พี่ตุ๊–ประพนธ์กับผม เราเจอกันตั้งแต่อยู่กองปราบสามยอด
ตอนที่ผมเห็น พี่ตุ๊เดินเคียงข้างพี่ยะ–ชัยยะ ศิริอำพันธ์ุกุล พี่ทอม–สกลรัฐ หรือชื่อใหม่ ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ เพื่อนร่วมรุ่นนรต34ที่ขณะนั้นเป็นสารวัตรอยู่กอง3ด้วยกันทั้งหมด
จัดว่าไม่ธรรมดา เส้นทางชีวิตพี่ตุ๊ มีลีลาเค้นปากคำโจรถึงขนาดขึ้นหัวยักษ์มาแล้ว
วิถีนักสืบพี่ตุ๊ คลุกกับจอมยุทธผมได้ยินกับหู นักเลงมีชื่อหลายคน เรียกพี่ตุ๊ว่าพ่อ มือปืนอันดับ1ที่ตร.ยังจับไม่ได้ พี่ตุ๊ก็เคยเรียกใช้
คอนเนกชั่นเหล่านี้เลยติดพันตัวถูกมองว่าเอี่ยวเกี่ยวคดีหลายเรื่อง ถนนสีกากีของพี่ตุ๊เลยดูขรุขระอย่างที่หลายคนเห็น
แต่สุดท้ายเกษียณฯโดยไม่มีเรื่องฟ้องร้องมีคดีความติดตัว
ส่วนผมกับพี่ตุ๊ ยังรักกันเป็นพี่น้องเหมือนเดิม วันนี้เอาเรื่องพระเรื่องเครื่องรางที่พี่ตุ๊ นับถือที่ผมเคยบันทึกไว้มาอ่านแก้คิดถึงครับ
มีพระไว้ยึดเหนี่ยวยามทุกข์
พ.ต.อ.ประพนธ์ ไกรประยูร ผกก.สภ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา
นรต.รุ่น 34 รุ่น พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ รองผบช.ศชต. พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รองผบช.ภ.5
ตอนเป็นตำรวจเด็กๆ ตุ๊-ประพนธ์ เป็นรองสารวัตรสืบสวน สน.ทองหล่อ ออกท่องราตรีในพื้นที่ จนทะลุปรุโปร่งทุกตารางนิ้ว
โตขึ้นมาอีกหน่อยเป็นข่าวพาดหัวยักษ์หลายครั้ง เรื่องอะไรไม่บอก ไปถามเจ้าตัวเอาเอง
ชีวิตน่าจะรุ่ง เพราะอยู่หน้าห้องพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตผบช.ก.
จากสารวัตรกองปราบฯขึ้นเป็นรองผกก.อยู่ที่ใต้ แต่กลับระหกระเหินเร่ร่อนพเนจร
ผ่านไป 13 ปี ถึงได้ยศ พ.ต.อ.เป็นผกก.อก.ที่ภาค 6 เพราะมี “คุณอา”วุโสช่วย
ก่อนที่พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณอยุธยา อดีตรองผบ.ตร.และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ครั้งเป็นรองผบช.ภ.1 ดึงกลับมาเป็นผกก.มีแผ่นดินเหยียบอยู่ที่ อ.บ้านแพรก อ.เล็กๆในกรุงเก่า
มีโอกาสเจอกัน เลยถามถึงเรื่องพระในคอ ตุ๊-ประพนธ์ ถอดสร้อยจากคอให้ดูทั้งพวงก่อนบอกว่า
“มีอยู่ 5 องค์ ใส่ติดคอตั้งแต่หนุ่มๆ องค์แรกสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์อกครุฑ เศียรบาตร ของคุณปู่ องค์ที่สอง ชินราชอินโดจีน พ่อเป็นทหารผ่านศึกเวียดนาม ชื่อปรีชา ตอนนั้นใส่ไปรบเวียดนาม แล้วก็ตกมาถึงผม ใส่ตั้งแต่เป็นร้อยตำรวจโท
อีกองค์เป็นของพ่อตาแม่ยาย หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ปี 97 พิมพ์กลาง
องค์ที่ 4 เหรียญจตุคามรามเทพ เนื้อเงิน รุ่นปี 2530 วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช พวกให้มาวันเกิด
องค์สุดท้ายเป็นเหรียญทองคำเสด็จเตี่ย เช่าจากพระตำหนักที่จ.ชุมพร เมื่อปี 35 …”
ผมเป็นลูกทหาร บ้านอยู่กองสัญญาณทหารเรือ ในโรงเรียนเตรียมทหารเก่า มีศาลเสด็จในกรมฯ อยู่ที่นั่น เลยนับถือมาตลอด
ยามคับขันอยู่ในจุดเสี่ยง จะอาราธนาท่านให้คุ้มครอง รอดพ้นทุกครั้ง เลยขึ้นคอตลอด
ช่วงปี 27-28 เป็นรองสารวัตรสืบอยู่ สน.ทองหล่อ มีทหารเมาคลั่งถือระเบิดน้อยหน่าจับเมียล็อกคอเป็นตัวประกัน แถวๆแฟลตรัตนา เอกมัยซอย7
ก็เข้าไปช่วยแย่งระเบิดมาได้ในสภาพสลักนิรภัยหลุด แต่ระเบิดด้านไม่ทำงาน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ตอนนั้นห้อยหลวงพ่อท่านคล้ายรุ่น 1วัดจันดี หลวงพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช และก็ชินราชอินโดจีนของพ่อ 3 องค์
ตุ๊-ประพนธ์บอกอีกว่า ก่อนได้เป็น ผกก. เป็นช่วงพระเสาร์เข้า ราหูเสวยอายุ ย้ายทุกคำสั่ง เป็นช่วงไม่ดี เหตุจากที่เราเป็นนักสืบ ก็ต้องมั่วอยู่กับพวกจอมยุทธ กินเที่ยวเล่นสนุกด้วยกัน
ทีนี้มันไปก่อคดีก็ไม่เคยรู้ พอเรื่องดังก็พันมาถึงเรา รู้สึกทุกข์ใจ ถูกโยงโดยที่เราไม่เกี่ยว ซ้ำเพื่อนที่สนิทๆบางคน ก็ไม่เชื่อว่าเราไม่รู้เรื่อง
ก็มีพระในคอที่เรายึดเหนี่ยวเท่านั้น ที่เราอาราธนาขอให้แคล้วคลาด ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วก็มีครอบครัวเนี่ยแหละที่ให้กำลังใจ
อีกอย่างที่ไม่ท้อ เพราะคิดว่าเราทำเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดแล้ว ทำอย่างเต็มกำลัง เต็มความรู้ ความสามารถที่เรามี
อนาคตจะเป็นไงก็ไม่เป็นไร แต่เชื่อว่าสุดท้ายมันต้องดี
Cop’s Magazine Vol.7 No.83 July 2013
เกษียณอายุราชการ30ก.ย.62
ในตำแหน่ง รองผู้บังคับการมาตรฐานวินัย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองผบก.มน.สง.ก.ตร.)