วันที่1ก.พ.62พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร
ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
รอง ผบช.ภ.1(สส)พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง
ผบก.สส.ภ.1
พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันแถลงผลจับกุมคนร้ายลักทรัพย์ เครื่องเพชรนายจ้าง มูลค่าหลายล้านบาท เหตุเกิดที่ ร้าน Dimond Lover ภายใน Max Value ห้างสัมมากร ถ.ราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 28 ม.ค.62 เวลาประมาณ 15.30 น.
จับกุม น.ส.ชโนทัย หรือปฏิมา อายุ 44 ปี
ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 29 มกราคม 2562
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
พฤติการณ์กล่าวคือ นางสาวชโนทัย ผู้ต้องหาในคดีนี้ เป็นพนักงาน บริษัทไดมอนด์ เลิฟเวอร์ ประจำร้านสาขาห้างสรรพสินค้าแม็คแวลู่ ถนนราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ของ นายไพรัช นาคสระเกษ ผู้เสียหาย เป็นเจ้าของบริษัทฯ
ต่อมาวันที่ 18 มกราคม 62 นายไพรัชฯ ผู้เสียหาย ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จนกระทั่งวันที่ 28 มกราคม 2562 ได้มีลูกค้าของบริษัท จะมารับแหวนเพชรที่นำมาซ่อมกับผู้ต้องหาที่ร้านสาขาดังกล่าว
แต่ปรากฏว่าร้านปิด และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ เนื่องจากลูกกุญแจตู้เซฟผู้ต้องหาเป็นคนเก็บไว้
ได้ให้ช่างกุญแจมาเปิดตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้ในร้าน พบว่าเครื่องประดับที่เก็บไว้ในตู้เซฟดังกล่าวหายไป ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้าง
พบว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 17.00 น. น.ส.ชโนทัยฯ ผู้ต้องหาได้เข้ามาที่ร้าน และใช้ลูกกุญแจเปิดตู้เซฟ ลักเอาเครื่องประดับที่เก็บไว้ในตู้เซฟ ใส่ในรถเข็นของออกจากร้านไปขึ้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน รุ่นซันนี่ สีน้ำตาล ทะเบียน ษน 5644 นนทบุรี ของผู้ต้องหา แล้วหลบหนี
ต่อมา วันที่31ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันบูรณาการเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมได้พร้อมรถยนต์ของกลาง ขณะหนีไปบวชชี ที่ วัดร่มโพธิธรรม หมู่ 10 ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย
จากการซักถามผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินของบริษัทฯ ไปจริง โดยนำไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหานำทรัพย์สินเครื่องประดับของผู้เสียหาย ไปจำนำไว้ตามโรงรับจำนำต่างๆ รวมทั้งสิ้น 4 แห่ง 96 รายการ ทรัพย์สิน 237 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,715,200 บาท
ส่วนทรัพย์สินของกลางรายการอื่น จะได้สืบสวนขยายผลไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามต่อไป จากนั้นนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดี
การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” กระทั่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่มุ่งประทุษร้ายต่อทรัพย์ของนายจ้าง ที่ได้มาโดยสุจริต ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่นายจ้างทุกคน จะต้องคอยหมั่นตรวจสอบบัญชีทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของลูกจ้างอยู่โดยตลอดเวลา
การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง