Wednesday, December 18, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบก.น.5 เซ็นเชือดจ่าตำรวจทองหล่อเมาชักปืนยิงขึ้นฟ้าขู่ชาวบ้านออกจากราชการไว้ก่อน

    ผบก.น.5 เซ็นเชือดจ่าตำรวจทองหล่อเมาชักปืนยิงขึ้นฟ้าขู่ชาวบ้านออกจากราชการไว้ก่อน

    วันที่ 16 ธ.ค. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 384/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

    ระบุว่า ด้วยจ่าสิบตำรวจ มนตรี มีเดช ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาล ทองหล่อ มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 383 /2567 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2567

    กรณีกระทำผิดอาญา ประกอบกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า หากจ่าสิบตำรวจ มนตรึ มีเดช ยังคงอยู่ในหน้าที่จะเกิดความเสียหาย แก่ทางราชการ และอาจก่อความไม่สงบสุขแก่ประชาชน จึงมีเหตุผลให้พักราชการได้ ตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3(1) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ

    โดยผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา แต่กลับต้องหาว่ากระทำผิดอาญาเสียเอง ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนและภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการได้ ประกอบกับได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาทางวินัยนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

    ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 105 มาตรา 131 และมาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ จ่าสิบตำรวจ มนตรี มีเดช ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง และประสงค์โต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำห้ทำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วันนับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ สั่ง ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2567 ลงนามโดย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5

    คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.55 น.วันที่ 15 ธ.ค. พ.ต.ท. สิทธิชัย จุมพรม.สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุชายยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณลานจอดรถอาคารเท็น ซอยเอกมัย 5- ทองหล่อ10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.  ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ

    ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นลานจอดรถของอาคาร เท็น (ใกล้ร้าน เทอรา) พบผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมา คือ จ.ส.ต.มนตรี มีเดช ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ อยู่ในอาการมึนเมา ใช้ปืน (ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ) 9 มม. ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด และพูดจาโวยวายชักปืนจ่อ ชายอีกคนที่พยายามห้ามปราม ก่อนเดินหลบหนี

    กระทั่งจ.ส.ต.อรัญ สุรมณี ผบ.หมู่(ป.)สน.ทองหล่อ สายตรวจชุดเคลื่อนเร็ว สน.ทองหล่อ ติดตามไปจับกุมได้

    จากการตรวจสอบพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ   1 ปลอก  จับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น 320 มีทะเบียนปืน กระสุนปืน  9 มม. 13 นัด บรรจุอยู่ในซองบรรจุกระสุน 1 ซอง และซองพกพาอาวุธปืนพกซ่อนแบบหนังสีดำ (ใช้สำหรับซุกซ่อนอาวุธปืนและกระสุน) ควบคุมตัวไปสน.ทองหล่อ

    พยานเป็นชายหนุ่มที่ประสบเหตุถูกเอาปืนจ่อ กล่าวว่า  ได้ยินเสียงโวยวายหน้าอาคาร จึงได้ออกมาตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมาซึ่งน่าจะดื่มมาจากร้านอื่นแล้ว และใช้อาวุธปืนชี้มายังตน และต่อว่าด่าทอตนไม่ทราบสาเหตุจึงได้บอกให้ใจเย็น แต่ยังคงโวยวายและชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้าบริเวณหน้าทางเข้าลานจอดรถอาคารเท็น จากนั้นได้วิ่งกลับไปยังรถจักรยานยนต์ของตนเอง ก่อนถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวไว้ได้

    ด้านพ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหา 1.มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่มีเหตุอันควร 3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านฯ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่าฯ หรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงลงทัณฑ์สถานหนัก เพื่อมิให้ตำรวจคนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

    มี พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รอง.ผกก.ป.สน.ทองหล่อ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการ (สน.)ในการพิจารณาและให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาในระดับสูงพิจารณาต่อไป

    ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายพบว่ามีปริมาณ 136 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ และได้สั่งเก็บอาวุธปืนประจำตัวไว้ ซึ่งพบว่ามีอยู่ 2 กระบอก  ในชั้นนี้ทราบว่าเจ้าตัวได้ให้ญาติมาขอยื่นประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวออกไป โดยจะประกันตัวออกไปและใช้หลักประกันขั้นสูง (150,000 บาท)

    ระหว่างนี้ยังคงถูกคุมขังใน สน.ทองหล่อ เพื่อรอญาติเข้ามาขอประกันตัวออกไป จากการตรวจสอบประวัติพบว่าตำรวจนายนี้เคยประจำอยู่ที่ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว บก.สปพ.(191) และย้ายมาประจำที่ สน.ทองหล่อ ได้ประมาณ 2 ปี 

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments