เมื่อวันที่ 17-20 มิ.ย.67 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล , พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ,พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.เถกิงวุฒิ กิตติศุภคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปคม.พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.4 บก.ปคม. พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม.นำคณะเข้าดูงานเมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่วันที่ 17-20 มิ.ย.
โดยที่แรกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเมืองคุนหมิง มีนายขง ยี่ผิง (KONG YIPING) รอง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้การต้อนรับพร้อมทั้งพาเยี่ยมชมการทำงานของตรวจคนเข้าเมือง
นายผิง กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนยุคนี้เน้นใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน คนจีนที่จะขอหนังสือเดินทางสามารถที่จะดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์แอปพลิเคชันวีแชทโดยกรอกข้อมูลมาจากที่บ้านได้เลย เมื่อมาถึงก็ทำผ่านตู้อัตโนมัติประมาณ 2 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย อีกไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็สามารถมารับหนังสือเดินทางได้เลย ซึ่งมีความสะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมากส่วนผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่สะดวก จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการช่วยเหลือ
ทั้งนี้หลังประเทศจีนและไทยต่างเปิดฟรีวีซ่าพบว่ามีชาวจีนจากเมืองคุนหมิงเดินทางไปเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้้น ส่วนคนไทยก็มาเที่ยวที่คุณหมิงมากขึ้นเช่นกัน โดยในเมืองคุนหมิงพบว่ามีชาวไทยที่มาอาศัยในเมืองนี้มีประมาณ 500 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ซึ่งไม่ค่อยมีปัญหาอาชญากรรมหรือค้ามนุษย์แต่อย่างใด
จากนั้นทางคณะได้เข้าพบ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร กงสุลฝ่ายตำรวจ ประจำสถานกงสุลใหญ่ นครคุนหมิงพูดคุยถึงสถานการณ์ค้ามนุษย์ โดยเฉพาะช่วงมีการสู้รบในเมืองเล้าก่าย ประเทศเมียนมา มีการอพยพคนไทส่วนหนึ่งซึ่งรวมถึงแก๊งคอลเซนเตอร์ มาขึ้นเครื่องบินที่เมืองคุนหมิง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด รวมทั้งปัญหาคนไทยที่ถูกดำเนินคดีในประเทศจีน ขณะนี้มี44คน แทบทั้งหมดเป็นคดียาเสพติด
ต่อมาทางคณะได้เข้าประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง Lancang-Mekong Intergrated Low Enforcement And Security Cooperation Center (LM-LECC) โดยมี นายอิ๋ว เสี่ยวเหวิน (You Xiaowen) รักษาการเลขาธิการ LM LECC นายเจียง สุ่ย (Jiang Shui) รอง เลขาธิการ LM LECC ให้การต้อนรับ
นายอิ๋ว เสี่ยวเหวิน กล่าวว่า กลุ่ม LM LECC ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในแม่น้ำโขง ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นคดียาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ อันเป็นความร่วมมือของกันระหว่าง 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และไทย ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากกลุ่มสมาชิกเป็นอย่างดี
ประชุมล่าสุดที่ ประเทศเมียนมา เราได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาความร่วมมือให้มากขึ้นกว่านี้ โดยจะมีการรวมรวมข้อมูลจัดเก็บเป็นระบบดาต้าขนาดใหญ่ ทำเป็นระบบออนไลน์ ให้เจ้าหน้าที่สมาชิกสามารถหาข้อมูลประวัติอาชญากรรมต่างๆ ทั้งยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ และให้ช่วยกันรวบรวม แชร์ข้อมูลข่าวสารไปในระบบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่อยๆ จัดเจ้าหน้าที่มาประชุมร่วมกันบ่อยๆ
นอกจากนี้เรายังมีห้องแลปตรวจสารเสพติดเพื่อสะดวกในการทำงานอีกด้วย โดยตนได้เน้นย้ำกันเรื่องปฏิบัติความร่วมมือ การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศ สร้างข้อตกลงร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
นายเจียง กล่าวว่า เราได้ออกร่วมตรวจลาดตระเวนบริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด สม่ำเสมอโดยเพิ่มระบบความปลอดภัยกับเจ้าหหน้าที่มากขึ้นทั้งจัดหา อาวุธ เสื้อเกราะหมวก ที่ทันสมัยให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ โดยมีการเพิ่มเรือตรวจการณ์เป็น 26 ลำ ตรวจตรา ลาดตระเวน อยู่ตลอดเวลา
ที่ผ่านมาเราได้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ไปแล้วกว่า 1,500 นาย โดยมีเจ้าหน้าที่ไทยมาเรียนภาษาจีนกับเราด้วย ต่อไปนี้เราอยากให้ไทยเข้าร่วมกับเรามากขึ้นเพื่อแชร์ข้อมูลร่วมกัน ซึ่งเราได้สร้างห้องปฏิบัติการไว้รับรองเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว
“ตั้งแต่ตั้ง LM LECC ก่อตั้งพบว่าช่วยลดอาชญากรรมได้มากขึ้น นอกจากจะร่วมมือกันจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์และ แก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว แต่ละเดือนเรายังช่วยชาวบ้านที่เกิดอุบัติ เหตุในแม่น้ำโขงได้ 39 ราย”
นายเจียง กล่าว
นายเจียง กล่าวอีกว่า เเม่น้ำโขงเป็นเส้นทางการค้าทางน้ำที่สำคัญมาก ทางเราพยายามให้เกิดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อหาความร่วมมือ สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการทำงาน ฝากให้ทางการไทยพิจารณาดู เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติการร่วมกับเรา เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด เมื่อเส้นทางแม่น้ำโขงมีความปลอดภัยก็จะทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตไปด้วยกัน ทำมาค้าขายระหว่างประเทศกันสะดวกสบาย โดยมีจีนเป็นเจ้าภาพ ขอให้ประเทศภาคีทุกประเทศส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมปฏิงานด้วยกัน
“องค์กรนี้ให้ความเสมอภาค ไม่ก้าวก่ายกัน อยากให้มาร่วมมือเป็นสมาชิก เชื่อว่าเมื่อไทยมาเข้าร่วมปฏิบัติแล้วจะทำให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะไทยมีบทบาทสำคัญต่อแม่น้ำโขง อย่างมาก”
นายเจียง กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.กล่าวว่า บก.ปคม.เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับการค้ามนุษย์โดยตรง ปีที่ผ่านมาจับกุมคดีค้ามนุษย์กว่า 300 คดี พบว่า 50 เปอร์เซ็นต์มีการนำเด็กไปค้าประเวณี และคดีขายวิดีโอลามกและเด็กอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือบังคับใช้แรงงาน ขอทาน วันนี้ทางเราได้มาประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความร่วมมือกับทาง LM LECC เชื่อว่าต่อไปจะมีการร่วมมือการทำงานมากขึ้น ถือเป็นประโยชน์อย่างมากในการมาดูงานครั้งนี้