อีกครั้งสำหรับบทสัมภาษณ์ ลูกหม้อค่ายเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป นสพ.คมชัดลึก เริ่มต้นจากตำแหน่งช่างภาพ สู่การผันตัวจับปากกาเขียนข่าว เปิดหน้ารายงานสดภาคสนาม ระยะเวลายาวนานกว่า16ปี ในแวดวงข่าวตำรวจอาชญากรรม กับความมุ่งมั่นทำงานภายใต้สังกัดเดิม ส่งผลให้เค้ากลายเป็นพนักงานรุ่นแรกของ นสพ.คมชัดลึก อยู่ยืนยาวจนเหมือนจะเป็นรุ่นสุดท้าย ที่ยังไม่ย้ายหนีไปซบค่ายอื่น
ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน “คณาธิศ ศรีหิรัญเดช” หรือฮุย ช่างภาพหนุ่มทรงเสน่ห์ ตี๋อินเทรน ขวัญใจสาวยุค 90 แบกกล้องพร้อมอุปกรณ์ที่เรียกว่าทันสมัยที่สุดในยุคนั้นลงพื้นที่ถ่ายภาพหลายสายงาน ด้วยความสามารถที่โดดเด่น บวกกับความคล่องตัวในการทำงาน จึงได้รับมอบหมายให้ถ่ายภาพข่าวอาชญากรรม ทำงานร่วมกับนักข่าว เจอคดีใหญ่ยากสุดหินสารพัด
กระทั่งยุคสมัยเปลี่ยน ประกอบกับความสามารถเฉพาะตัว เค้าจึงรับบทเกือบจะทุกตำแหน่งในการลงพื้นที่ภาคสนาม กลายเป็นรุ่นใหญ่ไฟแรง คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงข่าวสายตำรวจมายาวนานที่สุดคนนีง และวันนี้ Can I Show จะพาไปทำความรู้จักกับเค้าให้มากยิ่งขึ้น
-เล่าประวัติส่วนตัว ชื่อนามสกุล ความเป็นมาในวงการข่าวตั้งแต่เริ่มจนถึงวันนี้ให้ฟังหน่อยคะ
ผม คณาธิศ ศรีหิรัญเดช ชื่อเล่นฮุย เริ่มทำงานด้านข่าวมาตั้งแต่ปี2544 เริ่มฝึกงานจากศูนย์ภาพเนชั่นตอนปี2543 โดยความใฝ่ฝันอยากเป็นช่างภาพข่าว อยากถ่ายภาพเก่ง อยากมีประสบการณ์ที่หลากหลาย จนกระทั่งฝึกงานจบ และในช่วง ต.คปี44 เนชั่นเปิดหนังสือพิมพ์หัวสีคือ “นสพ.คมชัดลึก” ขึ้นมา มีโอกาสเข้ามาทำงานในฐานะช่างภาพประจำศูนย์ภาพเนชั่น จนปัจจุบันนี้ ได้มาเป็นผู้สื่อข่าวและช่างภาพของสำนักข่าวเนชั่น ชีวิตผันเปลี่ยนจากช่างภาพปกติมาทำข่าว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจช่วงหนึ่งมีการเออรี่พนักงาน เราก็เลยอาสาที่จะเลือกย้ายออกจากศูนย์ภาพมาเป็นผู้สื่อข่าว เพื่อจะได้ลดจำนวนการเออรี่ช่างภาพลง จากนั้นก็ทำงานอยู่ที่เนชั่นสังกัดเดียวจนถึงปัจจุบัน
-ทำไมถึงเลือกมาทำงานเป็นนักข่าวที่นี่ เจาะจงมั้ยว่าต้องมาทำสายตำรวจ?
ตอนแรกก็ไม่ได้เจาะจง เพราะทำมาทุกอย่างตอนเป็นช่างภาพ ไม่ว่าถ่ายภาพราชสำนัก เศรษฐกิจ การเมือง จนมานั่งรถตระเวนอาชญากรรมในฐานนะช่างภาพ ก่อนจะโยกย้ายมาเป็นนักข่าวและเป็นนักข่าวอาชญากรรมเต็มตัว เป็นงานข่าวที่สนุกมีทั้งเรื่องดีเรื่องร้ายเรื่องตื่นเต้นทุกวัน ถือเป็นสีสันชีวิต สอนให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง รู้จักการระมัดระวังป้องกันตัวจากภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยได้ความรู้มากจากคดีต่างๆที่เราทำข่าว
-ทัศนะคติที่มีต่อวงการสื่อสารมวลชนไทยในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันยุคดิจิตอล ความรวดเร็วใครๆก็อยากได้เร็วได้ก่อน แต่ความถูกต้องทุกคนต้องคำนึงก่อนจะรวดเร็ว ทุกวันนี้สื่อมวลชนทุกวันนี้แทบจะไม่มีปากกากระดาษในมือละ มีแต่สมาร์ทโฟน ใช้เก็บภาพอัดเสียง และรับข่าวสารจากทั่วประเทศ เพื่อให้สื่อและเวบไซท์ของตัวเองนั้นรวดเร็วและฉับไวกว่าของสื่ออื่น ทำงานง่ายขึ้น ใช้ความพยายามน้อยลง ก็เข้าใจว่าพัฒนาไปตามยุคสมัย แต่บางครั้งความละเอียดหรือการเข้าถึงแหล่งข่าวของสื่อปัจจุบันมันแตกต่างจากอดีต ซึ่งตัวผมเองยังพยายามที่จะผสมผสาน เก่า-ใหม่ ให้ลงตัว เพื่องานข่าวที่สมบูรณ์แบบ
-ขอบเขตของหน้าที่สื่อมวลชนในคำจำกัดความของคุณ
สื่อมวลชนที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนและความถูกต้อง ปัจจุบันมีแต่ความเร็วและการไม่เคารพสิทธิกัน อยากให้คำนึงถึงคุณค่าของข่าวที่ทำออกไปมากกว่าคิดแค่ยอดวิวหรือยอดแชร์ คิดถึงคุณภาพเนื้องานเยอะๆ เพราะผลงานเหล่านี้จะแสดง บ่งบอกความเป็นตัวเราไปอีกยาว และจะสามารถทำประโยชน์ให้กับคนรุ่นหลังๆในภายภาคหน้า ดังนั้นทำอะไร เขียนอะไร ก็อยากให้คำนึงถึงจุดนี้ด้วย งานของเราจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อสามารถทำประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ
-มีคนข่าว-ช่างภาพ ในดวงใจมั้ยค่ะ // ใครค่ะ
เมื่อก่อนนี้ มีช่างภาพเก่งๆที่เราอยากจะถ่ายได้อย่างเค้าหลายคน เช่น ทวีชัย เจาวัฒนา, ไชยวัฒน์ พุ่มพวง, แมน น้อยพิทักษ์ อาจารย์ด้านถ่ายภาพที่ยังคงเคารพนับถือ
ส่วนอาจารย์ด้านข่าว พี่แป๊ะ สมศักดิ์ และพี่นอ พนอ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ที่นับถือและเป็นอาจารย์การทำข่าว สอนน้องๆมาทุกยุคทุกสมัย จนถึงทุกวันนี้เจอกันก็ยังได้รับคำสั่งสอนจากพี่ทั้งสองอยู่ตลอด ไม่เพียงแค่งานแม้กระทั่งการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน ถือเป็นแบบอย่างที่ดี เด็กทุกยุคเคารพรัก ไม่ถือตัว ใจดี เป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กๆ นักข่าวอาชญากรรม โดยสายเลือดทุกคนต้องรู้จักสองคนนี้ ถ้าไม่รู้จักแสดงว่ายังเข้าไม่ถึงความคลาสสิค ของการทำข่าวอาชญากรรม
-มีความสุขกับการทำงานสายนี้มั้ย? คิดจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือเปลี่ยนสายงานรึเปล่า?
ความสุขของผมทุกวันนี้คือการทำในสิ่งที่รัก การทำข่าวมีความสนุกตื่นเต้น การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่รัก การได้ทำสองสิ่งคู่กันทุกวันมีความสุขกับมันมา15ปี ส่วนเรื่องธุรกิจส่วนตัวก็อยากจะทำแต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาแต่มีความชอบทำอะไรหลายๆอย่างและสนุกกับมันทุกอย่างเพราะเราทำด้วยความสุขกับมัน
-มองสังคมเด็กนักข่าวยุคใหม่เป็นอย่างไร?
นักข่าวสมัยใหม่ต้องยอมรับนะครับว่าโตเร็วพัฒนาเร็วตามยุคดิจิตอล การติดต่อสื่อสารกับแหล่งข่าวง่ายขึ้นเจอหน้าจำหน้ากันได้มากขึ้น แต่คำว่าเร็วและมากขึ้นนี่แหละ #มากไปไม่พอดี ก็ไม่ใช่เรื่องดี การได้ข่าวสารมา ไม่ได้ผ่านการกรอง เอาเร็วเข้าว่า ควรจะวิเคราะห์และหาข้อมูลยืนยันสิ่งที่ตัวเองมีให้มากขึ้น มิใช่ทำเร็วแต่ไม่ถูกต้อง ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่สิ่งที่เราทำ
-ตำรวจที่เราเคารพรักและมองว่าเค้าทำงานดี มีคุณภาพ
มีหลายคนนะครับ ที่เคารพนับถือการทำงาน
ระดับผู้การ ยกให้ ผู้การกบ ผู้การ บก.น.4. ของน้องๆ เข้าใจการทำงานของนักข่าวและลูกน้องของตนเอง แต่ละคดีฉับไวไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ให้เวลาลูกน้องทำงานและให้สื่อได้ข่าวที่ตรงและถูกต้อง
ระดับ รอง ผบก. ยกให้พี่แพะ รอง ผบก.สส.บชน. รู้จักกันมาหลายปีไม่เคยลืมน้องคนนี้เลย
ระดับผกก. ก็ต้องเป็น พี่ต่อ ผกก. คอมมานโด ทำงานหนักตลอดปีแถมเวลาให้ครอบครัวก็ไม่เคยขาด
ถ้ารอง ผกก. พี่ตู้ รอง ป. สน.สุทธิสาร เป็นพี่ที่ทำงานแบบปิดทองหลังพระ
-ฝากอะไรถึงพี่น้องตำรวจ แล้วก็เพื่อนๆนักข่าวหน่อยค่ะ
การทำงานทุกวันนี้อยากให้น้องๆนักข่าวเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ตร. ก็มีหน้าที่ เราก็มีหน้าที่ ควรให้เกียรติกันในหน้าที่ของแต่ละคน ทั้ง นักข่าวและตำรวจ คือหัวโขนในสังคมครับ
– คำถามสุดท้ายมีแฟนรียังคะ ?
“มีแล้วครับ คบกันได้ 10 ปีละ”