ปีนรั้วโรงเรียนนายร้อยกับอ.อิ๊กคิว วันนี้ ส่งนักเขียนจำเป็นมาทำหน้าที่ชั่วคราว เนื่องจาก อ.อิ๊กคิว บินลัดฟ้าไปเกาหลีใต้ จะกลับมาปฎิบัติงานภายในอาทิตย์หน้าแน่นอนค่ะ
แต่ถึงตัวจะอยู่ไกล ยังส่งลูกศิษย์หล่อเวอร์ยิ่งกว่าตำรวจเพจไฉไลมาแนะนำให้ FC POLICE ได้ยิ้มแก้มปริกันจนฟินนเฟอออร์ใจละลาย อยากมีความรักขึ้นมากระทันหัน ตำรวจหนุ่มฮีโร่ เคยมีข่าว ร่วมกับพ่อ “ช่วยผู้หญิงให้รอดชีวิตจากเหตุการณ์รถไฟไหม้” เป็นคุณงามความดีติดตัวไปจนวันตาย ไม่เพียงเท่านั้นค่ะ ..
นายร้อยตำรวจหนุ่มคนนี้ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สำคัญ ทางสภากาชาดไทย ทำหนังสือเชิญ เข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพฯ รับพระราชทานเหรียญกาชาดสรรเสริญ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์
สำคัญที่สุดคือ “..โสด โสด อยู่ทางนี้! โสด โสด ได้ยินมั้ย?…” สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา…ขยับมาใกล้ๆหัวใจนายร้อยตำรวจหนุ่มคนนี้กันดีกว่าค่ะ อ๊ะ อ๊ะ! ขอเตือนไว่ก่อนว่า ทำใจแข็งๆเข้าไว้อ่านให้จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่า “จะรัก…หรือไม่รัก”
ทำความารู้จักกันหน่อยจร้า
สวัสดีครับ ผม นักเรียนนายร้อยตำรวจ กษิดิศ สันติปรีชาวัฒน์ ชื่อเล่นชื่อ แบงค์ อายุ 22 ปี ปัจจุบันศึกษาอยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 4 จบการศึกษาม.3 จาก โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยครับ
ทำไมน้องแบงค์ถึงเลือกเป็นตำรวจค่ะ
ต้องเล่าย้อนไปยาวหน่อยนะครับ ผมเองเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดและโตในเมืองหลวง คุณพ่อผมเป็นนายตำรวจ (พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์) ตำแหน่งปัจจุบัน ผู้กับกับสถานีตำรวจนครบาลหนองแขม ส่วนคุณแม่เป็นเจ้าของโรงงานประกอบรถดับเพลิง เป็นธุรกิจของที่บ้านซึ่งทำมาหลายสิบปีแล้วครับ ด้วยความที่เมื่อก่อนคุณพ่อรับราชการอยู่ที่นครราชสีมา คุณแม่ก็ต้องทำธุรกิจที่บ้านในกรุงเทพฯ ทำให้ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ต่างกัน ในสัปดาห์หนึ่งๆก็จะได้เจอคุณพ่อ อาทิตย์ละ 2-3 วัน
สมัยผมยังเด็กๆ ประมาณ ป.1 ผมใช้ช่วงเวลาปิดเทอมอยู่กับคุณพ่อ สมัยนั้น ท่านดำรงตำแหน่ง สารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา งานหลักคืออำนวยความสะดวกจราจร ผมเองก็นั่งกินนอนกิน อยู่ในกองเมืองโคราชเป็นหลัก เวลาที่คุณพ่อไปทำงานก็หนีบผมไปด้วย ผมยังจำได้ว่า ผมนั่งกินไอติมอยู่ในป้อมตำรวจหลังคาเป็นหมวกกันน็อค มองพ่อกับลูกน้องโบกรถ ทุกวันๆ จนมันซึมเข้าไปโดยผมเองก็ไม่รู้ตัว
ผมเห็นเครื่องแบบสีกากีนี้จนติดตา คงเป็นเพราะเคยชิน เมื่อเวลาคุณพ่อย้ายไปไหนก็อาศัยช่วงปิดเทอมของทุกๆเทอมตามไปตลอดไม่ว่าจะอยู่ในอำเภอชนบทเดินเตะฝุ่น หรือแม้แต่ในเมือง ทำให้ได้คลุกคลีกับอาชีพนี้ตั้งแต่ยังจำความได้ เลยรู้สึกรักในอาชีพตำรวจขึ้นมาทั้งๆที่ คุณพ่อเองไม่อยากให้เป็น รู้ทั้งรู้ว่ามันเหนื่อยรู้ทั้งรู้ว่ามันลำบาก จนวันหนึ่งขณะนั้นผมยังเรียนอยู่ ม.2 คุณปู่ของผมเอง พ.ต.ท.อุบล สันติปรีชาวัฒน์ ได้เสียชีวิต เนื่องจากโรคชรา หลังจากจบงานศพ ผมก็ไม่รู้อะไรดลบันดาลใจให้ลุกขึ้นมานั่งอ่านหนังสือสอบ ก่อนสอบ 7-8 เดือน ใจก็คิดว่าคงไม่ติดหรอก ลงคอร์สเรียนพิเศษเรียบร้อย แต่พอประกาศผลสอบกลับสอบติดได้ ในปีแรก ทั้งนี้ทั้งนั้น พ่อไม่อยากให้ไปสอบ หรือคงคิดว่าผมคงสอบไม่ติดเลยปล่อยๆไป แต่ด้วยความดื้อของผมนั่นละ จึงพยายามจนเข้ามาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 54 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 70 จนได้ถึงทุกวันนี้
หลังมีข่าวร่วมกับพ่อช่วยผู้หญิงจากรถไฟไหม้ ชีวิตเป็นอย่างไร ที่โรงเรียนว่ายังไงบ้าง?
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมเองไม่ได้คิดว่าจะเป็นข่าวอะไร ตัวเองยังเข้าโรงเรียนช้าด้วย สัปดาห์นั้นรู้ตัวว่าโดนกักบริเวณแน่ๆ แต่วันต่อมา กลับได้ลงข่าวหน้า 1 ผมเองก็ยัง งงๆ จากนั้น วันนั้นสิ่งที่ผมดีใจที่สุดคือ การได้ช่วยชีวิตคนซึ่งพี่เค้าเองก็ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก ยิ่งมาทราบภาบหลังว่าพี่เค้าเองเลี้ยงลูกตัวคนเดียวอีก เหมือนผมต่อชีวิตหนึ่งเพื่ออีกชีวิตหนึ่ง เป็นบุญของพี่เค้ามากครับ
พอทางโรงเรียนทราบเรื่อง จึงเรียกตัวเข้ารับใบประกาศเกียรติคุณจากทาง ตร. ทางสภากาชาดทำหนังสือเชิญ เข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพฯ รับพระราชทานเหรียญกาชาดสรรเสริญ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่ผมและพ่อภูมิใจและเป็นเกียรติแก่ผมและวงศ์ตระกูลหาที่สุดมิได้
ทราบว่า จบเดือน ก.พ.นี้ เลือกลงที่ไหนค่ะ คิดว่าคะแนนจะดีมั้ย แล้วตั้งใจเป็นตำรวจหน่วยไหน?
ผมยังไม่ทราบว่าจะได้ลงที่ไหน เอาเป็นว่าแล้วแต่โชคชะตาฟ้าลิขิตแล้วกันครับ ส่วนตัวชอบในงานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวน หน่วยที่ผมคิดว่าครั้งหนึ่งต้องได้สัมผัสคือ สายตรวจ 191 ตำรวจทางหลวง และสายตรวจรถวิทยุกองปราบปราม ผมชอบเพราะเป็นงานหน้าเดียวที่ทำงานเชิงรุก ผมใช้หลัก รุกรบจบเร็ว กัดไม่ปล่อย ขยายผลไปให้สุด ซึ่งน่าจะเข้ากับบุคคลิกของตัวเองมากที่สุดครับ
ตำรวจในดวงใจเรามีมั้ยคะ? ตอบกี่คนก็ได้ค่ะ
ไอดอลตำรวจคงไม่พ้น พ่อผมเองนี่ละครับ เป็นทั้งพ่อทั้งครู คอยชี้แนะพร่ำสอนตลอด สิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี ตัวอย่างคงไม่ต้องหาที่ไหนไกล เพราะท่านเองผ่านงานตำรวจเรียกได้ว่าแทบจำทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็น อำนวยการ ปราบปราม สืบสวน สอบสวน จราจร เรียกได้ว่าแทบทุกหน้างาน
ซึ่งนอกจากคุณพ่อแล้วก็ยังนำหลักคิดหลักการทำงานของพี่ๆลุงๆหลายต่อหลายท่านมาปรับใช้กับตัวเองไม่ว่าจะเป็น ลุงจุ๋ม พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตรอง ผบ.ตร.,ลุงโอ๋ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงศ์ รอง ผบช. ภ.7, ลุงโอ๊ต พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น,ลุงเก่ง พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 สส.ภาค.4,พี่ญา พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร รองผกก.ป. สน.บางซื่อ และพี่ๆครูๆ นายตำรวจอีกหลายต่อหลายท่านที่ไม่ได้กล่าวมาในที่นี้
ทุกๆท่านล้วนเคยปลูกฝังผมมาตลอด ในการทำงานผมยึดหลัก 3 อย่างคือ ครองตน ครองคน ครองงาน ครองตน สำหรับผมคือไม่เที่ยวเตร่ มีดื่มสังสรรค์บ้างพอสมควร แต่ที่สำคัญงานต้องไม่เสีย นอนดึกต้องตื่นเช้าได้ ต้องไม่เป็นที่นินทาของลูกน้อง
ครองคน คือการเข้าถึงลูกน้อง เวลาผมไปฝึกงานผมยกมือไหว้ทุกคนในโรงพัก ป้าทำความสะอาดยันเสมียนเวรในวันที่ผมฝึกงานอยู่ ผมนับถือทุกท่านในโรงพักเหมือนครู ไปไหนมาไหนถามสารทุกสุขดิบตลอด ชวนกินข้าวบ้างเลี้ยงข้าวบ้าง พี่ๆก็ให้เกียรติเรียก หมวดแบงค์ ผมก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมจะไม่ทำงาน ออกเวรแล้วก็กลับ มันเหมือนพนักงานออฟฟิศ
ครองงาน ผมยึดหลักทำงานมากกว่าคนอื่น เพื่อนทำ 2 เราต้องทำ 4 สงสัยต้องถาม เป็นนายตำรวจต้องไฝ่เรียนรู้มากกว่าคนอื่นๆ งานจะเป็นตัวชี้วัดที่มีมาตราฐานที่สุด เมื่อเวลาทำงานไม่ว่าจะออกตรวจ หรือตั้งด่าน ผมมีอยู่ 3 อย่างที่ต้องมีติดตัวทุกครั้ง 1.พระ 2.ปืน 3.เสื้อเกราะ เวลาทำงานห้ามขาด3อย่างนี้โดยเฉพาะปืนไม่เคยห่างมือผมเลย เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอนว่า ตำรวจเราเหมือนเสือมีเขี้ยวมีเล็บเป็นอาวุธ วันใดที่เสือไม่มีเขี้ยวไม่มีเล็บก็ไม่ต่างจาก แมวบ้านทั่วๆไป หลักการณ์ทำงานล้วนได้รับจากพี่ๆลุงๆและปรสบการณ์ของผมเองทั้งสิ้น
ทราบว่าเป็นคนรักสัตว์ ชอบสัตว์เลี้ยงสัตว์ด้วย
ครับ…ส่วนตัวผมเป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านจะเลี้ยง หมา แมว นก ไก่ ปลา วันดีคืนดีก็เอากุ้งเครฟิชมาเลี้ยงเห็นมันสวยดี พันธุ์โกส เป็นพันธุ์กุ้งสวยงาม เลี้ยงไปเลี้ยงมาไม่ได้คิดอะไร ก็มีคนมาขอซื้อ เลยคิดว่า เห้ย มันได้ตังขายได้จิง มาซื้อถึงบ้านเลย จึงเริ่มศึกษาจากในกลุ่มบ้างเลี้ยงเองบ้างหลังๆเริ่มบุกฟาร์มคนอื่นไปดูวิธีเลี้ยงวิธีเพาะ มาลองใช้ดูได้กำไรงอกงามพอสมควร เลยเลี้ยงไว้เป็นงานอดิเรก ขายได้เดือนละ 10,000-20,000 บาทเป็นค่าขนมสนุกๆ ด้วยความที่ชอบเลี้ยงสัตว์อยู่แล้วครับ
คิดเห็นอย่างไรกับภาพพจน์ตำรวจปัจจุบันนี้คะ?
กระแสข่าวตำรวจค่อนข้างไปทางด้านลบบางที่สื่อเองเสนอข่าวก็มีผลต่อมุมมองของประชาชนไม่น้อย ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกๆท่านต้องเข้าใจว่า ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย จึงมีหน้าที่ที่ต้องกระทำ หากมีแต่กฎหมาย ใครจะเคารพ ใครจะทำตามบ้านเมืองเราคงไม่สงบสุข อย่างเช่น คุณไม่ส่วมหมวกกันน็อคโดนตำรวจออกใบสั่ง ถามว่าผิดมั้ย ก็คงมีคำตอบเดิมๆที่คุ้นหู ไปใกล้ๆบ้าง มาแปปเดียวเอง แต่ผิดก็คือผิด ลองคิดในมุมมองกลับกันเกิดรถล้ม กลางถนน ไม่ลำบากตำรวจอีกหรอที่ต้องมาช่วยท่านมาระบายรถติด จิงแล้วไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อประชาชนทุกคนล้วนๆ
คิดยังไงกับประชาชนที่เกลียดตำรวจ
เป็นเรื่องปกติครับ มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบผมว่าเป็นเรื่องธรรมดาคงไม่มีอาชีพไหนที่ดี 100% ทุกอาชีพมีทั้งคนดีคนไม่ดีปะปนกันไป แต่เราเองมาทำในหน้าที่นี้ ต้องทำให้ประชาชนรัก ประชาชนเลื่อมใส ก็ตำรวจเปนที่พึ่งของประชาชนไงครับ เวลามีคนมาแจ้งความ คนไหนที่ชอบตำรวจผมก็ยินดีนะครับคุยด้วยก็ยิ้มตลอด คนไหนเกลียดตำรวจผมคุยด้วยผมก็ต้องยิ้มครับ ต่อให้เค้าจะด่าจะว่าเรายังไง ผมยิ้มรับเสมอครับ พยายามเข้าใจว่าเค้าอาจเดือดร้อนหรือมีเหตุผมอย่างอื่น อันนี้เป็นแนวคิดเฉพาะตัวนะครับ
แล้วเวลาเห็นใครด่าอาชีพเราในโลกโซเชี่ยล?
คือเวลาเห็นแน่นอนครับ ไม่มีใครรู้สึกดีหรอกครับเวลาเห็นคนด่าอาชีพที่เรารัก แต่ก่อนอื่นผมก็ไปเช็คก่อนว่าข่าวที่อยู่ตามเฟชบุ๊กจริงมั้ย ข่าวจากเว็ปปลอมเยอะมากครับคอยโจมตีตำรวจออกบ่อยๆ
อยากให้ทุกท่านๆลองอ่านจากหลายๆแหล่งข่าว บางคนอ่านแค่ 3 บรรทัดหรือแค่พาดหัวข่าวก็ด่าตำรวจแล้วทั้งๆที่ถ้าอ่านในเนื้อข่าวจริงๆอาจไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าเกิดข่าวไม่จริง ผมก็ต้องหาหลักฐานว่าข่าวนี้มีการบิดเบือนหรือไม่เป็นความจริง การตอบโต้ของผมคือ แจ้งเค้าไปตรงพร้อมหลักฐานว่า จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร
แต่จะให้ส่งให้ทุกคนดูคงไม่ได้ แค่อยากให้รู้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเฉยๆครับ แต่ถ้าเค้าคิดในทางลบจริงๆ ผมคงไม่อาจบังคับใจใครให้ชอบตำรวจได้ ทำได้ดีที่สุดคือ เป็นตำรวจที่ดี นำลูกน้องไปในทางที่ดีครับ
ถ้าไม่เป็นตำรวจใฝ่ฝันจะเป็นอะไร?
ถ้าไม่เป็นตำรวจผมคิดว่า คงกลับไปช่วยคุณแม่ทำธุรกิจประกอบรถดับเพลิง รถยก ที่บ้าน ซึ่ง ตอนนี้มีคุณแม่ และน้องชายที่จบวิศวะ คอยดูแลอยู่ เพราะที่บ้านจะรู้อยู่แล้วว่าจริงๆผมมีหัวการค้า จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ระหว่างเรียนก็หาทำธุรกิจเล็กน้อยๆตลอด อาจจะได้ไปอยู่ฝ่ายขายมากกว่า คุณยายยังเคยบอกให้ลาออกมาช่วยที่โรงงานเลย (หัวเราะ) แต่ผมเลือกที่จะเดินทางนี้แล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดครับ
มีแฟนรึยังคะ?
ตอนนี้ยังไม่มีครับ ขอตั้งใจทำงานก่อนครับ มันเป็นเรื่องของอนาคตครับ
คิดว่าเราจะเป็นตำรวจที่ทำประโยชน์ให้กับองค์กรมากน้อยแค่ไหน?
เรามายืนอยู่ในจุดนี้แล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมยังมีสถานะนักเรียนผมทำได้เท่าที่จะทำได้ เวลามีโอกาสรับใช้ประชาชน แน่นอนต้องทำให้ทุกคนๆ พึงพอใจ ทำยังไงให้ลับหลังเค้าเล่าถึงเราในด้านดี เวลาฝึกงาน ออกตรวจออกจับผู้ร้ายต้องทำให้เต็มที่ เช่นกัน ผมเชื่อว่าศักดิ์ศรีของนักเรียนนายร้อยตำรวจค้ำคออยู่ เพราะ ตำรวจคือผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนครับ ผมมั่นใจว่าอย่างนั้น