เจดีย์ 1 เพาะเมล็ดพันธ์ุศูนย์ปราบปรามอาชญา กรรมคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎ หมาย ตำรวจภูธรภาค 7
วันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น.ที่โรงแรมเซนโฮเทล จว.นครปฐม
พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ. 7 ประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการใช้ระบบเทคโนโลยี ตรวจสอบบุคคลและเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตำรวจภูธรภาค 7 รุ่นที่ 1 จำนวน 40 นาย
มี พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รองผบช.ภ.7 (รอง ผอ.ศปชก.ภ.7 )พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส. ภ.7 คุณ วันชนะ ปฐมศิริ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนครปฐม พร้อม รอง ผู้บังคับการ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7( ที่รับผิดชอบงาน ศปชก.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คณะวิทยากรและเจ้าหน้าที่ที่เข้ารับการฝึกอบรม รุ่นที่ 1 จำนวน 40 นาย เข้าร่วม
พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล รองผบก.สส.บก.สส.ภ.7 กล่าวรายงาน ถึงวัตถุประสงค์ โครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 คือการใช้ระบบเทคโนโลยีตรวจสอบบุคคล และเครือข่ายองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ หรือ โปรแกรม CMIS ของ ตำรวจภูธรภาค 7ประจำปีงบประมาณ 2568
เนื่องจากคดีอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นคดีที่มีความสลับขับช้อน ในการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว จะต้องแสดงความเชื่อมโยงของเครือข่าย องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติให้ปรากฏ จำเป็นต้องมีระบบบริหารจัดการข้อมูล และข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ และประการสำคัญข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะนำมาไว้ในระบบ จะต้องเป็นข้อมูลที่ได้มาโดยชอบตัวยกฎหมาย
ผู้บันทึกชัอมูลจะต้องเป็น ” พนักงานเจ้าหน้าที่ ” ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พุทธศักราช 2556
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จะต้องเป็นผู้ที่มีความ รู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญ จะต้องคำเนินการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ จึงต้องมีการฝึกอบรม เพิ่มเติมให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งปฏิบัติงานด้านการสืบสวน สอบสวน เพื่อแต่งตั้งให้เป็น ” พนักงานเจ้าหน้าที่ ” ซึ่งจะมีอำนาจบันทึกข้อมูลตามกฎหมายต่อไป
พลดำรวจโท นัยวัฒน์ กล่าวว่า การฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ในการใช้ระบบเทคโนโลยีตรวจสอบบุคคลและเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตำรวจภูธรภาค 7 ในวันนี้ โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาบุคลากร ด้านงานสืบสวนทางเทคโนโลยี ตรวจสอบบุคคล ของตำรวจภูธรภาค 7 ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น
เนื้อหาการฝึกอบรมประกอบด้วย การบรรยายด้านทฤษฎี พื้นฐานความรู้ การใช้งานระบบบริหารการจัดการข้อมูล ความรู้ด้านข่าวกรองการของเจ้าหน้าที่ การฝึกภาคปฏิบัติ การรวบรวมข้อมูลบุคคลชาวต่างชาติ เพื่อบันทึกตรวจสอบนำเข้าระบบ และการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ครอบคลุมตั้งแต่หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องการใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลและข่าวกรองอย่างมีประสิทธิภาพ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งจะมีความรู้ความเข้าใจ วิธีการสืบสวนทางเทคโนโลยีตรวจสอบบุคคล และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม ขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ตั้งใจในการแสวงหาความรู้ และประสบการณ์จากการฝึกอบรมมีการแลกเปลี่ยนความรู้ และเทคนิคในการสืบสวน ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานด้านการสืบสวน
ทั้งต้องการให้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมในครั้งนี้ ไปถ่ายทอดความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และศรัทธาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวต่อว่า ผมขอขอบคุณ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 7 ตลอดจนทีมวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วนที่จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนในการจัดให้มีโครงการฝึกอบรมครั้งนี้ทุกคน