ผบ.ตร.ส่งรองจเรตำรวจแห่งชาติ แจ้งความเอาผิด ‘บิ๊กโจ๊ก’ พูดพาดพิงให้ร้ายองค์กร
วันที่ 21 พ.ย.68 รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร
ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ลงนามในคำสั่งมอบอำนาจให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร.ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ทำบันทึกรายงานผลการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเสนอต่อ ผบ.ตร. ระบุถึงเหตุการณ์ในช่วงวันที่ 4-17 พฤศจิกายน 2568 มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์และคลิปวิดีโอของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ผ่านสื่อสังคมออนไลน์
จากการตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียด พบถ้อยคำสำคัญที่เข้าข่ายพาดพิงรุนแรง ระบุว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด” ได้มีการเผยแพร่กระจายสู่สาธารณชนในวงกว้าง
รายงานระบุว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย การกล่าวหาองค์กรด้วยถ้อยคำดังกล่าว ถือเป็นการใส่ความที่เกินขอบเขตของการติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตวิสัย แต่เป็นการมุ่งทำลายชื่อเสียง ลดทอนคุณค่าความน่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรงที่สุด อาจส่งผลให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังและขาดความศรัทธาต่อองค์กรในภาพรวม
ทั้งนี้ แม้จะมีการชี้แจงในภายหลังว่าถ้อยคำดังกล่าวไม่ได้หมายความเหมารวมถึงตำรวจทั้งแผ่นดิน แต่เจาะจงเพียงบางกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม การสื่อสารในครั้งแรกที่ระบุชื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์โดยรวมที่สำเร็จผลไปแล้ว การแก้ตัวภายหลังจึงไม่อาจลบล้างความผิดได้เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา
เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศและภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มีคำสั่งลงนามมอบอำนาจให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. มอบหมายให้ตรวจสอบการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดก็ตามที่มีการกล่าวหาหรือพูดพาดพิงให้ร้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือมีพฤติกรรมหมิ่นเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย หากพบให้แจ้งความดำเนินคดี โดยไม่ได้พุ่งเป้าไปที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวกแต่อย่างใด

























