ตำรวจปทส.ทลายโกดังนายทุนไม้เถื่อนข้ามชาติกลางเมืองเชียงใหม่ รวบทหารยศร้อยโท ขณะขนไม้มาส่งนายทุนเจ้าของโกดัง
วันที่ 15 ส.ค.67 พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อรุณ วัชรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. สั่งการ พ.ต.อ.ฌัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่ ซอยหมู่บ้านสวนหัตถกรรม หมู่ที่ 8 ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าหัตถกรรมชื่อดังของเชียงใหม่
จากการตรวจค้นพบไม้ชิงชันแปรรูป ขนาด 12×12 นิ้ว และขนาด 8×8 นิ้วรวมทั้งหมด 65 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูป 70 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และขนาด 13 นิ้วหนา 1 นิ้ว 115 แผ่น นอกจากนี้ยังพบปมไม้ประดู่ทั้งหมด 20 ชิ้น น้ำหนักกว่า 1 ตัน รวมมูลค่า 1.7 ล้านบาท
ขณะตรวจค้นมี นางกานดา อายุ 41 ปี รับว่าอาศัยอยู่ที่โกดังดังกล่าวมานานนับ 10 ปี ต่อมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เจ้าของโกดังได้นำไม้แปรรูปมาพักไว้ในโกดัง โดยไม่ทราบว่าเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้มีหน้าที่เพียงคอยเปิด-ปิดประตูโกดังเท่านั้น จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังจับกุม ร.ท.บัญชา อายุ 45 ปี ทหารสังกัดทางภาคเหนือ ขณะขับรถกระบะนำไม้ประดู่มาส่งที่โกดังดังกล่าว พร้อมยึดไม้หวงห้ามแปรรูป (ประดู่) 15 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.550 ลูกบาศก์เมตร มูลค่า 1 แสนกว่าบาท โดย ร.ท.บัญชาให้การว่าซื้อไม้มาจาก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ทราบว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย และกำลังเอาไปส่งให้กับนายทุนเจ้าของโกดัง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง ดำเนินคดีต่อไป
จากการสืบสวนทราบว่าไม้ประดู่และไม้ชิงชันล็อตนี้ได้เตรียมส่งขายให้นายทุนต่างประเทศ ด้วยการปะปนอำพรางกับสินค้าหัตถกรรม ส่งออกไปยังต่างประเทศทางเรือ ซึ่งไม้ชิงชัน และไม้ประดู่เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ เชื่อว่าเป็นไม้มงคล ทำให้มีความต้องการและมีราคาสูง โดยไม้ชิงชันหากสามารถนำออกไปต่างประเทศได้จะมีราคากิโลกรัมละ 1,500 บาท ส่วนไม้ประดู่ราคากิโลกรัมละ 300 บาท
ขณะที่ปมประดู่ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะพิการ จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2 พันบาท หากไม้เถื่อนล็อตนี้ส่งไปยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ด้วยราคาสูงล่อใจ ทำให้มีการลักลอบตัดไม้ประดู่ และไม้ชิงชันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ อ.ฮอด อ.แม่แจ่ม และ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับขบวนการลักลอบขนไม้เถื่อนได้บ่อยครั้ง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป