สืบนครบาล ตามรวบคู่โจรแสบตระเวนทุบกระจกรถฉกทรัพย์สินกลางกรุง เหิมเอาบัตรเครดิตผู้เสียหายรูดซื้อสินค้ากว่า 2 แสน เงินที่ได้นำไปซื้อยาเสพติดเสพ พบประวัติเพียบ
ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้จอดไว้ในโรงแรมใจกลางเมืองกรุงเทพในช่วงกลางวัน แล้วถูกคนร้ายทุบกระจกรถฉกเอาทรัพย์สินและเอกสารสำคัญที่วางไว้ภายในรถไป จากนั้นคนร้ายยังนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อสินค้ากว่า2แสนบาท
วันที่ 25 พ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 26 พ.ค. 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก. สส. บช.น., พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ. อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส. บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ และ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ กิตติมาศ สว.กก.สส.3ฯ
สั่งการ ร.ต.อ.ปณวัฒน์ จอกสุวรรณ์ ร.ต.อ.ปิ่น มหถาวร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4)
จับกุมนายณธกร หรือต้น อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่จ.483/2567 ลง 24 พฤษภาคม 2567 (สน.ทองหล่อ) และนายวชรกร หรือเก่ง อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.482/2567 ลง 24 พฤษภาคม 2567 (สน.ทองหล่อ)
ฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสาร
ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ โดยเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตร อิเล็กทรอกนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสดฯ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม” จับกุมได้ที่หน้าอู่ซ่อมรถ ซ.เทพลีลา 12 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม..
ตรวจพบของกลางจากนายณธกร อีก5 รายการ ได้แก่ แท่งเหล็กปลายสว่าน 2 แท่ง (ใช้สำหรับงัด/ทุบกระจกรถยนต์)โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone รุ่น 12 Pro Max สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง ปืนแบลงค์กันพร้อมซองกระสุน 1 กระบอก รถยนต์ยี่ห้อ Nissan รุ่น Fairlady สีเทา จำนวน 1 คัน (รถผิดกฎหมาย)
และจับกุม นายวชรกร หรือเก่ง ได้ที่ อพาร์ทเมนท์ ซอยแจ่มจันทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.พบยาเสพติดจากนายวชรกร ได้3 รายการได้แก่ยาไอซ์) 6 ถุง น้ำหนักรวม 5.79 กรัม
ยาอี 1 ถุง น้ำหนักรวมถุง 0.55 กรัม เคตามีน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุง 0.85 กรัม
ก่อนนี้เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567 เวลา 09.30 น.ผู้เสียหายขับรถยนต์ (ป้ายแดง)จอดไว้ที่ลานจอดอาคารจอดรถชั้น 5 โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ หลังจากนั้นได้เข้าไปสัมมนาในโรงแรมฯ จนกระทั่งวันเดียวกัน เวลา 16.29 น.กลับมาที่จอดรถยนต์ พบว่ากระจกประตูหลังด้านซ้ายมีร่องรอยถูกทุบจนแตกละเอียด
พบว่ากระเป๋าเป้สีดำและกระเป๋คาดเอวสีน้ำเงิน และกระเป๋าสะพายที่วางอยู่เบาะด้านหลังหายไป ภายในกระเป๋าทั้งสามใบ มีทรัพย์สินดังนี้ บัตรเครดิตและบัตรอื่นๆ ,เงินสด5,000 บาท หูฟังแอร์พอดโปร 5 และสมุดบัญชีธนาคารกสิกร ,สมุดบัญชีธนาคารบัตรประชาชน ,ใบขับขี่ ,ใบขับรถสาธารณะและบัตรประชาชน
ต่อมาผู้เสียหาย ได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ แจ้งว่ามีการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าหลายครั้งมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
จากการซักปากคำ นายณธกรรับสารภาพร่วมกับนายวชรกร หรือเก่ง ก่อเหตุจริง โดยทำหน้าที่ซ้อนรถและทุบกระจก นายวชรกรทำหน้าที่ คนขี่รถ หลังก่อเหตุนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องไปขายต่อ เงินที่ได้จะนำไปซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ ที่เลือกทุบรถ เพราะว่าสถานที่ดังกล่าวปลอดคน และมองเห็นสิ่งของมีค่าในรถได้ชัด
ส่วนนายวชรกร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ให้การว่ารู้จักนายณธกร หรือต้น เนื่องจากเป็นเพื่อนกินเที่ยวด้วยกันและรับว่ายาเสพติดที่ตรวจพบเป็นของตนที่มีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายจริง
จากการตรวจสอบในฐานระบบข้อมูล พบประวัตินายณธกร หรือต้น ดังนี้1.ตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน),ตัวการพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชน (สน.โคกคราม) ร่วมกันลัทรัพย์(สน.คันนายาว ) ร่วมกันลักทรัพย์ (สน.คันนายาว)
ตรวจสอบประวัติของ นายวชกร หรือเก่ง พบมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (นอกเหนือจากแอลเอสดี หรือเมตแอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 กรัมขึ้นไป ( สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี )จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนและห่วงใยประชาชน ปัญหาการถูกทุบกระจกรถขโมยทรัพย์สินเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบาดแพร่สะพัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สร้างความเดือดร้อนทั้งต่อทรัพย์สินและการเสียเวลา
ฉะนั้นฝากเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจร ไม่จอดรถในที่เปลี่ยว ที่ไม่มีผู้คนผ่านไปมาหรือตามตรอกซอกซอยลึก เลี่ยงการจอดรถริมถนนยามค่ำคืน แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องจอดริมถนน ควรเลือกบริเวณที่มีแสงสว่างมากที่สุดและมีผู้คนสัญจรไปมา ไม่ทิ้งของมีค่าไว้ในรถ ถ้าคุณไม่สามารถเลือกที่จอดได้ และต้องรถในที่เปลี่ยวและมืด ไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้ในรถ
ทางที่ดีควรหยิบของมีค่าติดมือลงจากรถไปด้วย ติดสัญญาณกันขโมย ถึงแม้สัญญาณอาจจะไม่สามารถป้องกันการถูกลักทรัพย์ได้เต็ม 100% แต่ก็ยังช่วยชะลอการก่อเหตุหรืออาจทำให้โจรเตลิดหนีไปได้