Thursday, November 21, 2024
More
    Homeข่าวทั่วไปรองนรม.มอบหมายเสธ.หิมาลัย รับเรื่องร้องเรียน รพ.วินิจฉัยผิดทำพ่อเสียชีวิต

    รองนรม.มอบหมายเสธ.หิมาลัย รับเรื่องร้องเรียน รพ.วินิจฉัยผิดทำพ่อเสียชีวิต

    “พีระพันธุ์ ส่ง ดร.หิมาลัย ขึ้นลำปางรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีรพ.แห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง วินิจฉัยโรคผิด สุดท้ายผู้ป่วยอาการทรุดจนเสียชีวิต

    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงร้องเรียนร้องทุกข์  เดินทางมาให้กำลังใจและรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายวัชระ บุรณะเครือ ประชาชนชาวตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง บุตรชาย ของนายณรงค์ บูรณะเครือ เป็นผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.ลำปาง  วินิจฉัยโรคผิดจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต

    ดร.หิมาลัย เปิดเผยว่า” เรื่องดังกล่าว ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากการเผยแพร่ในโซเชียลต่างๆ  ได้มอบให้ตนในฐานะคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงร้องเรียนร้องทุกข์  มาให้กำลังใจพร้อมสอบถามข้อเท็จจริงในเบื้องต้น และรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่บ้านพักของนายบอล ลูกชายผู้เสียชีวิต พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว

    หลังจากนี้ทาง ผอ.รพ.แห่งนี้ก็ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องของการรักษาผู้ป่วยจนเสียชีวิตว่าเกิดปัญหามาจากอะไร และจะแสดงความรับผิดชอบกรณีนี้อย่างไร” ดร.หิมาลัย กล่าว

    ด้านนายวัชระฯ ได้เปิดเผยว่า  ได้ประสานขอความเป็นธรรมผ่าน ดร.นงค์เยาว์ อาทิตยานนท์ สถานียุติธรรมพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.ลำปาง ให้ติดต่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี/คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงร้องเรียนร้องทุกข์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปางวินิจฉัยโรคผิด ทำให้บิดาของตนคือนายณรงค์ฯ ผู้ป่วยและเสียชีวิต

    นายวัชระฯได้ให้รายละเอียดว่าเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา นายณรงค์ฯ บิดาของตนซึ่งมีอายุ 60 ปี ปวดท้องอย่างรุนแรงทุรนทุราย หายใจติดขัด   ได้เรียกรถพยาบาลฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยมารับตัวและได้ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อไปถึงโรงพยาบาลฯมีเจ้าหน้าที่เวรเปลมารับตัวผู้ป่วย และส่งตัวไปรอคิวตรวจที่ห้องกระดูกและข้อ

    จนกระทั่งเวลา11.00 น. ได้ไปสอบถามมารดาที่รอเฝ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน และถามว่าคนไข้ยังอยู่ที่จุดใด  ทราบว่าทางโรงพยาบาลส่งคนไข้ไปยังห้องตรวจตึกผู้ป่วยนอก  เป็นห้องตรวจกระดูกและข้อ  เห็นว่ามันไม่ตรงกับอาการผู้ป่วย และสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยหายใจติดขัด ดิ้นทุรนทุรายหนักขึ้น  ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลฯ ให้รีบนำบิดาส่งไปห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน

    พยาบาลฯ ให้ความเห็นว่าถ้ารอเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะล่าช้า  ให้ตนฯนำบิดาไปส่งด้วยตนเอง  จึงได้นำไปส่งยังห้องฉุกเฉิน  ขณะนั้นคนไข้มีอาการชีพจรหยุดเต้น ทีมแพทย์รีบให้การรักษา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  แพทย์ให้ความเห็นว่าผู้ป่วยมีอาการเส้นเลือดโป่งพองในช่องท้องและแตก เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต

    ตนและครอบครัวได้รับศพบิดาไปบำเพ็ญกุศล และฌาปนกิจที่สุสานร่องสามดวงในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตนและครอบครัวได้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของบิดาของตน น่าจะเกิดจากความล่าช้าในรักษามีการวินิจฉัยโรคผิดตั้งแต่ต้น ทำให้เสียเวลารักษาเกือบ 2 ชั่วโมง เนื่องจากการรักษาครั้งนี้ ตนและครอบครัวได้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นเงินร่วม 600,000 บาท

    ดังนั้นตนและญาติจึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้โรงพยาบาลดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบและเป็นอุทธาหรณ์เป็นกรณีตัวอย่าง ในการดูแลรักษาผู้ป่วย จะได้ไม่เกิดการสูญเสียเหมือนบิดาของตนเอง อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดเหตุทางโรงพยาบาลแห่งนี้ยังไม่ได้ติดต่อเพื่อชี้แจงแต่อย่างใด

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments