Friday, June 6, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตำรวจบช.น.แถลงปิดคดีปล้นบุหรี่ไฟฟ้าและชนรปภ.เสียชีวิตในโกดังท่าเรือ

    ตำรวจบช.น.แถลงปิดคดีปล้นบุหรี่ไฟฟ้าและชนรปภ.เสียชีวิตในโกดังท่าเรือ

    นครบาลแถลงจับยกแก๊งปล้นทรัพย์บุหรี่ไฟฟ้า และขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตโกดังสเตเดียม พื้นที่ สน.ท่าเรือ หัวโจกอ้างใส่เกียร์ผิดชนรปภ.

    เช้าวันที่ 3 มิถุนายน 68 ณ ห้องประชุม ศปก.สน.ท่าเรือ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ

    ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าผู้ต้องหา 6 ราย ก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์บุหรี่ไฟฟ้า และขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะเข้าสกัดเหตุจนเสียชีวิต

    พล.ต.อ.ประจวบกล่าวว่า รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร. มาช่วยกำกับดูแลติดตามความคืบหน้าของคดี

    กรณีเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 68 เวลาประมาณ 01.20 น. มีกลุ่มคนร้ายจำนวนประมาณ 6 คน ขับรถตู้ ทะเบียน นข xx73 ตาก เข้ามาบริเวณโกดังสเตเดียม ถนนท่าเรือ 1 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และลงมืองัดตู้คอนเทนเนอร์ภายในโกดัง เพื่อลักทรัพย์ (บุหรี่ไฟฟ้า)

    มีนายบุญนาค สวัสสุข เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าเรือ เป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์พยายามเข้าระงับเหตุ ขณะนั้นกลุ่มคนร้ายได้พากันขึ้นรถตู้พยายามหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ และได้ขับรถถอยพุ่งชนรถจักรยานยนต์นายบุญนาคฯ ขณะที่ขี่ไล่ติดตามกลุ่มคนร้าย ทำให้นายบุญนาคฯ เสียชีวิต

    นอกจากนี้คนร้ายยังได้ขับรถเฉี่ยวชนรถกระบะของประชาชนที่ขับขี่ผ่านมาในบริเวณที่เกิดเหตุ ส่งผลให้รถกระบะได้รับความเสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ ได้ร่วมกันบูรณาการกำลังสืบสวนติดตามคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้

    ได้จับกุมนายดิศรณ์หรือเจ อายุ 41 ปี ได้พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า 493 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ในบ้านนายเจ จึงได้แจ้งข้อหาว่า “รับของโจร” และสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีผู้ก่อเหตุอีก 5 คน ได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ประกอบด้วย

    นายสิทธิศักดิ์หรือแบงค์ อายุ 38 ปี (ขับรถ/หลบหนี) นายนรินทร์หรือเบิร์ด อายุ 46 ปี (จับกุม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.) นายธนทร หรือจี อายุ 41 ปี (จับกุม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.68) นายภัยกร หรือคิง อายุ 27 ปี (จับกุม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.68) นายเอกชัย หรือเอกบอด อายุ 42 ปี จับกุม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.68 นายสุวัฒน์ หรือเล็ก อายุ 42 ปี (จับกุม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.68)

    แจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม,

    ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และช่องโจร” (ผู้ต้องหาที่ 1-6)

    และข้อหา “ฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้” (ผู้ต้องหาที่ 1) ทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรม บุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 493 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 65,820 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรมศุลกากร เป็นของกลางในคดีที่นำมาเก็บรักษาไว้

    ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ รถตู้  ทะเบียน นข 39xx ตาก (ของนายแบงค์) ครีมตัดเหล็ก 1 อัน ไฟส่องสว่างแบบติดหัว 1 อัน สถานที่เกิดเหตุ โกดังสเตเดียม ถนนท่าเรือ 1 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม.เป็นพื้นที่ของการท่าเรือโดยกรมศุลกากรได้มาเช่าพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเก็บรักษาของกลางในคดี

    หลังแถลงข่าว พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 นำกำลังจับกุมนายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ อายุ 38 ปี หัวหน้าแก๊งได้ที่บริเวณล็อก 4 ล็อก 5 ชุมชนคลองเตย ถนนอาจณรงค์ แขวงและเขตคลองเตย กทม. ใกล้บ้านพักนายแบงค์พักอยู่ล็อก 6 ชุมชนคลองเตย ก่อนควบคุมตัวกลับมาที่สน.ท่าเรือ

    เให้บื้องต้นให้การว่า ทำทุกอย่างเองโดยที่ไม่มีใครจ้าง โดยมีผู้ดูแลสนามฟุตบอลในพื้นที่เป็นคนคอยชี้เป้าให้ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นตนชักชวนไปทำ ไม่ได้ว่าจ้าง

    ส่วนเรื่องถอยรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์บอกว่าใส่เกียร์ผิด ไม่ได้ตั้งใจ อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนคนชี้เป้าชื่อเล่น สน เป็นช่างทั่วไป การท่าเรือแห่งประเทศไทย

    ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการซักถามนายแบงค์ ให้การว่า ก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกทำวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้บุหรี่ไฟฟ้าไปเต็มรถตู้ รวมมูลค่า 270,000 บาท นำไปขายทางออนไลน์

    ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ทุกครั้งจะมีคนในพื้นที่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นคนคอยชี้เป้าให้ และมีความสนิทสนมกับนายแบงค์ ตอนนี้ตำรวจทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร

    ส่วนที่ขับรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์ยังยืนยันว่าเป็นการใส่เกียร์ผิด ไม่ได้มีเจตนา แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ส่วนข้อมูลที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลไม่ตรงกับกรมศุลกากรว่าไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อน เพราะตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความจากกรมศุลกากร จะต้องรอให้กรมศุลกากรรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะรายการบัญชีของกลางเพื่อนำมาตรวจสอบ

    หลังจากทำบันทึกจับกุมเสร็จแล้วจะส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียด แล้วจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ ท้ายคำร้องคัดค้านประกันตัว

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments