Enjoy The Hit By นาย ต.
ก๊อกๆๆ ผ่างๆๆ เปิดมาสัปดาห์นี้ นาย ต. รู้สึกใจหายอย่างไรพิกล สถานการณ์บ้านเมืองเรายังคงน่าเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ จากลวกเพ่ Covid-19 เขามาแบบไม่เกรงใจกันเลย
บางทีการตัดสินใจอะไรบางอย่าง ถ้ามีความเด็ดขาดและรวดเร็วกว่านี้ อาจผ่อนหนักเป็นเบาได้ง่ายขึ้น บางอย่างมองนอกกรอบบ้างก็ได้นะครับเจ้านายยยยย…!!!..
ส่วนเรื่องกอล์ฟก็เลื่อนการจัดการแข่งขันกันไป ส่วนนักกอล์ฟเยาวชนบ้านเรา ก็พลิกวิกฤติที่ไม่ได้แข่งขันและซ้อมในสนามไดร์ฟ ก็ฝึกลูกสั้น ฝึกพัตต์ กันในบ้านให้แม่นยำ ออกกำลังทำร่างกายอยู่บ้าน
หรือถ้าใครทำกรงซ้อมไดร์ฟไว้ก็ ซ้อมสวิงกันไป ถ้าเรามัวแต่อ้างลม อ้างฟ้ากันว่า เพราะCovid-19 ทำให้เราไม่ได้ซ้อมก็น่าเศร้า
เพราะคนที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ ย่อมพลิกวิกฤติเป็นโอกาสและพัฒนาฝีมือได้ไกลกว่าเราได้เสมอ สู้ๆนะครับ นักกีฬาของนาย ต. ด้วยรักและห่วงใยจร้า…
สัปดาห์นี้ นาย ต.จะพาไปรู้จักหนุ่มน้อย จากเมืองหัวหิน ถิ่นของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 อีกคนหนึ่ง ที่มีวินัยเป็นเลิศทั้งเรื่องกีฬาและเรียน
ต้นน้ำ-ด.ช.ปิยวัฒน์ สร้อยสังวาลย์ อายุ: 12 ปี 6 เดือน
เรียนแบบ Home School ของ สถาบันการศึกษาทางไกล(Distance Education Institute)ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
เป็นลูกชายของคุณพ่อชวินพัฒน์ สร้อยสังวาลย์ อาชีพเจ้าของธุรกิจด้านไอที (ชวินพัฒน์คอมพิวเตอร์) และคุณแม่ ดร.อมรรัตน์ สร้อยสังวาลย์ อดีตนักวิชาการกระทรวงศึกษาธิการและอาจารย์มหาวิทยาลัย
น้องต้นน้ำได้มีโอกาสรู้จักกับกีฬากอล์ฟครั้งแรกเมื่อตอนอายุได้ 5 ขวบ 6 เดือน แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้ายร่างกายและอายุที่ยังน้อย ทำให้ต้องหยุดพักไป
หลังจากนั้นพ่อกับแม่สนับสนุนให้เรียนว่ายน้ำ เพราะเห็นว่าในตอนนั้นร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรง ป่วยบ่อย จนได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของชมรมว่ายน้ำ Hua Hin Swimming Club
โดยมีโค้ชหิน นายกิตติธัช จันทร์นวล เป็นผู้ฝึกสอน และเป็นคนเริ่มที่ช่วยปลูกฝังความมีวินัยและความมีน้ำใจนักกีฬาให้กับต้นน้ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…
ปี2560 ต้นน้ำได้เข้ามาสัมผัสกับกีฬากอล์ฟอีกครั้ง จากการเข้าร่วมโครงการ Weekend Junior Golf Club
จัดโดยชมรมสิงห์พัฒนากีฬากอล์ฟหัวหิน ที่มีคุณอำนาจ ป่านแก้ว เป็นประธานโครงการนับได้ว่าโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้ต้นน้ำหันมาชอบกีฬากอล์ฟมากขึ้น
หลังจากนั้น น้องต้นน้ำได้เริ่มเรียนกอล์ฟ กับโปรสำเนียง และโปรธานินทร์ นิ่มโอษฐ์ โปรประจำสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน แบบจริงจังเมื่อต้นปี2561
ปัจจุบันต้นน้ำมาเรียนกับ โปรแจ็คนพไพสิษฐ์ กัณหาเจริญ จากสถาบัน Golf Space Academy และเป็นเยาวชนในชมรมสิงห์พัฒนากีฬากอล์ฟหัวหิน
ได้รับการสนับสนุนในเรื่องลูกซ้อม และสิทธิ์ให้ใช้สนามกอล์ฟหลวงหัวหินในการออกกรอบเพื่อฝึกซ้อม รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการแข่งขันหากมีอันดับในการแข่งขันติด 1 ใน 5 ซึ่งช่วยลดภาระของครอบครัวได้อย่างมาก …
น้องมีตารางฝึกซ้อมดังนี้ วันจันทร์ พุธ ศุกร์: เช้า ว่ายน้ำ ซ้อมลูกสั้น ที่สนาม lakeview หรือ สนามกอล์ฟบันยัน เย็น ซ้อมพัต ซ้อมไดรฟ์สนามกอล์ฟหลวงหัวหินถึงสองทุ่มครึ่ง
วันอังคาร พฤหัส เสาร์ เช้า ออกกำลังกาย ซ้อมไดร์ฟ ที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน เย็น ออกรอบสนามกอล์ฟหลวงหัวหินเสร็จแล้วซ้อมไดร์ฟต่อจนถึงสองทุ่มครึ่ง(สุดยอดครับ)…
ต้นน้ำเริ่มลงแข่งขันกอล์ฟครั้งแรก ในรายการ CGA-Chang Thailand Kids Step-Up Tournament ที่สนาม Dynasty Golf & Country Club
เป็นการแข่งขันที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับต้นน้ำมากที่สุด
เพราะต้นน้ำได้รับถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในรุ่นคลาส C เป็นถ้วยรางวัลแรก จากการแข่งขันครั้งแรกของต้นน้ำอีกด้วย
ต่อมาได้เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนในรายการต่างๆ ผลก็มีดีบ้างและไม่ดีบ้างปะปนกันไป
ทางครอบครัวใช้กีฬากอล์ฟช่วยในการพัฒนาตนเองด้วยการตั้งเป้าหมาย วิเคราะห์จุดบกพร่องจากการแข่งขัน เพื่อกลับมาฝึกซ้อมให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน…
จึงมีข้อตกลงกันว่า
“ในช่วงเวลาของการฝึกซ้อม เปรียบเสมือนต้นน้ำอยู่ในห้องเรียนปกติ พ่อจะเป็นผู้พาไปฝึกซ้อมตามตารางที่กำหนดไว้และอยู่ด้วยเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือให้คำปรึกษาชี้แนะตามที่โปรเขาสอนมา
ส่วนในตอนแข่งขัน เป็นเหมือนห้องสอบ ที่ต้นน้ำจะต้องเข้าไปทำแบบทดสอบด้วยตัวเองโดยนำเอาบทเรียนจากการฝึกซ้อมมาใช้ให้ได้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้เพื่อจะนำไปสู่ความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตนเอง (Self Esteem) ในที่สุด”…
หลังแข่งขันเสร็จเราจะไม่มีการตำหนิหรือต่อว่าหากผลการแข่งขันออกมาไม่ดีเป็นอันขาดแต่เราจะกลับมาพูดคุยเพื่อสะท้อนการปฏิบัติ ในลักษณะ After Action Review เพื่อให้ได้ย้อนคิด ทบทวนจุดบกพร่อง และแก้ไขเท่านั้น…
จุดเด่นของต้นน้ำ คือ มีสมาธิ ควบคุมอารมณ์และมารยาทขณะแข่งขันได้ดี ซึ่งมักจะได้รับคำชื่นชมจากทุกคนตลอด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ครอบครัวให้ความสำคัญมาเป็นอันดับ 1...
ส่วนเป้าหมายการเล่นกอล์ฟอยากได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศ และเป็นนักกอล์ฟอาชีพเข้าร่วมการแข่งขันใน PGA…
คุณพ่อมีคำสอนที่ดีว่า
“คู่แข่งขันที่แท้จริงของเรา ไม่ใช่เพื่อนร่วมก๊วน สนามต่างหากที่เป็นคู่แข่ง เพื่อนร่วมก๊วนเปรียบได้ดั่งเพื่อนร่วมรบ
ฉะนั้นหากเพื่อนทำได้ดีเราก็สมควรยินดีกับเพื่อนอย่างจริงใจ ถ้าเราอยากชนะสนามเราก็ต้องทำเบอร์ดี้ให้ได้
แต่ถ้าเราทำได้แค่พาร์เราก็ได้แค่เสมอ แต่ถ้าพลาดท่าทำโบกี้หรือแย่กว่า เราก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้นั้นให้ได้ด้วยเช่นกัน”
กีฬากอล์ฟเปรียบได้ดั่งการใช้ชีวิต บทเรียนที่ได้จากการเล่นกอล์ฟทั้ง 18 หลุมมีทั้งความสำเร็จ ความผิดพลาด ทั้งดีใจ เสียใจ ผิดหวัง สมหวังปะปนกันไป ไม่ต่างอะไรกับในช่วงชีวิตเรา
กอล์ฟสอนให้เรารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราก็ต้องทำใจให้ยอมรับให้ได้ และมุ่งหน้าเดินต่อไปยังลูกที่ตกอยู่ เพื่อที่จะได้ตีชอตต่อไป
เสียเวลาที่จะไปมัวเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะถึงอย่างไรเป้าหมายสุดท้ายของเราคือการตีลูกให้ลงหลุมในที่สุด (Golf is Life)…
สุดท้ายคุณพ่อฝากถึงวงการกอล์ฟว่า
“กอล์ฟไม่มีทางลัด จำเป็นต้องใช้เวลา ขยัน มีวินัย อดทน และรอคอย และที่สำคัญอย่าเปรียบเทียบเป็นอันขาด เพราะขีดความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ที่สำคัญที่สุดเหนืออื่นใดผู้ปกครองต้องแน่ใจว่าลูกของเราเล่นกอล์ฟด้วย “ใจรัก” อย่างแท้จริง สุดท้ายจะส่งผลดีในที่สุด”….
เพราะฉะนั้นกีฬากอล์ฟของต้นน้ำจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้ถูกบรรจุเข้าไว้ในแผนการเรียนรู้ ที่ทางครอบครัวยื่นเพื่อขออนุญาตต่อกระทรวงศึกษาธิการภายใต้ชื่อ “บ้านเรียนตามฝัน” ในที่สุด (สุดยอดครับ)
หวังว่าหลายๆท่านคงได้ประโยชน์จากแนวคิดของครอบครัวน้องต้นน้ำกันทุกท่านนะครับ…สวัสดี
