“ผบช.ไตรรงค์”จ่อยกระดับ Bomb Data Centerเป็นที่พึ่งทางวิชาการให้หน่วยปฏิบัติ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. รรท.ผบช.สพฐ.ตร.ตรวจเยี่ยมศูนย์ข้อมูล วัตถุระเบิด Bomb Data Center

วันที่ 10 พ.ย.66 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด (ศขบ.สพฐ.ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. รรท.ผบช. สพฐ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต. ทนงค์ ทองประดับเพชร ที่ปรึกษา(สบ7) เดินทางมาตรวจเยี่ยมมี พ.ต.ท.ระพี ชาติไทย รอง ผกก.ฯ ศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับและได้รับฟังบรรยายสรุป รับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน และได้มอบนโนบาย แนวทางในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้รับฟังบรรยายสรุป ดูระเบิดชนิดต่าง ๆ ที่หน่วยงานจำลองขึ้นมา ก่อนเข้ารับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน และได้มอบนโยบาย โดยพล.ต.ท.ไตรรงค์ มีแนวความคิดขับเคลื่อนยกระดับงาน ศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด Bomb Data Center ให้เป็นที่รู้จัก

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด Bomb Data Center เป็นหน่วยงานที่มีประโยชน์ ที่ทำงานแบบปิดทองหลังพระมาโดยตลอด  ตนให้แนวความคิดเกี่ยวกับศูนย์ว่า เราเป็นหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุระเบิดทั้งหมด จะต้องนำมาวิเคราะห์  

เลยให้นโยบายไปว่าเราต้องยกระดับให้เป็นที่พึ่งทางด้านวิชาการ การศึกษาเรื่องวัตถุระเบิดหรือการดัดแปลงระเบิดในประเทศไทย ว่ามีอะไรบ้าง ที่สามารถนำมาวิเคราะห์และเชื่อมโยงเพื่อที่จะให้หน่วยปฏิบัติร้องขอข้อมูลจากเราได้

การปฏิบัติงานนั้นเราต้องมีข้อมูลในเชิงวิชาการแนวทางการประกอบระเบิดการใช้ระเบิดชนิดต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเราต้องนำมาใช้งานด้วยวิเคราะห์ด้วย เพื่อป้องการระเบิด ในประเทศไทย แล้วก็นำมาวิเคราะห์ และดูสถิติ

สำหรับหน่วยงานนี้ เป็นหน่วยงานที่จะต้องลงไปในพื้นที่ด้วยเมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่ ที่เป็นข้อมูลจริง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ซึ่งตัวบุคลากรเอง ในหน่วยต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยต่อว่า  มีความเห็นว่าบุคคลากรจะมาประจำศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด Bomb Data Center นี้ จะต้องมีความรู้ ความสามารถ ให้เป็นที่พึ่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้

ขณะเดียวกันพบข้อจำกัดในการประสานงานเก็บข้อมูลก็ได้ให้แนวทางในการแก้ไขไปแล้ว เพื่อนำมาวิเคราะห์  ขณะนี้พบว่าอุปกรณ์หลายอย่างขาดแคลน เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ และกำลังพล มีไม่ถึง 30% มีการไปช่วยราชการที่อื่นเราก็จะปรับและประเมินให้เหมาะสมให้เข้ามาที่หน่วย