สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนภัย แผนประทุษกรรมใหม่แก๊งสแกมเมอร์ AI หลอก AI เปลี่ยนเหยื่อเป็นผู้ร้าย
วันที่11 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า
จากการติดตามจับกุมแกะรอยแผนประทุษกรรมของขบวนการสแกมเมอร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบกลวิธีใหม่ขบวนการสแกมเมอร์ล่อลวงเหยื่อ ใช้เทคโนโลยี AI หลอก AI เปลี่ยนเหยื่อให้ตกเป็นผู้ร้าย ทำให้เหยื่อกลายเป็นบัญชีม้าทางผ่านเงินที่ได้จากการหลอกลวง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบกลวิธี AI หลอก AI
จากปฏิบัติการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าทลายรังวอร์รูมของหน่วยการเงินของแก๊งสแกมเมอร์ ที่หนีจากประเทศเพื่อนบ้าน ย้ายมาเช่าห้องในกรุงเทพมหานคร
ด้วยยุทธวิธีบุกจับอย่างฉับพลัน ทำให้จับกุมชาวจีน 4 ราย พร้อมคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง และโทรศัพท์ 60 เครื่อง
ตรวจข้อมูลคอมพิวเตอร์ พบการใช้ AI หลอก AI ซึ่งทันทีที่ทราบว่าแก๊งมิจฉาชีพนำกลวิธีใหม่มาหลอกลวงผู้อื่น แม้จะเป็นการหลอกลวงเหยื่อในต่างประเทศ แต่ผบ.ตร.ห่วงใย ย้ำว่าตำรวจต้องออกมาเตือนภัย สร้างวัคซีนให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อจากกลวิธีนี้
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขั้นตอนการหลอกลวง AI หลอก AI มีดังนี้
1. คนร้ายหาเหยื่อผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Telegram หรือในแพลตฟอร์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ
2. คนร้ายชักชวน ออกอุบายให้เหยื่อส่งภาพถ่ายใบหน้าตรง และข้อมูลส่วนตัว แลกกับเงิน 100-150 หยวน หรือ 460 – 700 บาท
3. คนร้ายนำภาพของเหยื่อ ใช้ AI เจนเนอเรทให้เป็นภาพเคลื่อนไหว หันซ้าย หันขวา กระพริบตา และอ้าปาก
4. คนร้ายนำคลิปวิดีโอที่ได้จากการเจนเนอเรทโดย AI ไปสมัครบัญชีธนาคารทางออนไลน์ นำไปหลอกกับระบบ AI การ KYC หรือการยืนยันตัวตนลูกค้าของธนาคารหรือแอปพลิเคชันเงินดิจิทัล
5. เมื่อจะทำการรับโอนเงินหรือโอนเงินออก คนร้ายใช้วิธีตั้งกล้องโทรศัพท์ที่เปิดแอปพลิเคชันการ KYC ของธนาคาร แล้วหันกล้องไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งกำลังเปิดคลิปวิดีโอภาพเคลื่อนไหวใบหน้าผู้เสียหาย ทำให้สามารถผ่านระบบยืนยันตัวตนของธนาคารได้
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า กลวิธีนี้ทำให้แก๊งสแกมเมอร์สามารถโยกเงินได้โดยที่ไม่ต้องให้เหล่าบัญชีม้าไปรอสแกนใบหน้า และกลวิธีนี้จะทำให้เหยื่อตกเป็นผู้ต้องหาได้โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น หากมีโทรศัพท์ ไลน์ แชต ติดต่อมาอ้างว่าตัวท่านมีคดีเกี่ยวพันสิ่งผิดกฎหมาย ชักชวนหารายได้เสริม หรือชวนลงทุน แล้วพยายามขอข้อมูลส่วนตัว ขอภาพถ่ายหน้าตรง ต้องระวัง ขออย่าส่งให้เด็ดขาด เพราะอาจเป็นกลวิธีที่หลอกลวงโดยนำ AI มาสร้างภาพ แล้วนำไปใช้เปิดบัญชี เป็นทางผ่านเงินของแก๊งสแกมเมอร์ได้
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถาม หรือแจ้งความ โทร.1441 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.go.th เท่านั้น



























