วันที่22ส.ค.67 ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส. สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหารายสําคัญ
สืบตม.ทลายคอลเซ็นเตอร์เกาหลีใต้เช่าอาคารหรูตั้งฐานกลางกรุง
กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมชาวเกาหลีใต้ 8 คน ดังนี้1. นายแจซุก (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 2. นายจุนฮี (นามสมมติ) อายุ 31 ปี 3. นายวูจิน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี 4. นายเจ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี 5. นายซางกี (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 6. นายซังฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 7. นายฮุนจิน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี8. นายจุงฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี
หลังรับแจ้งจากสายลับ มีชาวเกาหลีใต้เช่าอาคารหรู ย่านเอกมัย ซอย 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าจะเป็นแก๊งการพนันออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อมาตรวจสอบพบว่าห้องที่มีชาวเกาหลีเข้า-ออก ประจํา อยู่ที่ชั้น 4 ของอาคาร ประตูหน้าห้องติดอักษรภาษาอังกฤษคําว่า “CONTENT FACTORY. KOREA&THAI” จึงได้แสดงตัว เป็นตํารวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบ
พบว่าภายในห้องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องเล็ก มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 8 ชุด ห้องใหญ่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 12 ชุด แต่ละชุด มีจอคอมพิวเตอร์ 2 จอ มีนายแจซุก พร้อมกับพวกรวม 8 คน กําลังนั่งทํางานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในลักษณะพูดคุย ชักชวนเพื่อให้ร่วมลงทุนกับธนาคาร Hana Partners Invesment เป็นธนาคารของเกาหลีใต้
ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://hanapartners.net/login ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคารจริง แต่เมื่อเข้าไปดําเนินการตามขั้นตอนแล้วอาจจะสูญเสียเงินที่ลงทุนไป และพบโทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง ไอแพด 4 เครื่อง
สอบถามทั้ง 8 คนรับว่ามีการจ้างให้มาทํางานในประเทศไทยโดยทํางานในลักษณะพูดคุยผ่านโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่างๆเพื่อชักชวนลักษณะการเป็นตัวแทนเพื่อหาลูกค้าให้เข้ามาร่วมลงทุนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวจะได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์ ได้จากการหาลูกค้าเข้ามาลงทุน
เบื้องต้นจับกุมทั้ง 8 คน ดําเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทํางานโดยไม่มีใบอนุญาตทํางาน นําตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดําเนินคดี พร้อมตรวจยึดจอคอมพิวเตอร์ 40 จอ ซีพียู 20 เครื่อง โทรศัพท์มือ17 เครื่อง และไอแพด 4 เครื่อง ไว้ตรวจสอบและประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตํารวจเกาหลีใต้ ในการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อไป
นอกจากนี้ ยังจับกุมคดีสำคัญอีก2คดี
1. รวบ2หนุ่มไต้หวันค้ากัญชาข้ามชาติและจำหน่ายกัญชาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทย
กก.4 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าวชาวไต้หวัน 2 ราย 1. MR.LIN (นามสมมติ) อายุ 30 ปี โดยกล่าวหาว่า มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภทที่ 5 (เห็ดขี้ควาย)โดยไม่ได้รับอนุญาต นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดําเนินคดี จับกุมได้ที่ลานจอดรถคอนโด มิเนียมย่าน ถ.สี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
2. MR.CHANG (นามสมมติ) อายุ 29 ปี กล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาต สิ้นสุด นําตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี จับกุมได้ที่ลานจอดรถ ของคอนโดมิเนียม ในซอยอินทามระ 45 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ
ก่อนจับกุมรับแจ้งจากสายลับ มีกลุ่มคนไต้หวันจะลักลอบนํากัญชาส่งออกไปไต้หวัน ได้สืบสวนทราบว่าขบวนการดังกล่าวเชื่อมโยงกับร้านจําหน่ายกัญชาแห่งหนึ่ง (ปัจจุบันได้ปิดแล้ว) ซึ่งได้ขายกัญชาส่วนช่อดอกผ่านทางช่องทางออนไลน์และจะมีการส่งให้กับลูกค้า
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่ MR.CHANG และกลุ่มเพื่อน โดย MR.CHANG พักอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านห้วยขวางได้ไปตรวจสอบพบ MR.CHANG แต่เมื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง MR.CHANG แจ้งว่าหนังสือเดินทางอยู่ที่ห้องพักเพื่อนย่านดินแดง ชุดจับกุมจึงให้ MR. CHANG พาไปเพื่อนําหนังสือเดินทางมาแสดง
แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปที่ห้องพัก มี MR.LIN ชาวไต้หวัน อายุ 30 ปี วิ่งออกมาจากห้องและพยายามหลบหนี ชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัว ตรวจค้น MR.LIN พบเห็ดขี้ควายบรรจุในซองสุญญากาศ น้ําหนัก 42 กรัม และพบหนังสือเดินทางของ MR.CHANG และของชาวไต้หวันคนอื่นอีก 2 เล่ม โดน MR.LIN ยอมรับว่าบุคคลตามหนังสือเดินทางได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อตรวจสอบในห้องพักที่ MR.LIN และ MR.CHANG พักอยู่ พบกัญชาที่เป็นส่วนของช่อดอก เครื่องชั่งน้ําหนัก ถุงสําหรับแบ่งขายและเครื่องซีนถุงและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายการจึงได้ตรวจยึดไว้
ตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า MR.CHANG การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด ลงแล้ว (OVERSTAY )เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุม MR.LIN และ MR.CHANG ดําเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
จากการประสานตรวจสอบกับสํานักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจําประเทศไทย รับแจ้งว่า MR.CHANG เป็นบุคคลที่มีประวัติทางคดีอาญา ข้อหานําเข้าและจําหน่ายกัญชาในไต้หวัน มีพฤติการณ์ กับผู้ร่วมขบวนการอีกกว่าสิบคนได้ตั้งกลุ่มลับผ่านแอปพลิเคชั่น เช่น Wechat, Line, Whatsapp, Telegram และนํากัญชาเข้าไปในไต้หวัน เพื่อจําหน่ายกัญชาให้กับคนในไต้หวันผ่านแอปพลิเคชั่นดังกล่าว
2. รวบ 3 จีนเทาผู้ร้ายข้ามแดนแปลงสัญชาติวานูอาตูหัวหน้าเครือข่ายพนันออนไลน์ข้ามชาติ และเป็นหัวหน้าจัดทำระบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินหมุนเวียนกว่า 55,000 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ ตม.จว.ชลบุรี จับกุมคนต่างด้าว 3 คน ได้แก่ นายซู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาวจีน/วานูอาทูน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 407/2567 ลงวันที่ 18 มิ.ย.2567 ฐานฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน) (ออกหมายจับผู้ร้าย ข้ามแดน) นําตัวส่งพนักงานอัยการ สํานักงานต่างประเทศ สํานักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการ
และจับกุมนางจาง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาวจีน/วานูอาทูน และนายซู เจียง (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติจีน/วานูอาทูน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นําตัวส่ง สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี ดําเนินคดีตามกฎหมาย จับกุมได้ที่ บ้านพักภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
สืบเนื่องจาก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทย มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ นําส่งคําร้องขอให้ทางการไทยจับกุมตัวชั่วคราวนายซู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาวจีนเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปดําเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน)
ต่อมาพนักงานอัยการ สํานักงานต่างประเทศ สํานักงานอัยการสูงสุด ยื่นคําร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับชั่วคราวนายซู และได้ส่งหมายจับมายังสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อให้สืบสวนจับกุม
จากการสืบสวนพบข้อมูลว่านายซูได้ใช้หนังสือเดินทาง ประเทศวานูอาตู เข้ามาประเทศไทยแทนการใช้หนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ยังพบว่า นางจาง และนายซู เจียง ซิ่ง เป็นเครือญาตินายซูได้ถือหนังสือเดินทางประเทศวานูอาตูเข้ามาในประเทศไทย ด้วย
เมื่อสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทยตรวจสอบประวัติของนางจาง และนายซู เจียง รับแจ้งว่า บุคคลทั้งสองมีสัญชาติจีน โดยนางจาง มีประวัติกระทําผิดในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน) ส่วนนายซู เจียง มีประวัติกระทําผิด ในข้อหา เปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน)
ทั้ง 3 คน มักจะมีพฤติการณในการย้ายที่อยู่ เพื่อให้ยากต่อการจับกุมตัว โดยหลังสุดได้ย้ายไปอยู่บ้านพักหรูภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกันนําหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้น พบคนต่างด้าวทั้ง 3 คน และพบโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊คหลายรายการ และเอกสารต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสัญชาติของบุคคลทั้งสามและบุตร
สอบถามนายซูยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนจริง จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คนเข้าประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทาง ประเทศวานูอาตู โดยนางจาง และนายซู เจียง การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว ได้จับกุมทั้ง 3 คน ดังกล่าว
สําหรับพฤติการณ์กระทําความผิดของนายซู และนางจาง ร่วมกันกับพวกจัดตั้งองค์กรชื่อ หญิงฟา จัดให้มีการเล่นคาสิโนออนไลน์ มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีบุคคลเข้าเป็นสมาชิกในการเล่นการพนัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 55,000 ล้านบาท โดยนายซู เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกหลวงผู้อื่นทางระบบโทรคมนาคม จัดตั้งระบบเว็บไซต์ และระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหลังบ้านของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์