ปิดเกมมือเผา ตม.3 บุกรวบหนุ่มสวีเดน “หมายแดงอินเตอร์โพล” คาพัทยา แฉกลโกงสวมรอย “หนุ่มเยอรมัน” ตบตาเจ้าหน้าที่
ท่ามกลางบรรยากาศการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่ง “ขันน็อต” ขั้นเด็ดขาด!
สั่งยกระดับมาตรการคัดกรองและกวาดล้าง “อาชญากรข้ามชาติ” ที่แฝงตัวเข้ามาในคราบนักท่องเที่ยว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและกู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่ให้เป็นที่ซ่อนตัวของคนร้าย
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ขานรับนโยบาย
สั่งการพล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 กำชับให้กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (กก.สส.บก.ตม.3) กวนขันพื้นที่รับผิดชอบ สืบข่าวเชิงรุก จนนำไปสู่การจับกุมอาชญากรผู้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ซึ่งกบดานในไทยได้จนสำเร็จ
ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 และ ชุดสืบสวน ตม.3 ได้รับเบาะแสสำคัญจากหน่วยข่าวกรองสากล ถึงการหลบหนีของ นาย N ชายชาวสวีเดน ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวางเพลิงเผาอาคารครั้งใหญ่ในเมืองแซฟเชอ (Sävsjö) ประเทศสวีเดน
สายข่าวระบุชัดว่าคนร้ายรายนี้หนีเข้ามากบดานเงียบอยู่ในพื้นที่พัทยา เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังลงพื้นที่แกะรอยอย่างละเอียดแบบปูพรม ความจริงปรากฏ! เมื่อเจ้าหน้าที่พบบุคคลต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับเป๊ะ จึงสนธิกำลังเข้าตรวจสอบทันที
เมื่อจนมุมหลักฐาน นาย N ยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และตรวจสอบพบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้ว (Overstay) เจ้าหน้าที่จับกุมตัวส่ง สภ.พัทยา ดำเนินคดีทันที
ที่น่าตกใจคือ “ความแนบเนียน” ของคนร้ายรายนี้ จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นาย N หลบเลี่ยงการจับกุมได้อย่างยาวนานด้วยเทคนิคแพรวพราว ไม่ยอมใช้เอกสารสวีเดนของตัวเองเลย แต่กลับใช้ “บัตรประชาชนและใบขับขี่ปลอมของประเทศเยอรมัน” ในการเช็คอินโรงแรมและทำธุรกรรมต่างๆ เพื่ออำพรางตัวตน หวังตบตาเจ้าหน้าที่ให้หลงทาง แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นสายตาของตำรวจไทย
ด้าน พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้คือเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จในการสนองนโยบายรัฐบาล ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม แสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย มีประสิทธิภาพและจะไม่ยอมให้ใครใช้ประเทศไทยเป็น “Safe Haven” ในการหลบหนีความผิดอย่างเด็ดขาด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ตม.3 ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา Overstay พร้อมประสานสถานทูตสวีเดนเตรียมส่งตัว “ผู้ร้ายข้ามแดน” กลับไปรับโทษสาสมที่ประเทศต้นทางต่อไป

























