วันที่27ธ.ค.66 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 / โฆษก สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสาคัญ ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปราม อาชญากรรมในช่วงวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2567 ดังนี้
1. สตม. รวบหมีขาวตามหมายจับคดีจ้างวานพยายามฆ่า
ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต บก.ตม.2 สตม. จับกุมนายอเล็กซานเดอร์ อายุ 53 ปี ชาวรัสเซีย ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 402/2566 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด (พยายามฆ่าMR.DMITRY ALEYNIKOV) โดยใช้อาวุธปืนยิง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เชิงทะเล จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 11.30 น. เกิดเหตุมีคนร้ายใช้ปืนยิง MR.DMITRY ALEYNIKOV อายุ 44 ปี ชาวรัสเซีย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ ร้านคาเฟ่วายา โบ๊ทอาเวนิว ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จว.ภูเก็ต
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้จ้างวานให้ Mr.Artur (นามสมมติ) ชาวคาซัคสถาน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้วใช้ปืนยิงMR.DMITRY ALEYNIKOV ผู้เสียหาย ศาลจังหวัด ภูเก็ตจึงได้ออกหมายจับนายอเล็กซานเดอร์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต บก.ตม.2 ตรวจสอบจากระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าของสานักงานตรวจคนเข้าเมือง (APPS) พบ นายอเล็กซานเดอร์ จะเดินทางมาประเทศไทยโดยสายการบินแอร์โรฟลอด เที่ยวบิน SU274 จากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงมอสโคว มายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ในวันที่25 ธันวาคม 2566 เวลา 10.20 น.
เมื่อเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้จับกุมนายอเล็กซานเดอร์ นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.สตม.รวบมือขนต่างด้าวพบประวัติคัางเก่าหลายคดี
ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จับกุมนายเอกสิทธิ์ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ชาวไทย ตามหมายจับศาล จังหวัดระนอง ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันโดยรู้ว่าเป็นคนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวนั้น เพื่อให้พ้น จากการจับกุม” นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สุขสาราญ จว.ระนองดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ตม.จว.ระนอง ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จับกุม นายณัฐพล (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวไทยพร้อมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 4 คน ส่ง สภ.สุขสาราญ จว.ระนอง ดำเนินคดีในข้อหา รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้พัก อาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวนั้นเพื่อให้พ้นจากการจับกุม นั้น
จากการขยายผลทราบว่า นายเอกสิทธิ์ เป็นตัวการสำคัญในขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายพื้นที่ภาคใต้ จากห้วงปี พ.ศ.2564 เพื่อส่งต่อแรงงานไปยังประเทศมาเลเซีย ทำหน้าที่เป็นรถนำ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายขนแรงงาน ผิดกฎหมาย จานวนมากในพื้นที่ จว.ระนอง ก่อนจะมาเคลื่อนไหวอีกครั้งในปี พ.ศ.2566 ยังคงทำหน้าที่รถนำจาก จว.ระนอง ไปยังภาคใต้ตอนล่างพนักงานสอบสวน สภ.สุขสำราญ จว.ระนอง ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดระนองออกหมายจับนายเอกสิทธิ์ กระทั่งจับกุมได้
ตรวจสอบประวัติของนายเอกสิทธิ์ พบว่า เคยต้องคดีอาญาในฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 3 คดี ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จับกุมดำเนินคดีในข้อหา “มีใว้ใน ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (นอกเหนือจากแอลเอสดี หรือเมตแอมเฟตามีน) ตามเลขคดีอาญา ที่ 408/2554
2.วันที่ 5 กรกฎาคม 2554 สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จับกุมดำเนินคดีในข้อหา “ผลิต ซึ่งยา เสพติดให้โทษประเภท 4″ ตามเลขคดีอาญา ที่1958/2554
3 .เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 สภ.ขุนทะเล จว.สุราษฎร์ธานีจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือเสพวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1″ ตามเลขคดีอาญา ที่ 15/2565
นอกจากนี้นายเอกสิทธิ์ฯ ยังเคยต้อง คดีอาญาใน ฐานความผิด “ ช่วยเหลือซ่อน เร้น ฯ ” อีก 3 คดี
1. เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 เวลา 08.30 น. สภ.ทุ่งสง จว.นครศรีธรรมราชจับกุมตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ” ตามเลขคดีอาญา ที่ 2242/2564 ศาลพิพากษาจาคุก 3 เดือน
2. เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 เวลา 08.30 น. สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จับกุมดาเนินคดีในข้อหา “ร่วมกัน ให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ” ตามเลขคดีอาญา ที่ 3508/2565 อยู่ระหว่างพิจารณาคดี
3. เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 06.40 น. สภ.รัตภูมิ จว.สงขลา จับกุมดาเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันให้ ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ” ตามเลขคดีอาญา ที่ 567/2564 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม ศาลชั้นต้น จาคุก3 เดือน อยู่ระหว่างจำเลยฎีกาโทษ