Thursday, November 21, 2024
More
    HomeUncategorizedปส.สรุปผลงานรอบ1ปี ปิดจ็อบ “ปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย“

    ปส.สรุปผลงานรอบ1ปี ปิดจ็อบ “ปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย“

    ปส.แถลงผลงานปิด Job “ปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย“ ในรอบ 1 ปี ยึดยาบ้ากว่า 380 ล้านเม็ด, ไอซ์ 13,170 กก. คีตามีน 2,388 กก. และยึดทรัพย์ กว่า 4,100 ล้านบาท

    ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ

    ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.

    มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ขยายผลเครือข่ายเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมด มาตรวจสอบทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการทำชุมชนบำบัดเพื่อให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม เลี้ยงตน เลี้ยงชีพ ได้อย่างมั่นคง

    วันที่ 30 ก.ย.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ /รรท. รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส.,

    พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส.

    ร่วมแถลงผลการสกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 9 คน ยึดยาบ้า 6,600,000 เม็ด, ไอซ์ 565 กก. และเฮโรอีน 6.98 กก. ดังนี้

    บก.ปส.3
    คดีที่ 1
    จากการขยายผลการตรวจยึดไอซ์ 7.58 กก. เมื่อวันที่ 16 ส.ค.67 ถูกซุกซ่อนในขวดโรออน ระงับกลิ่นกาย พยายามลักลอบส่งไปประเทศออสเตรเลีย และพบว่าผู้ส่งคือหญิงสาวสัญชาติลาว

    ชุดจับกุมจึงสืบสวน และติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา กระทั่งพบว่าจะมีการส่งพัสดุในลักษณะเดิมอีกครั้ง โดยกลับเข้ามาพักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์เดิม ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

    กระทั่ง วันที่ 17 ก.ย.67 หน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ ป.ป.ส. และศุลกากร นำกำลังเข้าตรวจค้นที่ ห้องพัก 514อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ถ.รัชดาภิเษก แขวง-เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

    พบ น.ส.ติ่ง พันทะวง อายุ 31 ปี ชาวลาวตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 506/2567 ลง 17 กันยายน 2567ข้อหา “พยายามส่งออกฯ” และพบกล่อง 2 กล่อง ภายในเป็น ขวดโรลออน และยาสีฟัน จากการตรวจสอบมี เฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ น้ำหนัก 6.98 กก. นอกจากนี้ยัง ตรวจยึดทรัพย์สิน กระเป๋า แบรนด์เนม 1 ใบ ราคาประมาณ 70,000 บาทนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    คดีที่ 2
    ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3สืบสวนขยายผลเครือข่ายที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ส่งออกต่างประเทศ โดยอำพรางไปกับสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ จนทราบว่าจะนำยาเสพติดที่ซุกซ่อนไปกับเฟอร์นิเจอร์มาพักเก็บในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตำรวจจึงวางแผนจับกุม

    กระทั่งวันที่ 19 ก.ย.67 เวลา10.00 น. พบว่าเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าว นำมาเก็บพักคอยที่บ้านเช่าเลขที่ 112/6 ม.2 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเตรียมส่งต่างประเทศ จึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ

    ภายในบ้านพบเป็นโต๊ะ และเก้าอี้ ตรวจสอบภายใน พบยาเสพติดเป็นไอซ์ ลักษณะเป็นก้อนคล้าย ดินน้ำมันสีขาว และ สีชมพู คละกัน มีผงลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวใสผสมอยู่ ซุกซ่อนอำพรางในช่องลับภายในแผ่นรองนั่งของเก้าอี้ น้ำหนัก 325 กก. และ ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับภายในแผ่นหน้าโต๊ะ น้ำหนัก 240 กก. รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 565 กก.

    สอบถามผู้ดูแลแจ้งว่าเป็นสินค้าที่มีลูกค้านำมาฝากไว้กับทางร้าน จากนั้นนำของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มเจ้าของยาเสพติดต่อไป

    คดีที่ 3
    ตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงราย จนทราบว่า นายอาตี๋ ชนเผ่าอาข่า จะลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ บ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย

    กระทั่ง วันที่ 25 ก.ย. 67 เวลา21.30 น. ขณะตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับทหารออกสำรวจพื้นที่พบคารวานลำเลียงยาเสพติดเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 12 คนแบกสัมภาระเป็นกระเป๋าที่คาดว่ามียาเสพติดถูกบรรจุอยู่ด้านใน ขณะเดินลัดเลาะออกมาจากชายป่า ก่อนที่ทั้งหมดจะไปหยุดรวมตัวกันริมถนนทางเข้าหมู่บ้านผาหมี หน้าศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

    ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบและตรวจค้น  จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย  ทั้งหมดเป็นคนเมียนมา ส่วนที่เหลือวิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจค้นในกระเป๋าพบกระสอบ 11 กระสอบบรรจุยาบ้ารวมทั้งสิ้น ประมาณ 1,600,000 เม็ด  ตำรวจเตรียมขยายผลหาเพื่อนร่วมขวนการที่หลบหนีไปได้ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

    บก.สกส. คดีที่ 4
    เมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 เวลาประมาณ 20.00 น. – 23.50 น. ต่อเนื่องกัน ตำรวจ บก.สกส., ตำรวจด่านพยุหะคีรี บก.ปส.3 , ตำรวจ สภ.วังทอง ภ.จว.พิษณุโลก และ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองกำลังนเรศวร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 คน หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดเมื่อวันที่ 31 มี.ค 60 ของกลางยาบ้า 500,000 เม็ด

    ก่อนจะขยายผลพบว่ายังมีเครือข่ายซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ รับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลงมาส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง

    กระทั่งพบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงจัดชุดติดตามจนมาถึงพื้นที่ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบว่า รถทั้ง 2 คัน คือ รถบรรทุก  ทะเบียน 71 21xx เชียงใหม่ และ รถยนต์  ทะเบียน 8กข 31xx กรุงเทพฯ ขับเข้าไปในปั๊มน้ำมัน ปตท.วังทอง ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบนายสมศักดิ์ และนายสุทธิศักดิ์ พี่น้องกัน

    จึงเชิญตัวทั้ง 2 คน และนำรถมายังด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี เพื่อเข้าเครื่อง X-Ray ตรวจค้นโดยละเอียด ปรากฏว่าพบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในช่องลับผนังด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ของรถบรรทุก

    ตรวจสอบพบเป็นยาบ้า 2,500 มัดรวมทั้งสิ้น 5,000,000 เม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกัน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือ เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือ เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

    นอกจากนี้ บช.ปส. ยังได้สรุปภาพรวมการปราบปรามยาเสพติดในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ภายใต้การขับเคลื่อนของ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.  ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ถูกกำหนดให้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งแผนงานและภารกิจ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและ ตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด

    งตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บช.ปส.ขับเคลื่อนการปราบปราม การสกัดกั้นการลำเลียง และการขยายผลจับกุมยึดทรัพย์ทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

    โดยกำหนด “แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ ตอนในและพื้นที่ปลายทาง และทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่เป้าหมาย ส่งผลให้ปีงบประมาณ พ.ศ.2567

    จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ถึง 1,322 คดี เพิ่มขึ้น 427 คดี มีผู้ต้องหา 1,729 คน เพิ่มขึ้น 518 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 380,317,464 เม็ด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 137,871,101 เม็ด คิดเป็น 56.87% และคิดเป็น 41.05% ของ ตร., ไอซ์ 13,170 กก. คิดเป็น 58.34% ของ ตร. คีตามีน 2,388 กก. คิดเป็น 47.09% ของ ตร. ในส่วนการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทั้งตามแนวชายแดน และพื้นที่ตอนใน

    โดยเฉพาะยาบ้า สามารถจับกุมผู้ค้ารายสำคัญรายใหญ่ ยาบ้า 500,000 เม็ดขึ้นไป 90 คดี สกัดกั้นยาบ้าได้ 361,853,712 เม็ด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว คิดเป็น 87.24 %

    โดยภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และพื้นที่ปลายทาง รวมทั้งทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่เป้าหมาย ถือเป็นภารกิจสำคัญของ “แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย”

    ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 มีผลการดำเนินการที่น่าสนใจ ได้แก่ วันที่ 20 เม.ย.2567 จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 14,648,000 เม็ด ขณะลักลอบลำเลียงจากแนวชายแดนเข้ามาส่งต่อให้เครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นับเป็นการสกัดกั้นการขนลำเลียงยาบ้าที่มีปริมาณมากที่สุดของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่จับกุมได้ในปีนี้

    ล่าสุดเมื่อ 23 ส.ค.2567 ยังจับกุมผู้ต้องหาขณะลำเลียงยาบ้า 14,000,000 เม็ด จากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในได้อีกด้วย ปฏิบัติการ“ ตามล่าเครือข่าย VUITTON วิตตอง” เป็นปฏิบัติการสำคัญที่สามารถสืบสวนจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ตอนใน ได้อย่างต่อเนื่องถึง 11 คดี จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายไปแล้วกว่า 50 ราย ยึดยาบ้า กว่า 46 ล้านเม็ด ไอซ์และ คีตามีนรวมกว่า 100 กิโลกรัม ยึดทรัพย์กว่า 26 ล้านบาท

    ผลงานสำคัญในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติ ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านลำเลียงยาเสพติด ไปต่างประเทศ วันที่ 4 ธ.ค.2566 ได้เปิดปฏิบัติการสยบไพรีปราบสมุทร “Operation Poseidon ” จับกุมผู้ต้องหา พร้อมไอซ์และเคตามีนกว่า 2,200 กก.

    การขยายผลนำไปสู่การออกหมายจับนายชาญชัยหรือกัปตันตุ้ยฯ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 150 ล้านบาท จากการแกะรอยไล่ล่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าว นำไปสู่การจับกุมผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางทะเล ได้เพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่

    วันที่ 8 ก.ย.67 จับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ 600 กก.ที่ท่าเรือริมแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร และ วันที่ 10 ส.ค.2567 จับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ 1,500 กก. ที่ท่าเรือในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทั้ง 3 ปฏิบัติการสำคัญนี้สามารถสกัดกั้นการพยายามลักลอบลำเลียงไอซ์และคีตามีนข้ามชาติได้ถึง 4,300 กก. หรือ 4.3 ตัน

    ผลงานสำคัญในการสกัดกั้นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ที่มีการลักลอบนำเข้าและส่งออกไปยังแหล่งผลิต ในประเทศเพื่อนบ้าน

    เมื่อ 12 ก.ค.2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจยึดสารโทลูอีน (Toluene) 90 ตัน ลักลอบนำเข้าจากเกาหลีใต้มาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เตรียมส่งไปแหล่งผลิต ยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน

    สารโทลูอีนที่ยึดได้ หากหลุดรอดไปถึงแหล่งผลิต จะใช้ผลิตยาบ้าได้จำนวนมหาศาลถึง 270 ล้านเม็ด ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เดินทางไปร่วมตรวจสอบและแถลงข่าวผลการตรวจยึดด้วยตนเอง

    ผลงานสำคัญในการยึดและอายัดทรัพย์สินปีงบประมาณ2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 4,096,626,323 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.78% ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    โดยมีปฏิบัติการที่สำคัญในการยึดทรัพย์สิน ได้แก่ ช่วงเดือน พ.ค.2567 เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “ใหม่ Logistics” ของ บก.ปส.2 ที่ปูพรมตรวจค้นในพื้นที่ 8 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่ง

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments