ผบ.ตร. ชื่นชมตำรวจปฏิบัติการเฉียบ วิสามัญผู้ต้องหายาเสพติดหลังยิงต่อสู้ขณะจับกุม ย้ำใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล รอบคอบ ปลอดภัย และขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด
วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 18.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการพล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุวิสามัญผู้ต้องหาคดียาเสพติด บริเวณบ้านพักริมคลองมหาสวัสดิ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
มี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผบก.สส. บช.น. และ พล.ต.ต.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผบก.น. 7 ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้สืบทราบเบาะแสว่า นายวิชัยฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.296/2568 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2568 ข้อหา “ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย” ได้หลบหนีมากบดานในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนในพื้นที่
ขณะเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม นายวิชัยฯ ได้ใช้ปืนยิงสวนใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยิงตอบโต้ตามหลักยุทธวิธีเพื่อป้องกันตัว เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบในบ้านพบอาวุธปืน11 มม. 1 กระบอก, ปลอกกระสุนจำนวนหนึ่ง, ยาบ้ากว่า 100 เม็ด และไอซ์อีกบางส่วน
จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าผู้ตายเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาแล้วถึง 6 คดี และยังมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งตำรวจจะขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป
พล.ต.อ.สำราญฯ กล่าวว่า นายวิชัย ถือเป็นผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมตัวอยู่ ซึ่งขอชมเชยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีและปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
หลังจากนี้จะมีการขยายผลการจับกุมว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง และตรวจสอบว่าในระหว่างที่กบดานมาที่เกิดเหตุ มีการจำหน่ายยาเสพติดรายย่อยในชุมชนหรือไม่ ยืนยันว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเฉียบขาด เพื่อให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้แสดงความห่วงใยและชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ รอบคอบ และใช้ยุทธวิธีตามหลักสากลในการเข้าจับกุม
พร้อมย้ำว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาคดียาเสพติดมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมรุนแรง และพร้อมต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ จึงกำหนดแนวทางให้ทุกหน่วยตรวจสอบประวัติอาชญากรอย่างละเอียด ฃวางแผนยุทธวิธีให้รอบคอบก่อนเข้าปฏิบัติการ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน
การปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างชุมชนและสังคมไทยให้แข็งแรง ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน


























