วันที่3 ก.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดารงชัย ผกก.สส.บก.ตม.๓ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหารายสาคัญ ดังนี้
1. กก.สส.บก.ตม.3 รวบหนุ่มเวียดนาม ไกด์เถื่อน ปล้นเพื่อนร่วมชาติ มูลค่าความเสียหายกว่า ล้านบาท
กก.สส.บก.ตม.3 จับกุม MR.NONG (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ชาวเวียดนาม ตามหมายจับศาลอาญา พระโขนง ที่ จ.501/2566 ลงวันที่ 28 ส.ค.2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทาความผิด ด้วยกันต้ังแต่สามคนข้ึนไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ทาร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็น เหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ริมถนนเศรษฐกิจ 1 ม.2 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2566 เกิดเหตุปล้นทรัพย์ในท้องที่ สน.พระโขนง จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นสัญชาติเวียดนาม มีพฤติการณ์หลอกเหย่ือว่าเป็นไกด์นาเที่ยว โดยจะเลือกเหยื่อสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากสามารถสื่อสารกันเข้าใจ วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันท่ี 16 ส.ค.66 ทางท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ
ต่อมา MR.NAM ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนามผู้ก่อเหตุ ได้รับการติดต่อจาก MR.TRAN (ผู้เสียหาย) สัญชาติเวียดนามกับเพื่อนรวม 8 คน ให้เป็นไกด์นำเที่ยว โดย MR.TRAN กับเพื่อนท้ัง 8 คน ได้เช่าบ้านพัก อยู่ในซอยสุขุมวิท 101 ถนนปุณณวิถี 49 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ของ วันที่ 21 ส.ค.2566 MR.NAM พร้อมพวกจานวน 7 – 8 คน ได้เข้ามาที่บ้านพักดังกล่าวแล้วใช้อาวุธมีดปลายแหลม ขู่บังคับให้ MR.TRAN กับเพื่อนให้เข้าไปอยู่ในห้องพัก จากนั้นใส่กุญแจมือและใช้โซ่เหล็กล่ามขา MR.TRAN กับเพื่อนไว้ ในห้อง แล้วไดท้ าร้ายร่างกายและบังคับให้ MR.TRAN กับเพ่ือนส่งมอบเงินสดและโทรศัพท์มือถือให้ ในเวลาต่อมาได้มี เพ่ือนของ MR.TRAN มาเรียกท่ีบริเวณหน้าบ้านพัก MR.NAM กับพวกจึงได้พากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ
MR.TRANได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนาม ได้หลบหนีออกนอก ประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 2 ในวันที่ 26 ส.ค.2566 ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคาร้องต่อศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 13 ราย
กก.สส.บก. ตม.3 จึงได้ประสานข้อมูลกับ สน.พระโขนง เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่า MR.NONG หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนามผู้ก่อเหตุและศาลได้อนุมัติหมายจับ ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้หลบหนี หมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้ติดตามจับกุมนาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.รวบคู่รักแสบจีน-คาซัคนานาฬิกาปลอมหรูเกรดA+ หลอกขายร้านนาฬิกาแบรนด์ดัง ความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าว 2 ราย ดังนี้1. นายอัลคัส (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติคาซัค ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.163/2567 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” 2. นางสาวบิลลี่ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.164/2567 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียมภายใน ซ.สุขุมวิท 32 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
จากกรณีที่นายอัลคัส และนางสาวบิลลี่ ผู้ต้องหา ได้ร่วมกันหลอกให้นายหน้านำนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe ของผู้ต้องหา แจ้งกับผู้เป็นนายหน้าซื้อขายว่าจะจ่ายเงินค่าตอบแทนในการนาไปขายให้ เรือนละ 800 ดอลล่าห์สหรัฐ
เมื่อนายหน้าตกลง ผู้ต้องหาได้นำนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe พร้อมเอกสารจากร้านที่รับตรวจสอบ นาฬิกาที่มีชื่อเสียง อ้างว่าเป็นเอกสารรับรองของจริง เมื่อนายหน้าได้นำนาฬิกาไปขายให้กับร้านนาฬิกาชื่อดัง แห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหาย จากนั้นนายหน้าได้โอนเงินให้กับผู้ต้องหาจากการขายนาฬิกาหลายครั้ง
เมื่อเจ้าของ ร้านนาฬิกาผู้เสียหาย ได้ตรวจสอบพบว่านาฬิกาและเอกสารรับรองนาฬิกาเป็นของปลอม รวมมูลค่าการซื้อขาย กว่า 12 ล้านบาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อให้ดาเนินคดีกับผู้เป็นนายหน้าและได้เจรจายอมความกันโดยนายหน้ายินยอมชดใช้ค่าให้หายให้กับผู้เสียหาย และได้แจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับนายอัลคัส นางสาวบิลลี่ ต่อมาศาลแขวงพระนครใต้ได้ออก หมายจับนายอัลคัส นางสาวบิลลี่ ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” ก่อนจับกุมได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3. รวบหนุ่มเมืองเบียร์ OVERSTAY พบประวัติก่อคดีพยายามฆ่าเพื่อนร่วมชาติ
กก.2 บก.สส.สตม. จับกุม นายอัลเมด (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชาวเยอรมัน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินการคดกี ฎหมาย สถานที่จับกุม โรงแรมภายในซอยสุขุมวิท ๔ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
กก.2 บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนว่ามีโรงแรมภายในซอยสุขุมวิท 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ บางแห่งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยแล้วไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทราบ ระหว่างตรวจสอบพบนายอัลเมด จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางและข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว
ได้สอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจาประเทศ ไทยรับแจ้งว่านายอัลเมดเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กรอาชญากรรมไดก่อเหตุทะเลาะวิวาทและได้พยายามฆ่าโดยใช้อาวุธ ปืนยิงฝ่ายตรงข้ามจานวน 4 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส กก.2 บก.สส.สตม.จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหา เป็นคน ต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และหลังจากคดีสิ้นสุดจะได้ส่งนายอัลเมดกลับไปยังประเทศเยอรมนี ต่อไป