Saturday, November 23, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กอ้อ-บิ๊กราญ”แถลงตำรวจภาค1จับยาบ้า10ล.เม็ดยึดอาร์พีจี-ปืนอาก้าอื้อ

    “บิ๊กอ้อ-บิ๊กราญ”แถลงตำรวจภาค1จับยาบ้า10ล.เม็ดยึดอาร์พีจี-ปืนอาก้าอื้อ

    วันที่ 27 ก.ย. 67เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

    ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดและกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างจริงจังทั้งระบบ รวมถึงการกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ,การลักลอบค้าอาวุธสงครามของรัฐบาล ประกอบกับข้อสั่งการให้มีการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ค้า ผู้ผลิต ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป)/ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส)

    ให้พล.ต.ท.สำราญ นวลมาผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 3)(สส 1)(มค 2) / รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.
    พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 4)(สส 2) / รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นประธานแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด จนนำไปสู่การยึดยาเสพติด(ยาบ้า) 10,791,630 เม็ด และอาวุธสงคราม รวม 88 รายการ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และในเขตพื้นที่ใกล้เคียง

    มีพล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 / รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์
    ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท. พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท. ศปก.นสศ. / ผู้ทรงคุณวุฒิคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย​

    นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์  ผอ.ปปส. ภ.1 ว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปปส.ภ.1 ​นางสาวปิยมาพร นามวงษ์ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.1ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

    สำหรับรายละเอียด มีดังนี้ คดีที่ 1 ทลายแหล่งพักยาเสพติด ในพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ยึดยาบ้า 10,790,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 1,800,000 เม็ด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่โกดังในพื้นที่ ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ
    จากการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี

    ทำให้ทราบว่า นายนิรุจน์หรือบอล ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ แล้วนำมาเก็บไว้ โดยจะมีนายจิรวัฒน์หรือแจ็ค ทำหน้าที่เป็นต้นทางคอยสังเกตเจ้าหน้าที่ก่อนจะนำยาเสพติดออกส่งให้ลูกค้า ซึ่งทั้ง 2 คน อยู่ในแก๊งวัยรุ่นสร้างตัววังน้อย และได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม

    ต่อมา  ชุดจับกุมสืบทราบว่า ช่วงเช้าของวันที่ 23 กันยายน 2567 นายนิรุจน์ ได้ไปรับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดแล้วนำมาเก็บไว้ที่บ้านเช่าที่อยู่ใน ซอยราชพฤกษ์ 3 ถ.พหลโยธิน ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดพักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์

    จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน นายนิรุจน์ และ นายจิรวัฒน์ ได้มาที่บ้านเช่าที่ใช้พักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนและเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ผลการตรวจค้นพบ- ยาบ้า 10,790,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถที่ผู้ต้องหาใช้ลำเลียงยาเสพติด และภายในบ้านเช่าที่เป็นจุดพักยาเสพติด ซึ่งยาเสพติดของกลาง หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท

    – จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำผิดได้ 2 ราย คือ
    นายนิรุจน์ หรือบอล ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงมาเก็บไว้เพื่อรอส่งต่อให้ลูกค้า และ. นายจิรวัฒน์ หรือ แจ็ค ทำหน้าที่ดูต้นทางสังเกตเจ้าหน้าที่ ระหว่างนำยาเสพติดส่งต่อให้ลูกค้า

    ยึดรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด 2 คัน คือ รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา 1 คัน ที่นายนิรุจน์ ใช้รับ-ส่งยาเสพติดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา   1 คัน ที่นายจิรวัฒน์ ใช้ขับดูต้นทาง ก่อนนำยาเสพติดส่งให้ลูกค้า

    กล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป จับกุมได้ที่บ้านเช่า ในซอยราชพฤกษ์ 3 ถนนพหลโยธิน ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรีเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 เวลา22.00 น.

    คดีที่ 2 จับนักค้ายาบ้า พร้อมขยายผลยึดอาวุธสงคราม 88 รายการ
    เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายสมพงษ์หรือเอ็ม ที่หอพักในพื้นที่ ม.5 ต.ช่องสาริกาอ.พัฒนานิคม จว.ลพบุรี พร้อมยาบ้าของกลาง 1,630เม็ด จากนั้นขยายผลมาตรวจค้นบ้านพักนายสมพงษ์ ในพื้นที่ ม.6 ต.วังม่วง จว.สระบุรี และตรวจยึดอาวุธสงครามได้อีกหลายรายการ

    นายสมพงษ์ ซื้ออาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้มาจากนายอภิเชฐหรือหมู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอให้ศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับและติดตามไปจับกุม นายอภิเชฐ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.โคคลานอ.ตาพระยา จว.สระแก้ว  ตรวจยึดอาวุธสงครามได้เพิ่มเติมหลายรายการ

    ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางยาเสพติดและอาวุธสงคราม ดังนี้. ยาบ้า 1,630 เม็ด ตรวจยึดจากนายสมพงษ์ ในพื้นที่ จว.ลพบุรี
    ปืนยิงจรวด อาร์พีจี 2 จำนวน 1 กระบอก ตรวจยึดจากนายสมพงษ์ ในพื้นที่ จว.สระบุรี
    อาวุธปืนเล็กยาว เอ.เค.47 (AK47) จำนวน 14 กระบอก  ตรวจยึดจากนายสมพงษ์ ในพื้นที่ จว.สระบุรี9 กระบอก และตรวจยึดจากนายอภิเชฐ ในพื้นที่ จว.สระแก้ว 5 กระบอก

     แม็กกาซีนอาวุธปืนเล็กยาว เอ.เค.47 (AK47) 73 อัน  ตรวจยึดจากนายสมพงษ์ ในพื้นที่
    จว.สระบุรี 67 อัน และตรวจยึดจากนายอภิเชฐ ในพื้นที่ จว.สระแก้ว 6 อัน

    จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 2 ราย คือ นายสมพงษ์หรือเอ็ม กล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ถูกจับกุมที่หอพักในพื้นที่ ม.5 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จว.ลพบุรี ต่อเนื่องกับบ้านพัก พื้นที่ ม.6ต.วังม่วง จว.สระบุรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 67

    และนายอภิเชฐหรือหมู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 282/2567 ลงวันที่ 21 กันยายน 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายถูกจับกุมที่บ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จว.สระแก้ว เมื่อวันที่ 24 กันยายน 67

    การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการทำลายเครือข่ายยาเสพติดที่ทำหน้าที่จัดเก็บ และแพร่กระจายยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงยึดอาวุธสงครามที่ใช้ในการกระทำผิด ซึ่งเป็นการยับยั้งไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่าย ที่ยังไม่ถูกจับกุมรวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

     

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments