ตำรวจกองปราบ แกะรอยตามรวบผัวเมียตุ๋นมาราธอน 5 ปี สูบเงินเศรษฐีนียะลา 21 ล้านบาท อ้างวิ่งเต้นคดีฟ้องร้องผัวเก่า
วันที่ 28 ม.ค.68 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รรท.ผบก. ป. สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท. อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายอัม อายุ 46 ปี และ น.ส.กรรณ์อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาตามหมายจับศาลจังหวัดเบตง ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” จับทั้งคู่ได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายอัม และ น.ส.กรรณ์ สองสามีภรรยาคู่นี้ ทราบข่าวว่าเศรษฐีนีที่เคยรู้จักกัน ในพื้นที่ จ.ยะลา กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกับอดีตสามี เกี่ยวกับสิทธิเลี้ยงดูบุตร จึงพยายามเข้าไปตีสนิทให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย อาสาติดต่อจัดหาทนายความสู้คดี รวมถึงคอยประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเดินเรื่องคดีให้ได้
จากนั้นออกอุบายอ้างว่าตอนนี้ผู้เสียหายมีหมายจับติดตัว หากเดินทางออกจากพื้นที่ จ.ยะลา จะถูกจับกุม ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัวไม่กล้าไปไหน ยอมให้สองสามีภรรยาคู่นี้คอยเป็นธุระจัดการเรื่องคดีให้
ผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ปลอมแปลงเอกสารค่าใช้จ่ายต่างๆที่ใช้ในการต่อสู้คดี รวมถึงเอกสารการวางเงินประกันในขั้นศาล แล้วนำมาหลอกเบิกเงินค่าดำเนินการจากผู้เสียหาย ด้วยความไว้ใจยอมจ่ายเงินให้ตามที่ทั้งคู่ร้องขอเรื่อยมาจนถึงปี 2566 รวมเป็นเงินกว่า 21 ล้านบาท
ต่อมาผู้เสียหายเริ่มเอะใจ เนื่องจากคดีความยืดเยื้อไม่สิ้นสุดเสียที จึงนำเอกสารต่างๆไปตรวจสอบกับศาล พบว่าเป็นเอกสารปลอมที่ถูกทำขึ้นเพื่อใช้หลอกลวงเงิน ตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เบตง รวมถึงประสานขอความช่วยเหลือกับตำรวจกองปราบ ให้ร่วมสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง
จนพบว่านอกจากผู้เสียหายรายนี้ยังมีเหยื่อรายอื่นถูกสองผู้ต้องหา หลอกเงินในลักษณะเดียวกันอีกหลายรายถือเป็นภัยต่อสังคม จึงเร่งจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า ทั้งคู่หนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จึงตามจับกุมตัวได้
สอบสวน น.ส.กรรณ์ให้การภาคเสธ รับว่าได้เอาเงินจากผู้เสียหายมาจริง แต่เป็นการยืมเงินมาเพื่อการลงทุน ขณะที่ นายอัม ยืนกรานปฏิเสธตลอด นำตัวส่ง สภ.เบตง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป