ผู้กำกับนิก-พ.ต.อ.ภาณุภาคย์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1บก.สส.บช.ภ.1
จัดเป็นนักสืบตัวจี๊ด นรต.49 สร้างชื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์สืบสวนปราบปราม มาตั้งแต่ครั้งยังเป็นรองสารวัตรถวิทยุกองปราบฯ สารวัตรทางหลวงร้อยเอ็ด สารวัตรรถไฟหาดใหญ่ หัวหน้าสถานีนพวงศ์ ก่อนมาสร้างชื่อกระหึ่มที่กองสืบภาค 1
ไอดอลนักสืบของเขา ไม่ใช่ใคร คือ พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี อดีต รองผบช.สตม. หรืออาจารย์ใหญ่โรงเรียนนักสืบ และพ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. 2นักสืบเลื่องชื่อแห่งนครบาล
วันนี้มาดูเขี้ยวเล็บไล่ล่าจับโจรของผู้กำกับหนุ่มอนาคตไกลคนนี้กันครับ
ปืนต้องใช้สติ -ใช้อารมณ์ไม่ได้
ผู้กำกับนิก-พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.1บก.สส.บช.ภ.1 นักสืบหนุ่มนรต.49
ที่ผ่านมา มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายหลายคดี
วันนี้มาดูเขี้ยวเล็บที่ใช่ไล่ล่าจับโจร ของผู้กำกับหนุ่มรูปหล่อคนนี้กันว่าใช้อะไร
“ตอนจบใหม่ๆ ปี 2539 กระบอกแรก ใช้ Smith&Wesson MD 5906 ตอนนั้นตัวนี้เพิ่งมา แล้วโรงเรียนโปรโมท สมัยนั้นเขาว่ายิงดี ยิงดีไม่เถียง แต่หนัก……”
ซื้อมาตอนนั้น 20,000 กว่าบาท แล้วตอนฝึกงาน พกปืนนี่ไปจับคนร้ายคดีทำร้ายร่างกาย แล้ววิ่งหนี ผมวิ่งตาม ปืนหนักมาก ถ่วงเอวโคตรทรมานเลย กว่าจะจับคนร้ายได้
ผมเลยเปลี่ยนใจ ไม่เอาแล้ว ใช้มา 3 ปี ขายกระบอกนั้นไปซื้อ Glock 26
เปลี่ยนเป็นGlock 26 เพราะ เบา ลูก 9 ลูกดก เล็ก ซ่อนในได้ สรุปคือผมชอบปืนที่ เบา ลูกดก
แต่ก็เกิดปัญหา เคยมีเหตุการณ์หนึ่งยิงกัน ที่เขาบอกคนร้ายถูกยิงด้วยลูก 9 มันยังโต้ตอบได้
ถ้าคนที่เคยใช้ปืนจะรู้ว่า เขามีเวลาโต้ตอบเราเป็นนาที คือกระสุน 9 มันคม เขาคงยังไม่รู้สึก เลยเปลี่ยนมาใช้กระสุนหัวรู
ก็มานั่งคิด ลูกปืนมันไม่หนัก เลยเปลี่ยนมาเป็น Glock 36 คือขนาดเดียวกัน แต่กระสุนเป็น .45 ประสิทธิภาพมันดี ยิงแล้วมันชัดเจนกว่า
ถามว่าเราได้ยิงมั้ย ก็ยังไม่มีโอกาสใช้ เพราะหลักการใช้ปืน เมื่อหยิบมาแล้ว มันต้องจบ นัดเดียวอยู่
หลักใช้ปืนของผม จะไม่ขึ้นลำก่อน ยกเว้นแต่เข้างานเท่านั้น เพราะปืนพวกนี้มันไม่มีเซฟ มันอันตราย
อันนี้ผมคิดเอง ศึกษาเอง เพราะผมทดลองยิง .45 หลายๆ กระบอก แล้วผมเป็นคนที่ชอบปืนเบา เวลาคนร้ายมันวิ่ง เราต้องใช้ปืนเบา
ตัดสินใจซื้อ ตอนเป็น ร.ต.อ.ตอนนั้นช่วงกำลังจะถูกส่งไปอยู่ใต้ ปี 2546
ก็เลยไปขอร้านปืน บอกพี่ ผมจะลงใต้ ยังไม่มีปืนใช้ เขาใจอ่อน ตัดกระบอกนี้ให้ผม 38,000
ทนมากนะ ใช้มา 10 กว่าปีแล้ว ผมว่ามันเข้ามือ ยิงดี แต่มีข้อเสียนิดหนึ่ง ตรงจุดแต่งมันน้อย มันไม่เหมือน Glock19 กับ 17 มีจุดแต่ง อีกทั้งการจับถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดี มันจะลื่น เพราะฉะนั้นต้องได้รับการฝึก
ผมเป็นคนที่ชอบ Glock เพราะทำจากโพลิเมอร์ มันเบา ไม่เคยแต่งอะไร เดิมๆ ไม่ชอบปืนแต่ง รู้สึกว่ามันอันตราย ถ้าหล่นมาที
ส่วนประสบการณ์ ก็จะเป็นปืน Smith&Wesson 5906 ตอนนั้นอยู่กองปราบฯ แผนก 3 กองกำกับการ 2 ไปจับยาเสพติดที่แม่สาย งานที่โดนปล้นเงินไป 2 ล้าน
ผมใช้ลูกซองยิงเสร็จ เอาปืนสั้นไล่ยิงต่อ ยิงโดนขา แต่ตัวโดนยิงมันหาย เลยวิ่งตามคนเอากระเป๋าเงินไป
แต่ถูกพี่สุริยา(พ.ต.ท.สุริยา สิงหกมล รองเลขา”ปปส.)รุ่นพี่ นรต.45 ดึงคอผมไว้ บอกว่าอย่าไป กลัวผมจะไปถูกหมก
แล้วการที่จะใช้ปืน สำคัญที่สุดคือ จะใช้อารมณ์ไม่ได้ ต้องใช้สติ การเก็บปืน ก็ต้องยึดหลักของความปลอดภัย
แล้วผมไม่ได้ใช้ปืนกระบอกเดียว ถึงจะใช้ Glock 36 กระบอกนี้เป็นหลัก เพราะมันติดมือ แต่ก็มีปืนแบ็กอัพ Sig Sauer P320 ปืนสวัสดิการราคา 2 หมื่นกว่าบาทเป็นปืนสำรองไว้ด้วย
ที่สำคัญก็คือการเตรียมความพร้อมเรื่องกระสุน เนื่องจาก Glock 36 มันได้แค่ 6 นัด เพราะฉะนั้นก็ต้องมีแม็ก ก็จะมี 4 แม็ก หายากมาก ไม่ค่อยมีขาย นี่ไปหาซื้อแบบของมือสองมา 6 x 4 ก็ 24 นัด
ไปไหนพกกระสุนเป็นกล่องอีกต่างหาก เพราะอาจมีความจำเป็นได้ใช้
โรนิน 23/3/62
