Wednesday, May 7, 2025
More
    Homeข่าวทั่วไปโฆษกพปชร.ชี้ภาพฟ้อง“นรม.และพ่อ”ร่วมงานบวชหนุ่มบีเอ็มชนกระบะลุงป้า

    โฆษกพปชร.ชี้ภาพฟ้อง“นรม.และพ่อ”ร่วมงานบวชหนุ่มบีเอ็มชนกระบะลุงป้า

    วันที่17เม.ย.68 พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธ กรณีอุบัติเหตุ BMW ป้ายแดงกับรถกระบะ โดยชี้คู่กรณีเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และอย่าโยงว่า เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยนั้น

    พล.ต.ท. ปิยะฯ กล่าวว่า “ ประชาชน และสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญว่า คู่กรณี สังกัด พรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะว่าจะสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ได้สังกัดก็ไม่เกิดประโยชน์กับสังคมแต่อย่างใด แต่ที่สำคัญที่ประชาชนและสังคมเป็นห่วง ว่าคู่กรณีมีความสนิทสนมกับ ท่านนายกรัฐมนตรี และพ่อท่านนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ อาจจะมีผลต่อการแทรกแซง หรือเกิดความเกรงใจ ทำให้คดีไม่ตรงไปตรงมาได้“

    พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ” ท่านนายกคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะในวันนั้น ทั้งท่านนายกฯ และ พ่อท่านนายกฯ ตั้งใจไปเป็นประธานในงานบวชคู่กรณีดังกล่าว ถึงปทุมธานี เรื่องนี้ท่านโฆษกพรรคเพื่อไทย คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน เพราะ ”ภาพมันฟ้อง“ ทั้งภาพและคลิป ว่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย และในข่าวต่างๆอยู่เป็นพันๆรูป

    พี่น้องประชาชนและสังคมทั่วไปเห็นกันหมด มันปกปิดไม่ได้ และเบี่ยงเบนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ด้วยเช่นกัน เพราะการที่ ท่านนายกฯและพ่อท่าน ไปร่วมงานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567

    หลังจากที่นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้ตรวจพิจารณาสำนวน และมีคำสั่งคดีเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 โดยสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา  

    นัดหมายให้มารายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถ.รัชดาภิเษก ช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค.2567 ตามนัดหมายของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เพื่อให้ไปรับฟังคำสั่งคดี

    แต่นายทักษิณทำหนังสือถึงอัยการแจ้งขอเลื่อนการฟังคำสั่งคดีออกไปก่อน  ให้เหตุผลว่า “ติดโควิด-19” พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ประกอบ  แพทย์ให้หยุดพักเพื่อสังเกตอาการ และไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ตามกำหนดนัดแต่อย่างใด“

    ” ท่านอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่สนิทสนมกันมาก แต่ถ้าไม่สนิทสนมกันมาก ก็คงจะไม่ไปทั้งพ่อลูก และไปทั้งๆที่เพิ่งหาย จากป่วยโรคโควิดแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปขึ้นเวที และเป็นประธาน ให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ชัดเจนว่า เรื่องไหนสำคัญกว่ากันระหว่างการรายงานตัวตามคำสั่งในคดี ม.112 กับ การเป็นประธานฯงานบวช “ พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าว

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments