“ข้าวเหนียวมูน” ขนมไทยที่มีมาแต่โบราณ อย่างน้อยก็ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น
เห็นได้จากบทพระราชนิพนธ์ “กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน” ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และในอดีต
ข้าวเหนียวมูนมักทานกับหน้าสังขยา ต่อมาก็มีหน้าปลาแห้งหน้ากุ้ง และหน้ากระฉีก หากช่วงฤดูร้อนเมนูชวนฝัน ก็เห็นจะเป็นข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงสุกสีเหลืองอร่ามรสอร่อยที่หลายคนชื่นชอบ
วันนี้เด็ดดาว จะพาไปรู้จักกับร้านขนมไทยชื่อดังย่านรังสิต ที่มีข้าวเหนียวมูนสูตรโบราณเป็นเมนูฮิตติดชาร์ต เพราะที่นี่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี
ใช้กะทิสดจากมะพร้าวใต้มาคั้นให้ได้หัวกะทิที่หวานมันหอมละมุน และใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเม็ดเรียงสวยช่วยให้ดูน่ารับประทาน
“ร้านญาณภาขนมไทย” เริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ ในแฟลตตำรวจย่านคลองหลวง จนวันนี้ได้ยกระดับดีกรีความอร่อย ขึ้นห้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ
เรามาดูกันว่า กว่าจะมีวันนี้คู่ของ ร.ต.อ. ล้วน ปุรณะ รอง สวป.สภ.คลองหลวง และคุณญาณภา หรือพี่เพ็ญ ต้องใช้ความมานะพากเพียรขนาดไหน กว่าจะเป็นร้านขนมไทยที่มีเมนูหลากหลายให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง
ผู้กองล้วน เล่าว่า
หลังจากแต่งงานกันแล้วมีลูก ก็คิดว่าการทำอาชีพตำรวจเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ภรรยาและลูกได้อยู่อย่างสุขสบาย
ส่วนภรรยาซึ่งมีอาชีพค้าขายอยู่แล้วคิดว่าถ้าให้สามีมาช่วยหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากเงินเดือนตำรวจก็คงจะดี
ประกอบกับพี่เพ็ญเองก็มีสวนมะม่วงอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง เมื่อถึงฤดูกาลก็จะมีผลผลิตออกมามากมาย
จากเดิมที่ขายมะม่วงดิบกับน้ำปลาหวานอยู่แล้ว จึงคิดหาทางสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นอีก โดยที่พี่เพ็ญเองก็มีความสามารถในการทำขนมไทยได้หลายอย่าง และได้คุยกับสามีว่าเรามาทำขนมไทยขายกันดีกว่า
เริ่มจากข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงสุกจากสวนของเราก่อน
จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน
สามีก็ยินดีช่วยเป็นลูกมือให้กับภรรยาที่ขยันทำมาหากิน เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันภรรยา ว่ายังไงก็ว่าตามกันอยู่แล้ว ผู้กองล้วน บอกว่า
อาชีพตำรวจพอเราอายุ 60 ปี ก็ต้องมีการเกษียณ แต่อาชีพเสริม ไม่มีวันเกษียณนะทำได้ยาวไป แถมยังถ่ายทอดวิชาชีพที่มีอยู่ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกด้วย
ผู้กองล้วน ยอมรับว่า
ตอนแรกก็รู้สึกอายเพราะคิดว่าเรื่องการทำขนมขายไม่ใช่งานของผู้ชาย เป็นงานของผู้หญิงมากกว่า แต่เมื่อคิดว่าต้องทำเพื่อครอบครัวก็ยินดี อีกอย่างก็รู้สึกสงสารภรรยาที่ต้องนอนดึกตื่นเช้ามืดและต้องขนของหนัก จึงเต็มใจช่วยเหลืออย่างเต็มที่
หลังออกเวรมาเราก็ไปช่วยภรรยา ซื้อวัตถุดิบจากตลาดไท จากนั้นก็มาเป็นลูกมือภรรยาทำขนมที่แฟลตต่อ เริ่มตั้งแต่แช่ข้าวเหนียว ขัดข้าวเหนียว คั้นกะทิ และเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ ตลอดจนหุงและมูนข้าวเหนียวจนได้ที่
สำหรับเคล็ดลับความอร่อยนอกจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพแล้ว ทางร้านเราก็ใช้สีจากธรรมชาติทำให้ขนมมีสีสันน่าทานเช่น ใบเตย อัญชัน ขมิ้น ทำแบบนี้มาร่วม 15 ปีแล้ว จนทุกวันนี้ภรรยาถึงกับเอ่ยปากการันตีว่าสามีสามารถแกะสูตรข้าวเหนียวมูนจากเธอได้เป๊ะมาก
นอกจากนี้ยังมีข้าวเหนียวหน้ากุ้ง หน้าสังขยา และหน้าปลาแห้งอีกด้วย
สำหรับเมนูขนมไทยของทางร้านก็ยังมีให้เลือกอีกหลายอย่างเช่น ขนมหม้อแกง บัวลอยมะพร้าวอ่อน ครองแครง ข้าวเหนียวถั่วดำข้าวเหนียวเปียกลําไย สาคูแคนตาลูป ข้าวต้มมัด ตะโก้เผือก วุ้น ขนมตาล เปียกปูน ขนมชั้น ฯลฯ
ราคาเริ่มต้นเพียง 25 บาท ส่วนข้าวเหนียวมูนก็ราคาโลละ 150 บาท เพราะเราอยากให้คนมีรายได้น้อยเขามีโอกาสได้กินของอร่อยในราคาสบายกระเป๋า …จึงขอตรึงราคานี้ไว้ก่อน
ผู้กองล้วนยังบอกอีกว่า
ช่วงฤดูร้อนข้าวเหนียวมะม่วงจะขายดีเป็นพิเศษ เฉพาะข้าวเหนียวมูนเพียงอย่างเดียวก็ขายได้วันละประมาณ 30 กิโลกรัม ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่คอยสั่งซื้อ
แต่ก็มีลูกค้าขาจรหลายรายที่ได้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของร้านเราไปแล้ว ผมต้องขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุน
“ความขยันไม่เคยฆ่าใคร”
แม้จะต้องอดหลับอดนอนทั้งก่อนเข้าเวรและหลังจากออกเวร แต่ผู้กองล้วนก็ไม่เคยปริปากบ่น
2 คนกับภรรยาช่วยทำขนมไทยขายจนสามารถส่ง “น้องหยก” น.ส.ลักษณ์ศิณา ปุรณะ ลูกสาวคนเดียวจนเรียนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือว่าเป็นความภูมิใจของเขาและภรรยาอย่างมาก
พี่เพ็ญ เล่าเสริมว่า
รู้สึกภูมิใจมากที่ 1 สมอง 2 มือ ของเธอและสามีสามารถทำอาชีพเสริมสร้างรายได้อย่างดี ช่วยให้ลูกมีอนาคตที่สดใส เงินทั้งหมดก็ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงและความขยันขันแข็งของ ทั้งคู่ และไม่ว่าเธอจะลงมือทำอะไรคนข้างกายอย่างผู้กองล้วน “ร่วมด้วยช่วยสู้อยู่เคียงข้าง” มาโดยตลอด
เรียกได้ว่า เป็นคู่แท้ ไม่มีท้อ จริง ๆ แม้เงินเดือนตำรวจจะน้อยแต่เราก็ไม่รอคอยรายได้ทางเดียว ช่วยกันหารายได้เพิ่มเติมทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
ผู้กองล้วน บอกว่า
มาเป็นตำรวจด้วยใจรัก แม้รู้ว่าค่าตอบแทนที่ได้จากอาชีพนี้จะน้อย เมื่อเทียบกับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง ถ้ารู้จักประหยัดอดออมก็คงพออยู่ได้ แต่การที่เรามีอาชีพเสริม จะสามารถช่วยให้ครอบครัวมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ส่งเสริมให้ครอบครัว ตำรวจดำเนินชีวิตตามแนวทางนี้อยู่แล้ว คือการหาเงินอย่างสุจริต และไม่ได้เบียดบังเวลาราชการ
ผู้กองล้วน ยังเล่าด้วยว่า
หลังจากที่ออกเวรแล้วมาช่วยทำขนมต่อโดยไม่ได้พักผ่อน บางทีก็มีหลับคาร้านบ้างเหมือนกันเพราะทั้งง่วงและอ่อนเพลีย แต่พอถึงวันนี้เห็นความสำเร็จของลูกสาวแล้วบอกได้คำเดียวว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง (เขาเล่าด้วยรอยยิ้มและแววตาที่ฉายประกายแห่งความสุข )
ใครที่ต้องการใช้ขนมไทยจัดเบรค ทางร้านก็มีบริการจัดส่ง และผู้ที่ชื่นชอบขนมไทยแบบปรุงสด…รสเลิศ
แวะมาอุดหนุน “ร้านญาณภาขนมไทย” ของผู้กองล้วนและพี่เพ็ญได้ที่ตลาดนัดโรงพยาบาลปทุมธานี ทุกวันพุธ
ส่วนวันศุกร์ – อาทิตย์ จะขายอยู่ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตชั้น 2 ฝั่งสเปล ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึง 20.00 น.
เด็ดดาว บอกก่อนว่า ถ้าช้าหมด…อดชิมของอร่อยนะคะ !
ปล. พี่เพ็ญยังฝากบอกว่า เธอไม่หวงวิชา ถ้าแม่บ้านตำรวจคนไหนสนใจอยากได้ความรู้ไปสร้างอาชีพช่วยเหลือครอบครัว เธอก็ยินดีสอนให้ด้วยความเต็มใจค่ะ
เด็ดดาว รายงาน 20/9/68