ตำรวจไซเบอร์ ตัดวงจรสแกมเมอร์ ล่อซื้อรวบ3ผู้ต้องหาเอเย่นต์ขายซิมผี-บัญชีม้าคาห้างสรรพสินค้ามหาชัย
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.68 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 สั่งการ พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.2 บก.สอท.1 พ.ต.ท.เรืองกฤษณ์ ศิริมาจันทร์ รอง ผกก.2 บก.สอท.1 พ.ต.ท.ธรรมปกร กัณหญาวงษ์ รอง ผกก.2บก. สอท.1 พ.ต.ท.ลักษณ์ปกรณ์ ลูกรักษ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.1 พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ นราศรี สว.กก.2 บก.สอท.1
นำกำลังเข้าจับกุม นายเต้ย อายุ 28 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด นายนิลพัท อายุ 21 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และน.ส.สุพิณญา อายุ 25 ปี ขาว จ.สกลนคร พร้อมของกลาง ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ลงเบียนใช้งานแล้ว 31 ซิม เงินสด 77,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.1 ตรวจสอบเฟซบุ๊กพบมีผู้ลักลอบจำหน่ายบัญชีธนาคารและซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนพร้อมใช้งาน เป็นช่องทางให้กลุ่มขบวนการแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำไปใช้หลอกลวงประชาชน
เพื่อเป็นการตัดวงจรคนร้าย จึงติดต่อล่อซื้อ 100 ซิม ในราคาซิมละ 500 บาท และซิมที่เปิดใช้งานพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับบัญชีธนาคารสามารถใช้งานได้เลยอีก 1 เครื่อง ราคา 13,000 บาท นัดรับกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
เมื่อถึงเวลานัดหมายมีกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน นำซิมมือถือที่ลงทะเบียนแล้วนำมามอบให้ 31 ซิม เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาแจ้งว่าหาคนสแกนหน้าลงทะเบียนให้ไม่ทัน ชุดสืบสวนรับของและชำระเงินรวมยอด 77,000 บาท ก่อนแสดงตัวจับกุมพร้อมยึดของกลางไว้ได้ทั้งหมด
สอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดยอมรับ ลักลอบขายบัญชีม้ามาประมาณ 2 เดือน ขายให้ลูกค้าประมาณมากกว่า 10 ครั้ง มีรายได้เฉลี่ย 50,000 ต่อเดือน โดยจะจัดหาผู้มาเปิดบัญชีและให้ค่าเปิดบัญชี ในราคา 3,000 บาท นำมาขายต่อ 13,000 บาท ส่วนซิมม้าเพิ่งเริ่มต้นทำเป็นครั้งแรก
เบื้องต้นดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

























