ตำรวจ ปปป. บุกรวบ ข้าราชการซี 7 เรือนจำกลางนครสวรรค์ ปลอมเอกสารทุจริตเงินฝากนักโทษ ทำจนย่ามใจ ไม่มีใครกล้าร้องเรียน ได้เงินไปกว่า 3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.66 พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. สั่งการ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. นำกำลังจับกุม นางมทิรา อายุ 45 ปี ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารแต่กลับปลอมแปลงเอกสาร เพื่อหวังผลเบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต และ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” จับกุมได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2556 ขณะที่ นางมทิรา ยังเป็นข้าราชการระดับ ซี7 เรือนจำกลางนครสวรรค์ มีหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชีการเงินผู้ต้องขัง แต่อาศัยประสบการณ์ในการทำงานการเงินมากว่า 20 ปี จนรู้ช่องหว่างในการทุจริต ปลอมแปลงเอกสารใบเบิกเงิน ใบเสร็จ ฉ้อโกงเงินของนักโทษในเรือนจำที่ญาตินำมาฝากไว้ให้
ประกอบกับที่ผ่านมาแม้จะมีกลุ่มนักโทษ หรือ ผู้ต้องขัง บางรายทราบเรื่องว่าถูกโกงเงินฝาก แต่กลับไม่กล้าร้องเรียน หรือ เรียกร้องให้ตรวจสอบ เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งในเรือนจำ จึงตกอยู่ในสภาวะจำยอมให้ถูกฉ้อโกงเงิน ทำให้ นางมทิรา เกิดย่ามใจก่อเหตุเรื่อยมารวมกว่า 140 ครั้ง คิดเป็นเงินมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท
จนเมื่อมีส่วนกลางการตรวจสอบพบจึงชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่จนถูกให้ออกจากราชการพร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายจนกระทั่งมีการออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับทราบว่าปัจจุบัน นางมทิรา ได้หนีมาทำงานเป็นพนักงานบริษัทสินเชื่อหรือ บริษัทลิสซิ่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองกำแพงเพชร จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวนรับสารภาพว่าได้ฉ้อโกงเงินของผู้ต้องขังจริง ทำไปเพราะต้องการหาเงินออกรถใหม่ป้ายแดงและนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ใช้หนี้สิน เล่นพนันออนไลน์ เบื้องต้นนำตัวส่ง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 จ.พิษณุโลก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารู้อยู่แก่ใจดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงได้หลบหนีมาตลอด และบอกกับทางบ้านของตนเองว่า หากมีเอกสารหมายเรียก ไม่ต้องติดต่อมาหาตนเด็ดขาด เพื่อตัดช่องทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ ทำให้รอดพ้นการจับกุมเรื่อยมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบเบาะแสสำคัญบางอย่างที่ทำให้รู้ว่าปัจจุบันผู้ต้ิงหารายนี้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร จนนำมาซึ่งการตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีกรณีดังกล่าวในหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งที่อาจมีการดำเนินการในลักษณะนี้ แต่ยังตรวจสอบไม่พบ โดยหลังจากนี้ทาง บก.ปปป. จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินกลุ่มผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการต่อไป”