สั่งฟันวินัย – อาญา 7ตำรวจจราจรเล็งเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่ง ป.ป.ช.ด้านรรท.ผบช.น. สั่ง บก.จร.งดตั้งจุดตรวจทั้งหมดไปก่อน
จากกรณี 7 ตำรวจจราจร สังกัดกองกำกับ 1 บก.จร. ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายร่างกายคนขับรถมาสด้าสีแดง นายธนานพ อายุ 33 ปี ลูกชาย พ.ต.ท.ธนชัย อายุ 61 ปี อดีต สว.กก.2 บก.ปทส. เกษียณอายุราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเดือน ก.ย. 2567 บริเวณใกล้ด่านตรวจบริเวณซอยประเสริฐมนูกิจ 21 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. โดยเจ้าหน้าที่เข้าใจผิดว่า นายธนานพ เป็นคนขับรถมาสด้า สีแดง แหกด่านตรวจ แต่ปรากฏว่าเป็นการจับกุมผิดตัวนั้น
วันที่ 12 ธันวาคม 67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างละเอียดไปยังผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 7 นายว่ามีการตั้งด่านถูกต้องหรือมีส่วนสั่งการในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาทันที
ล่าสุดกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ลงนามคำสั่งกองบังคับการตำรวจจราจรที่ มีคำสั่งที่ 584/2567 ลง 4 ธ.ค.67 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับ ร.ต.อ.ทวีพงษ์ อืดทุม กับพวกรวม 7 นาย และมีคำสั่งที่ 587/2567 ลง 6 ธ.ค.67 ให้ ร.ต.อ.ทวีพงษ์ฯ กับพวกรวม 7 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน
สำหรับการดำเนินการทางอาญานั้นพนักงานสอบสวน สน. บางเขน ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 2295/2567 โดยบก.น.2 ได้มีคำสั่งที่ 288/2567 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรับผิดชอบทำการสอบสวนคดีดังกล่าว
เบื้องต้นมีการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ พยานบิดา มารดา และน้องสาว รวม 4 ปาก และสอบปากคำ สว.ผู้ควบคุมจุดตรวจ และ ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ รวม 2 ปาก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ตร. ทั้ง 7 นาย ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ตำรวจทั้ง 7 นาย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตามในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ได้มีหนังสือแจ้งพนักงานอัยการเพื่อทราบและพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นความผิดหรือไม่ ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปให้ สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67
สำหรับการดำเนินคดีกับนายธนายุทธ กรึงไกร ผู้ขับรถยนต์เก๋ง มาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน 4 ขฉ 6873 กรุงเทพฯ ฝ่าจุดตรวจในวันเกิดเหตุนั้น ทางศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี และให้พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาของ ตร. ทั้ง 7 นาย ทางบก.จร.ได้มีคำสั่งที่ 584/ 2567 ลง 4 ธ.ค.67 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทาง วินัยอย่างร้ายแรงกับ ร.ต.อ.ทวีพงษ์ อืดทุม กับพวกรวม 7 นาย คณะกรรมการดังกล่าวจะต้องสอบสวนว่าผู้บังคับบัญชาตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ได้ปล่อยปะละเลยหรือไม่อย่างไร
สำหรับผู้ควบคุมการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกนาย รวมทั้งกรณี ร.ต.อ.ทวีพงษ์ อืดทุม ซึ่งอยู่ระหว่างเข้ารับการอบรมหลักสูตรสารวัตร แต่มาปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ ทาง บก.จร. ได้มีคำสั่งที่ 592/2567 ลง 12 ธ.ค.67 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบ สวนข้อเท็จจริงในส่วนการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่
รวมถึงกรณีมีการร้องเรียนว่าจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย รรท.ผบช.น. ได้เรียกตำรวจจราจร ทั้ง 88 สน. และ บก.จร. มากำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจในพื้นที่ กทม. ให้เป็นไปตามแนวทางที่ ตร.กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
สำหรับ บก.จร. ได้สั่งให้งดการตั้งจุดตรวจทั้งหมดไปก่อน โดยให้กลับไปทบทวนยุทธวิธีในการปฏิบัติให้ถูกต้อง หากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งเบาะแสมายัง บช.น. ผ่านศูนย์วิทยุ 191 และได้ทุกช่องทาง ผู้บังคับบัญชาจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด