ผบ.ตร.มอบหมาย รอง ผบ.ตร.ติดตามคดีผู้ต้องหายาเสพติดยิงตำรวจ สภ.นาหวาย บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมเยี่ยมตำรวจที่บาดเจ็บ และสั่งดูแลสิทธิประโยชน์ตำรวจที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่
วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าคดียาเสพติดที่ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
มี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ติ๊บมา ผกก.สภ.นาหวาย และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย นำกำลังปิดล้อมบ้านผู้ค้ายาเสพติด ที่บ้านเจียจันทร์ หมู่ที่ 13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันและหลบหนี เมื่อพบกับตำรวจจึงใช้ปืนลูกซองยิงใส่ ทำให้ ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์คำ ผบ.หมู่ ฝ่ายสืบสวน สภ.นาหวาย บาดเจ็บสาหัส ถูกยิงที่บริเวณลำคอ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลเชียงดาว ร.ต.อ.จีระพล วังแสง รอง สว.ฝ่ายสืบสวน สภ.นาหวาย ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงดาว และส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสันทราย สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนติดตามจับกุม
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้กำชับการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ โดยใช้หลักยุทธวิธีในการจับกุมผู้ต้องหา และปฏิบัติตามหลักกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำวิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการก่อนเข้าปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญหรือมีอาวุธปืน โดยบูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ พร้อมคณะ ได้ไปเยี่ยมบำรุงขวัญ ร.ต.อ.จีระพล วังแสง รอง สว.ฝ่ายสืบสวน สภ.นาหวาย ที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ซึ่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ โดยได้พูดคุยให้กำลังใจพร้อมมอบของเยี่ยมและเงินช่วยเหลือ
สำหรับ ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์คำ ผบ.หมู่ ฝ่ายสืบสวน สภ.นาหวาย ผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือกับให้ภรรยาของ ส.ต.ท.ศรัณยูฯ ณ ห้องรับรองตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 5 ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และยกย่อง ส.ต.ท.ศรัณยูฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนวินาทีสุดท้ายอย่างสมเกียรติตำรวจไทย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อไป