ผบช.ภ.7 แถลงทลายแก๊งโจรกรรมจยย.ข้ามชาติ รวบ 5 ผู้ต้องหา ซัดหัวหน้าแก๊งเป็นพม่า อึ้งมีเยาวชนร่วม3คน แฉก่อเหตุกว่า 200 คัน แยกเป็นชิ้นส่วนใส่พัสดุส่งแม่สอด อีก2คดี จับหนุ่มพม่าลักมือถือ36เครื่องและหนุ่มพม่าพยายามข่มขืนและก่อเหตุลักทรัพย์
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น.ที่ด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ. 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต. ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต. พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันแถลงผลกวาดล้างอาชญากรรม
พล.ต.ท.นัยวัฒน์เผยว่าเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน (สส.ภ.จว.นครปฐม ) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 5 คนคือ นายอารี หรือ บอย อายุ 42 ปี นายทองเอก หรือ ดี อายุ 57 ปี ด.ช.เล็ก (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ด.ช.ฟิล์ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ด.ช.ม่อน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ นายดา หรือ TUN TUN (อยู่ระหว่างหลบหนี,ออกหมายจับ)
ในความผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่กระทาความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และซ่องโจรหรือรับของโจร ”
พร้อมของกลาง เครื่องยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 จำนวน 1 เครื่อง โครงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ 1 โครง อุปกรณ์ส่วนควบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สี ดำ–น้ำตาล 1 ชุด บรรจุอยู่ อยู่ภายในลังกระดาษ
รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผต 5505 นครปฐม (รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ) รถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สี เทา ทะเบียน 8 ขญ 4174 กรุงเทพมหานคร (รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ) โทรศัพท์มือถือ3 เครื่อง อุปกรณ์เครื่องมือช่าง-ประแจ 18 อัน ไขควง 4 แฉก 10 อัน สามทาง 7 อัน ไขควงปากแบน 5 อัน บล็อกตอก 1 อัน คีมล็อค 1 อัน คีมปากจิ้งจก 1 อัน ประแจเลื่อน 1 อัน และอุปกรณ์อื่นๆอีกจำนวนมาก
ผบช.ภ.7เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่า ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ว.นิเวศ หมู่ที่ 8 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม มีพฤติกรรมขับรถเสียงดังรบกวนชาวบ้านในเวลากลางคืน ช่วงเวลา 21.00 – 05.00 น.อยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน และประกอบอาชีพมีลักษณะน่าสงสัยเป็นแก๊งลักรถจักรยานยนต์ เนื่องจากเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์เข้าในบ้านไม่ซ้ำคัน และจะมีรถยนต์กระบะตู้ทึบขับเข้ามาช่วงเวลาประมาณ 00.00 – 05.00 น.แล้วขนของเป็นกล่องพัสดุขนาดใหญ่ แล้วขับออกจากบ้านหลังดังกล่าวไป
ชุดสืบสวนจัดกำลังเฝ้าสังเกตพฤติกรรม จนกระทั่งเวลา03.00 น.พบรถยนต์กระบะมีลักษณะต่อเติมตู้ทึบต้องสงสัยขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบนาย ทองเอก หรือ ดี เดินลงมาจากรถยนต์คันดังกล่าว และพบนาย อารี หรือ บอย , ด.ช. เล็ก , ด.ช.ฟิล์ม, ด.ช.ม่อน กำลังยกกล่องกระดาษ ออกมาจากภายในบ้านนำขึ้นท้ายรถกระบะรถยนต์ตู้ทึบ
ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจค้น พบว่าภายในกล่องกระดาษบรรจุโครงรถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า และอุปกรณ์ส่วนควบ รวม3 คัน
จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ ที่ได้แจ้งหายไว้ที่ สถานีตำรวจภูธร คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2 คัน และยังไม่ได้แจ้งหายอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อให้เจ้าของรถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.โพธิ์แก้ว
สอบสวน นาย อารี หรือ บอย ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่าได้โจรกรรมรถจักรยานยนต์มาแล้วกว่า 200 คันสอดคล้องกับรายการเดินบัญชีของนาย อารี หรือ บอย ที่ได้รับคำสั่งจาก นาย ดำ ชาวเมียนมา สั่งให้ไปเอารถจักรยานยนต์ ที่ลักทรัพย์ มาถอดแยกชิ้นส่วนใส่กล่องพัสดุ และ นายดำได้สั่งให้นาย ทองเอก ขับขี่รถยนต์กระบะตู้ทึบมารับพัสดุไปส่งที่ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งบริเวณพุทธมณฑลสาย 5 ให้ส่งไปที่ปลายทางอ. แม่สอด จ.ตาก
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าหัวหน้าแก๊งผู้สั่งการเป็นชาวเมียนมา ชื่อ นายดา หรือ TUN TUN ประวัติเคยก่อเหตุในพื้นที่สน.คลองตันในลักษณะเดียวกัน ได้ร้องขอให้ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับไว้ ตามหมายจับที่ 202/2568 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาความผืดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือในพ้นการจับกุม และซ่องโจรหรือรับของโจร ”
จากนั้นได้ควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์แก้ว ดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมตัว นายซอ เม้น อ่าว อายุ 39 ปี บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย เชื้อชาติ–สัญชาติ เมียนมา ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในร้านโทรศัพท์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 36 เครื่อง มูลค่ารวม 150,000 บาท
ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทาอันตรายสิ่งกีดกั้นสาหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประกาใดๆ และบุกรุกเข้าไปในอาคารเก็บรักษาทรัพย์ หรือสานักงานในความครอบครองของผู้อื่นในเวลากลางคืน”
พล.ต.ท.นัยวัฒน์กล่าวว่าเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว รับแจ้งเหตุ จากนาย อุ่นคา สอนใส อายุ 35 ปี ว่ามีคนร้ายแอบปีนเข้ามาทางหลังคา และได้ลักเอาทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือที่อยู่ภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือ ในซอยศรีเสถียร หมู่ที่ 5 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จว.นครปฐม แล้วหลบหนีไป
ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชาย 1 คน เข้ามาก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือไป กระทั่งพบผู้ก่อเหตุ ลักษณะรูปพรรณใกล้เคียงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ อยู่หน้าห้องเช่าไม่ทราบชื่อ เลขที่ 40/53-54 หมู่ที่ 5 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จว.นครปฐม จึงขอตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือ อยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้าง หนังสีน้ำตาล 3 เครื่อง
สอบถามนายซอ เม้น อ่าว รับสารภาพ และนำไปตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่ห้องพักเพิ่มเติมรวมทั้งหมด 36 เครื่อง
คดีที่ 3 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ขุดสืบสวนจับกุมนายขิน หม่อง วิน อายุประมาณ 40 ปี ได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 210 หอพักโรงหล่อซอย 6 หมู่ 7 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จว.นครปฐม หลังก่อเหตุพยายามข่มขืนฯ และลักทรัพย์
พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ2เครื่อง นาฬิกาข้อมือสายรัดสีดา หน้าปัดสีทอง ยี่ห้อ GUESS เรือน รถจักรยาน ยี่ห้อ LA สีแดง
ในความผิดฐาน “ พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กาลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และ ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2568 ชุดสืบสวนรับแจ้งจาก น.ส.อรวีห์ เหมชาติ เมื่อ เวลาประมาณ 00.30 น. มีคนร้ายชายไม่ทราบชื่อ แอบปีนเข้ามาภายในบ้านและพยายามข่มขืน กระทำชำเรา และลักเอา โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน เหตุเกิดที่บ้านในต.ไร่ขิง อ.สามพราน จว.นครปฐม
จากการสอบสวนนายขิน หม่อง วิน อายุประมาณ 40 ปี เป็นชาวเมียนมา และรับว่าเป็นผู้กระทาความผิดดังกล่าวจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงขอเข้าทำการตรวจค้นภายในห้องเช่าดังกล่าว พบของกลางข้างต้น ที่เป็นของผู้เสียหาย นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งสภ.โพธิ์แก้วดำเนินคดีต่อไป