เมื่อเย็นวันที่8ม.ค.68 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก. สส.3 บก.สส.บช.น.ไล่ล่าติดตาม จ่าเอ็ม นายเอกลักษณ์ แพน้อย มือปืนยิง นายลิม กิมยา อดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตในท้องที่สน.ชนะสงครามเมื่อเย็นวันที่7ม.ค.
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลไปถึงชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว – อ.สำเภาลูน จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา เมื่อเกือบเที่ยงคืน วันที่ 7 ม.ค. 68 ปรากฏว่าชุดสืบสวนคลาดกับ จ่าเอ็ม เพียงนิดเดียว โดยพบว่า จ่าเอ็ม สามารถหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติไปได้
จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เปิดทางให้ประสานกับ ผกก.สถานีตำรวจ สำเภาลูน ประเทศกัมพูชา ก่อนส่งชุดสืบนครบาลข้ามแดนไปร่วมไล่ล่าติดตามจ่าเอ็ม
โดยสืบทราบว่าได้แลกเงิน 4,000 บาท ณ ร้านรับแลกเงินริมชายแดนก่อนเดินทางขึ้นรถโดยสารเพื่อเข้าไปใจกลางประเทศกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบก่อนและจับได้ขณะที่คนร้ายแวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โขงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2568 เวลา 16.30 น.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา และชุดสืบนครบาล ได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ กองบังคับการจังหวัดพระตะบอง ก่อนจะส่งตัวไปที่ กองบัญชาการความมั่นคงภายใน จ.พนมเปญ เพื่อซักถามเพิ่มเติมต่อไป
ก่อนหน้านี้ เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่ปั๊มPT LPG ถนนทางคู่ขนานเลียบมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาออก แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) ไปตรวจสอบรถ จยย.จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ทะเบียน 845 สมุทรปราการ ที่ นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ เอ็ม กองเรือ ใช้ก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา อดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิต ขี่หลบหนีแล้วนำมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าห้องน้ำภายในปั๊มแก๊ส ไม่พบกุญแจรถ แต่มีหมวกกันน็อคสีขาวถูกทิ้งไว้ด้วย
เมื่อเปิดเบาะรถตรวจสอบพบ ถุงพลาสติก 5 ใบ มีดสั้น 1 เล่ม ยาแก้ปวดไทลินอล 1 แผง ยาแก้แพ้คลอร์เฟนิรามีน 1 แผง, น้ำหอมระงับกลิ่นกาย (ทรอส) 1 ขวด ป้ายภาษีทะเบียนรถยนต์ 1 แผ่น ถุงเท้า 2 คู่ แม่กุญแจ 1 ชุด เจลหล่อลื่น (KY) 1 หลอด, เหรียญเงินบาทจำนวนหนึ่ง และสติกเกอร์สโมสรฟุตซอลสโมสรท่าเรือ
จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่านายเอกลักษณ์ขับ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดที่ปั๊มแก๊สในเวลา 18.21 น. วันที่ 7 ม.ค. ก่อนจะหลบหนีไป
พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า หลังฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่า หลังจากที่นายเอกลักษณ์ก่อเหตุ สวมเสื้อวิน จยย.รับจ้าง แล้วขี่จยย.มาจอดทิ้ง ก่อนจะเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่หลบหนี
ประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเก็บหลักฐานทางนิติศาสตร์ ลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ ไปประกอบคดี รถจยย.เป็นของบุคคลอื่น นายเอกลักษณ์นำมาใช้อยู่หลายวันก่อนจะก่อเหตุ ต้องไปสอบปากคำเจ้าของรถว่าเป็นการให้ยืมมาหรือไม่ ส่วนเส้นทางจะไปที่ใดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งเส้นทางการเงินของคนร้าย
ผบช.น.กล่าวต่อว่า สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ภรรยาของผู้ตายให้การเป็นประโยชน์แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่าสาเหตุเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศกัมพูชาหรือไม่
แต่จากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุและผู้ช่วยเหลือเชื่อว่ามีการวางแผนร่วมกันเป็นกระบวนการเพื่อช่วยเหลือผู้ก่อเหตุหลบหนี
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าไปพบความเคลื่อนไหวของนายเอกลักษณ์อยู่ใน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 7 ต่อเนื่อง 8 ม.ค. หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่มั่นใจว่า ยังอยู่ในความควบคุมของตำรวจ ช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานผลการปฏิบัติของชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่ คาดว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติม
ด้านพล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า จะเร่งตรวจสอบหัวกระสุนปืน รวมทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ให้ทราบผลโดยเร็ว เพื่อคลี่คลายคดีนี้
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลไปหาข้อมูลนายเอกลักษณ์ มือปืนเพิ่มเติมสอบปากคำพยานผู้ขับขี่จยย.วินสายน้ำทิพย์ ซอยสุขุมวิท 22 ทราบว่านายเอกลักษณ์ขี่รถจยย.วินดังกล่าว ใส่เสื้อวินเบอร์ 55 เข้ามาขี่จยย.รับจ้างที่วินช่วงกลางวันทำมาไม่ถึงปี พักอาศัยอยู่ย่านคลองเตย เพื่อนร่วมวิน เปิดเผยว่า พอรู้ข่าวรู้สึกตกใจมาก ดูนิสัยแล้วไม่มีทีท่าจะไปทำร้ายใคร