เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ย.67 ที่ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (สวพ.) สำนักงาน ป.ป.ส. ทุ่งสองห้อง นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการเปิดห้องมั่นคงใช้เก็บยาเสพติดของกลาง ตรวจรับและส่งมอบยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วเพื่อนำไปทำลาย ซึ่งเป็นการทำลายยาเสพติดของกลางครั้งแรกภายใต้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อีกทั้งยาเสพติดของกลางในครั้งนี้ เป็นผลจากการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศในห้วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2567 จากทั้งหมด 126 คดี
นายอภิกิต กล่าวว่า วันนี้สำนักงาน ป.ปส. และตัวแทนจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้แทนสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ผู้แทนกองบังคับการตำรวจทางหลวง ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 1 ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง
จะร่วมกันลำเลียงของกลางยาเสพติดจากการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศในห้วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2567 (3 เดือน) จาก 126 คดี ประกอบด้วยยาบ้า 13,313 กก. หรือ 146 ล้านเม็ด ไอซ์ หนัก 6,544 กก. คีตามีน หนัก 634 กก. เฮโรอีน หนัก 537 กก. และยาเสพติดอื่น ๆ น้ำหนักรวมกว่า 25.51 ตัน ที่จะผ่านกระบวนการตรวจรับและตรวจพิสูจน์ตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าด้วยการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษาการทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565
เพื่อนำของกลางยาเสพติดไปทำลาย และเป็นไปตามนโยบายการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และเป็นการรับประกันว่ายาเสพติดของกลางเหล่านี้ที่จะถูกนำไปทำลายจะไม่รั่วไหลกลับคืนสู่สังคมหรือเข้าถึงประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. ตั้งเป้าหมายทำลายยาเสพติดของกลางอย่างต่อเนื่องทุก 2 เดือน โดยยาเสพติดของกลางล็อตนี้มีกำหนดเผาทำลายในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 14.00 น. ที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมเป็นประธานในพิธี
นายอภิกิต กล่าวอีกว่า กระบวนการเผาทำลายยาเสพติดของกลางจะใช้ระยะเวลา 2 วันใน ยาเสพติดเหล่านี้จะถูกเผาทำลายด้วยเครื่องเผาความร้อนสูง 1,200 องศาเซลเซียส จนเม็ดยาเสพติดเหลือเพียงซากฝุ่น และเจ้าหน้าที่จะใช้น้ำฉีดคลุมเพื่อลดการเกิดมลพิษ
ในการเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ของปีงบประมาณ ทั้งนี้ ในบรรดายาเสพติดของกลางล็อตนี้มีหลายเคสที่เป็นการจับกุมในรายคดีสำคัญ อาทิ การจับกุมยาบ้ามากกว่า 10 ล้านเม็ดใน จ.สระบุรี การจับกุมไอซ์ใน จ.จันทบุรี 1.5 ตัน
ส่วนระหว่างการลำเลียงยาเสพติดของกลางทั้ง 21 ตันไปเผาทำลายนั้น จะมีเจ้าหน้าที่คอมมานโดของสำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่คอมมานโดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดจนจบกระบวนการ
สำหรับของกลางยาเสพติดที่บรรจุในกระสอบนั้น จะมีทั้งกระสอบที่บรรจุถุงเม็ดยาเสพติดโดยเฉพาะ กับบางกระสอบที่บรรจุสิ่งห่อหุ้มหีบภัณฑ์ยาเสพติด เพราะสิ่งห่อหุ้มพวกกระดาษสา พวกตรา 999 AAA ก็ถือว่าเป็นของกลางหลักฐานในคดีที่ต้องเผาทำลายเช่นเดียวกัน แต่เวลาชั่งน้ำหนักจะต้องชั่งแยกกัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดของกลางที่ทำลายในครั้งนี้เป็นผลการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศและเป็นยาเสพติดของกลางที่ผ่านการพิสูจน์แล้วของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยมีคดีที่สำคัญ ดังนี้ คดียาบ้า จำนวนตั้งแต่ 10 ล้านเม็ดขึ้นไป 3 คดี ได้แก่ คดีเมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี 13,800,000 เม็ด / คดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน 11,996,800 เม็ด / คดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 10,000,000 เม็ด
ขณะที่ในส่วนของคดีไอซ์ตั้งแต่ 1 ตันขึ้นไปมี2 คดีสำคัญ ได้แก่ คดีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.67 ตำบลตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 1.5 ตัน หรือ 1,500 ถุง และคดีเมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก 1 ตัน หรือ 1,000 ถุง