หนุมานกองปราบเปิดปฏิบัติการเทคดาวน์มาเฟีย ล้างบางอิทธิพลเถื่อน ลุยค้น 15 จุด พัทลุง- สงขลา รวบ “เชษฐ์ ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์ พร้อมกำนันฑูรย์ และ พ.ต.ท. ทีมมาเฟีย สั่งฆ่า “หมีป่าบอน” คนสนิท “เสี่ยแป้งนาโหนด” ปมสางแค้นถูกลูบคมยกพวกทวงหนี้
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 พ.ค.67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน.บก.ป. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ“หนุมานกองปราบ ” เจ้าหน้าที่กก.6 บก.ป.ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 รวมกว่า 120 นาย
เปิดปฏิบัติการ TAKEDOWN MAFIA กวาดล้างอิทธิพลเถื่อนซุ้มมือปืนภาคใต้ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุด แบ่งเป็นพื้นที่จ.สงขลา 10 จุด จ.พัทลุง 5 จุด จับกุมผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่า9 หมายจับ
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว เกิดจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2567 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามหลายชนิด ทั้งเอ็ม 16 และปืนอาก้า ยิงถล่มนายประศาล คงนุ่น ฉายา “หมีป่าบอน” อายุ 54 ปี อาชีพผู้รับเหมาเสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ริมถนนในหมู่บ้านห้วยปลิง ม. 4 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี
ชมคลิปนาทีปฏิบัติการ คลิก https://youtu.be/_IYpMEBu7H0?si=TI_EfXq40AWwgF4Y
ผู้การมนตรีนำทีมลุย
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า พฤติกรรมการก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หลังเกิดเหตุสั่งการเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป.ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้าย จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้จ้างวาน คนรับงาน และ กลุ่มมือปืนผู้ก่อเหตุ จนนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้มีอิทธิพล มาเฟีย มือปืนรับจ้าง ในพื้นที่ให้หมดไป และเป็นการป้องปรามไม่ให้เติบโตกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมในอนาคต”
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายประศาล ผู้ตาย ตรวจสอบประวัติทราบว่าเป็นคนสนิทของนักโทษชาย เชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ย “แป้ง นาโหนด” ผู้ต้องหาหลายคดี ทั้งคดีปล้น คดีพยายามฆ่าคดีอาวุธปืน และยังเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
ทวงเงิน“เชษฐ์ ปาดัง”ชนวนดับ
ส่วนชนวนเหตุสั่งตายแนวทางสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประศาลรับงานเป็นคนกลางไปทวงเงิน นายกรรัก หรือ เชษฐ์ ปาดัง อายุ 43 ปี เลขานุการนายกเทศมนตรี และเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการหนึ่งในรัฐสภา. มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับ นักการเมืองระดับประเทศ
ใช้กำนันฑูรย์จัดหามือปืน
ในระหว่างที่ทวงเงินทั้งสองได้มีปากเสียงกัน สร้างความไม่พอใจให้กับ นายกรรัก เป็นอย่างมาก นายกรรัก จึงได้ติดต่อให้ นายไพฑูรย์ หรือ กำนันฑูรย์ คนสนิท เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.พัทลุง ให้จัดหามือปืน มาสังหารผู้ตาย
ส่งงานต่อพ.ต.ท.ลูกพี่ลูกน้อง
หลังจากรับงาน นายไพฑูรย์ ได้ให้ พ.ต.ท.ปัญญา ตํารวจในพื้นที่ จ.พัทลุง เป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเอง จัดหามือปืน ผ่านนายกิตติกร ให้จัดหามือปืนให้อีกทอดหนึ่ง ก่อนว่าจ้างกลุ่มมือปืนมารับงานก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งในวันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่ากลุ่มมือปืนดังกล่าวแบ่งหน้าที่กันลงมืออย่างชัดเจน ตั้งแต่คนทําหน้าที่ปลอมตัวไปตรวจสอบผู้ตาย คนชี้เป้า ให้กับผู้ที่ทําหน้าที่สังหาร จนสามารถก่อเหตุได้สําเร็จ
ผบก.ป.บุกจับจอมบงการ
สำหรับเป้าหมายสำคัญขอบการกวาดล้างจับกุมจุดแรก พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภูธรภาค 9 ตำรวจ กว่า 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 2113/22 หมู่ 6 ถ.ลพบุรีราเมศวร์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านนายกรรัก หรือ เชษฐ์ ปาดัง อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาฯ ที่ 2422/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค.2567 ข้อหา”ร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
วงจรปิดติดสายไฟรอบบ้าน
จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด บนกำแพงบ้านมีการต่อสายไฟปล่อยไฟฟ้าเพื่อป้องกันผู้บุกรุก และมีกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัว แต่ภายในบ้านกับมีการซุ่มมองลงมาและปิดไฟภายในบ้าน เห็นเจ้าหน้าที่จึงนำคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่เพื่อตัดกุญแจรั้วบ้าน
เจอหนุมานยอมจำนนให้จับ
เมื่อเห็นดังนั้น นายกรรัก ได้รีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น โดยนายกรรัก แจ้งว่า ภายในบ้านมีลูก เมีย และ ป้า ก่อนเข้าตรวจค้นพบปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 4 กระบอก เป็นปืนสั้น 2 กระบอก ปืนยาวอีก 2 กระบอก สอบสวน นายกรรัก ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร
รองผู้การป.บุกรวบกำนันฑูรย์
เป้าหมายจุดสำคัญต่อมา พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ชุดปปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 260 ม.4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บ้านพักของ นายไพฑูรย์ หรือ กำนันฑูรย์ อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี เนื่องจากเป็นคนช่วยจัดหากลุ่มมือปืนมาก่อเหตุ พบ นายไพฑูรย์ นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จับกุมเอาไว้ได้ พร้อมเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบ้านพัก
ลุยพัทลุงตะครุบ พ.ต.ท.รับงาน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 264 ม.4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บ้านพักของ พ.ต.ท.ปัญญา สว.(สอบสวน) สภ.ปากพะยูน ญาตินายไพฑูรย์ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหามือปืนเช่นเดียวกันทันทีที่ไปถึงพบ พ.ต.ท.ปัญญา กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงหมายจับก่อนเข้าจับกุมตัวได้เช่นเดียวกัน
ปิดล้อมควนเนียงล่ามือปืน-คนขับรถ
ส่วนเป้าหมายจุดสำคัญต่อมาเป็นบ้านเลขที่ 144 ม.7 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แหล่งกบดานของ นายธีรพงษ์ หรือบอย อายุ 34 ปี มือปืนผู่ก่อเหตุ กับ นายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม อายุ 32 ปี คนขับรถพาไปก่อเหตุ จุดนี้ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. เฝ้ารอจนฟ้าสว่าง ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป.ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่
จับไอ้เอ็มคนขับ-ไอ้บอยมือปืนหนี
แต่เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิด อยู่ใกล้กับแนวป่า ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองรายเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามไปอย่างใกล้ชิด ก่อนจับกุม นายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม ได้ 1 ราย ส่วนนายธีรพงษ์ หรือบอย มือปืนนั้นอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้
ยึดเก๋งโตโยต้าคาดใช่ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตามหลังการจับกุมนายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม ได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขยายผลตรวจยึดรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง คันที่ใช้วันก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ที่อู่ซ่อมรถ ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีอย่างไรก็ตามในส่วนของรายละเอียดภาพรวมของปฏิบัติการดังกล่าว จะมีการสรุปผลชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงบ่ายของวันนี้