (สงวนนามสกุล) เดินทางมาที่ สภ.เชียงแสน ขอพบชุดจับกุมและผกก.สภ.เชียงแสน โดยนายรัชต์ธพงศ์ อ้างตัวคือ พ.ต.ท.ศราวุฒิ เมฆพัฒน์ตำแหน่ง รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน กก.3 บช.ก.
โดย น.ส.ธัฐธิดา ได้พูดคุยเสนอเงิน 350,000 บาท ให้กับชุดจับกุมเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 คน พร้อมทั้งเดินออกไปนำเงินสดในรถยนต์มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมทั้ง 4 คน
สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดรับว่าเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาช่วยเหลือชาวจีน 4 คนที่ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นรถยนต์ที่ผู้ต้องหาทั้งหมดโดยสารมา พบเงินสดอีก 400,000บาท รวมเงินสดที่นำมาติดสินบนและเงินที่พบในรถ เป็นเงิน 750,000 บาท
นอกจากนี้ในรถยังพบ เสื้อกั๊กพร้อมหมวกติดตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมด “ร่วมกันให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” และแจ้งข้อกล่าวหา นายรัชต์ธพงศ์ฯ เพิ่มเติมว่า “แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายรัชต์ธพงศ์เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน พยายามข่มขืนกระทำชำเรา และลักทรัพย์ ในพื้นที่ สน.โชคชัย และ ลักลอบนำสิ่งของที่ไม่เสียภาษีเข้ามาในราชอาณาจักร ในพื้นที่ สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี อีกด้วย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และสั่งการมายังผบช.ภ. 5 ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งให้ตรวจสอบว่าเคยมีการกระทำความผิดในลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ รวมทั้งให้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
“ฝากไปยังตำรวจทุกพื้นที่ อย่าได้หลงเชื่อกรณีมีผู้แอบอ้าง ขอให้รายงานมาที่ผมโดยตรง จะดำเนินคดีเด็ดขาดทุกราย” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว