ก.พ.ค.ตร.กำหนดวันจัดทำคำวินิจฉัยแล้วเสร็จและจัดส่งคำวินิจฉัยให้คู่กรณี ส่วนข่าวในทำนองว่า มีมติแล้ว ด้วยเสียงจำนวนเท่าใด เป็นการคาดเดาของสื่อมวลชนบางแห่งเท่านั้น
วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 13:30 น . คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้นัดประชุมพิจารณาสำนวนอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระหว่างพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อเนื่อง
นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ ประธาน ก.พ.ค.ตร. ได้เรียกประชุม ก.พ.ค.ตร. พิจารณาสำนวนอุทธรณ์ต่อเนื่อง โดยมีกรรมการเข้าร่วมประชุมครบจำนวน 6 ทุกท่าน
ด้วยปรากฎว่า คู่กรณีได้ยื่นคำแถลงเป็นหนังสือมากกว่า 290 หน้าและแถลงด้วยวาจาต่อ ก.พ.ค.ตร. มากกว่า 2 ชั่วโมง ร่วมกับคำอุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ คำชี้แจง และพยานหลักฐานอื่นที่ ก.พ.ค.ตร. ได้มาจากการแสวงหาข้อเท็จจริงไว้ก่อนหน้านี้กว่า 300 หน้า
ดังนั้น เมื่อดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่กรณี ก.พ.ค.ตร. จึงต้องพิจารณาและวินิจฉัยด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
ฉะนั้น ก.พ.ค.ตร. จึงเห็นว่า สำนวนนี้ จะสามารถพิจารณาและจัดทำวินิจฉัย พร้อมจัดส่งคำวินิจฉัยไปให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายทราบตามที่อยู่ที่คู่กรณีแต่ละฝ่ายได้แจ้งไว้ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายในสัปดาห์หน้าส่งข่าวเพิ่มเติม
กรณี ที่ สื่อมวลชน บางแห่ง ออกข่าวว่า “ก.พ.ค.ตร.ตร มีมติแล้ว ด้วยเสียง จำนวนเท่าใดนั้น” ก.พ.ค.ตร.ขอยืนยันว่า ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ และในวันนี้(1สค67)
ก.พ.ค.ตร. ก็ได้พิจารณากันโดยใช้เวลานานแต่ก็ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากเอกสารหลักฐาน ที่ได้จากคำอุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ คำชี้แจงในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริงของกรรมการเจ้าของสำนวน และเอกสารหลักฐานที่ได้จากคำแถลงเป็นหนังสือ และข้อเท็จจริงจากคำแถลงด้วยวาจา ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ต่อ ก.พ.ค.ตร.มีจำนวนมาก
ซึ่ง ก.พ.ค.ตร. ต้องนำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัย อย่างละเอียด ก.พ.ค.ตร.จึงได้นัดพิจารณาต่อเนื่องไปอีก แต่จะมีมติ และจัดทำคำวินิจฉัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อย ไม่เกินวันประชุมสัปดาห์หน้าดังนั้นข่าวในทำนองว่า มีมติแล้ว ด้วยเสียงจำนวนเท่าใด จึงเป็นการคาดเดาไปเองของสื่อมวลชนบางแห่งเท่านั้น