ถอดบทเรียนวิธีจับ “ธัมมชโย” โดย ธนก บังผล
เมื่อต้องหลบๆซ่อนๆ อย่างหวาดระแวง เนื่องจากได้กลายเป็นผู้ต้องหาหนีคดีฟอกเงิน และรับของโจร “ธัมมชโย” ในวันนี้กลายเป็นผู้สูญหายไปโดยปริยาย เพราะแม้ลูกศิษย์คนใกล้ชิดจะยืนยันว่ายังคงรักษาตัวจากอาการอาพาธสารพัดโรคในวัดธรรมกาย แต่อีกด้านหนึ่งก็คือยังไม่มีใครเห็นธัมมชโย ออกมาเซย์ ฮัลโหล อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ความศรัทธาในตัวธัมมชโย ได้ถูกตีกลับอย่างทวีคูณ หลังจากตอบคำถามสังคมไม่ได้ แม้กระทั่งลูกศิษย์เองที่ออกมาทำเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอม ระบบบริหารการประชาสัมพันธ์ในองค์กรที่ถือว่าเป็นยุทธวิธีหลักและจุดเด่นของวัดธรรมกาย มาบัดนี้ไร้ความน่าเชื่อถือสำหรับคนภายนอกไปแล้ว เปิดประเด็นเอง แต่ต้องกลับมาแถลงชี้แจงเรื่องนั้นๆเอง แบบถูๆไถๆ
ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ผู้รับผิดชอบดูแลกำกับคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ในสายตาคนทั่วไปก็ยังคงให้คะแนนเพียงผ่านแบบฉิวเฉียดเท่านั้น ทำงานใหญ่ใจต้องนิ่ง ไม่ใช่ตอบคำถามสื่อมวลชนทุกเรื่อง จะไปค้นวันไหน จะใช้กฎหมายอะไร จะไปขอหมายค้นเมื่อไหร่ ตรงนี้ถ้าไม่เป็นความลับ ก็จับธัมมชโยไม่ได้
หน้าเสื่องานสอบสวนคดีพิเศษ คล้ายกับการทำงานสืบสวนของตำรวจกองบังคับการปราบปราม กล่าวคือ “เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ” ไม่อย่างนั้นจะเป็นคดีพิเศษทำไม จริงไหม สำหรับกองปราบ เมื่อรับคดีมาแล้วแนวทางการสืบสวนเป็นความลับตลอดทุกกระบวนการ จนมั่นใจแล้วว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงขอศาลออกหมายจับ ซึ่งขั้นตอนการวางแผนจับยังคงเป็นความลับ เจอกันอีกทีตอนรวบตัวมาแล้ว นั่นละถึงจะเปิดเผยกันได้
ดีเอสไอ มีตำรวจที่ฝีมือดีหลายคน แต่เป็นเพราะระบบองค์กรยังไม่ถูกยกระดับให้เป็นมืออาชีพ บางคดีก็สามารถปิดได้สวยงามสมบูรณ์แบบ แต่พอคดีใหญ่ทีไรเปลืองตัวทุกที
มีเสียงชื่นชม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าวางตัวดี ให้สัมภาษณ์ดี แม้จะมีหลุดบ้างเล็กน้อยๆแต่ก็เป็นปกติที่ถูกถามมากๆ ก็ชักจะรำคาญ (ฮา) ส่วน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ นั้น บอกตรงๆ เข้าไม่ถึงเลยครับ โทรไปไม่เคยรับสายเลย (ฮา) ในขณะที่รองอธิบดีคนอื่นๆ เป็นมิตรทุกคน
กลับเข้ามาสู่คำถามที่ว่า ธัมมชโย จะจบลงอย่างไร ในกระแสข่าวที่ลือสะพัดว่าหนีไปต่างประเทศแล้ว ส่วนตัวแล้ว ควรระวัง “เกลือเป็นหนอน” ในท้องที่ เพราะเขาดูแลกันมาอย่างดียาวนาน �
ว่ากันว่าถนนบางสายที่ปิดอยู่จะเปิดใช้ได้เมื่อ ธัมมชโย จะเดินทางเท่านั้น หากดีเอสไอ ประสานตำรวจภูธร ผมยังเชื่อแน่นอนว่า “ข่าวรั่ว” ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ประสานก็ข้ามหน้าข้ามตา ตรงนี้ลองหาวิธีคุยกัน เพราะรู้อยู่แล้วว่าตำรวจนายไหนเข้าวัดธรรมกาย วันไหน เมื่อไหร่ เพื่ออะไร
ย้ำคำเดิมว่า ถ้าไม่ผิดก็มาขึ้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม อย่ายึดติดกับที่ผ้าเหลือง เพราะศาสนาพุทธไม่ได้บอกว่าเป็นพระได้เพราะผ้าเหลือง แต่อยู่ที่การปฏิบัติในศีลในธรรม แล้วเรื่องบุญก็เพลาๆบ้างอย่าขายให้มันเกร่อ หัดสอนให้รู้จักพอจะดีกว่า
กระซิบนิดนึง เดือนกันยายนนี้ ธัมมชโย จะต้องตื่นเต้นกันอีกครั้งแน่นอน ไม่บอกหรอกนะ ว่าวันไหน