เส้นทางชีวิตข่าว เริ่มตั้งแต่ยังเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
จังหวะนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งต้องไปฝึกงานข่าวอาชญากรรม ที่นสพ.เดลินิวส์ เขาไม่อยากไปทำเลยสับเปลี่ยนกัน
เขาเติบโตตามลำดับ ขยับออกจากเดลินิวส์ไปเป็นหัวหน้าข่าวอาชญากรรม นสพ.สยามรัฐ
เดอะโต มีงานอดิเรกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเลี้ยงปลาทอง ทั้งเพาะขายทั้งประกวดฤกษ์งามยามดี เจ้าตัวขนของรักของหวงมาให้ชมตามคำขอ มีทั้งปืนสั้นปืนยาว เห็นแล้วต้องอึ้ง แต่ละกระบอกถูกบรรจุอยู่ในกล่องไม้สั่งทำโดยเฉพาะ ดูสวยงาม สมกับคนชอบปืน เจ้าตัวเล่าให้ฟัง
เริ่มซื้อกระบอกแรก ตอนนั้นเพิ่งเปิดร้านยางรถยนต์ใหม่ๆ มาอยู่ไทยรัฐใหม่ๆ กระบอกแรก เป็น Beretta 92 FS 9 มม. เป็นปืนในอุดมคติ เป็นปืนพระเอกที่เห็นบ่อยๆในหนังฝรั่ง
พอมีปืน 9 ก็ซื้อหนังสือปืนมาอ่าน เริ่มเห็นข้อเสียของปืนกึ่งออโตเมติก ถึงจะลูกดก แต่มีโอกาสขัดลำ ซื้อมือสอง ไม่เคยซื้อปืนมือหนึ่ง ส่วนใหญ่ ไปหามาจากเว็บไซต์ ค่อยๆสะสม มีอยู่ช่วงหนึ่งวิกฤตเศรษฐกิจ ขายกินหมดเหลืออยู่แค่นี้
มาได้ .45 ถือเป็นปืนขนาดใหญ่สุด สำหรับพลเรือนที่มีได้ ในหมวดของเพื่อการกีฬา
ตัวนี้เป็นปืน STI เจ้าของเดิมเป็นนักยิงปืนล่าถ้วย ที่พิเศษเป็นตัวที่ผลิตที่เท็กซัส รุ่นนี้มีไม่กี่กระบอก ส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กรมดำ ส่วนตัวนี้ .38 ลำกล้อง2นิ้ว Smith&Wesson Airweight mod.637-2 โครงอัลลอยด์ ส่วนใหญ่พวกสายสืบจะใช้ น้ำหนักเบา เป็นปืนแบ็กอัพ ตัวนี้ก็ยิงไม่กี่ครั้ง ได้มาจากเกาะสมุย
ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยได้ยิง จับๆคลำๆเช็ดๆถูๆ แล้วก็เก็บ มีไดไฟ บ้าง ฝึกเล็งที่บ้านบ้าง กระบอกนี้ในบันทึกราชการบ้านเราเรียกว่า เดี่ยวลูกกรด เดี่ยว.22 ยี่ห้อ CMMG สุดยอดปืนรูปลักษณ์แบบสงคราม เป็น M 4 ขนาด .22
คือ ระบบกลไกหรือทุกอย่างของมัน ถอดแบบจากปืน M 4 จุดต่างเดียวที่มันไม่มี คือยิงได้ทีละนัด ตามกฎหมายบ้านเรา ไม่มีชุดยิงออโต้ ลูกผม 3 คน ผมพาไปฝึกจนจบหลักสูตร เบสิกยิงปืนขั้นพื้นฐาน ที่เอาไปฝึก เพราะ 1. เป็นลูกผู้ชาย
ส่วนผมต่อยอดไป แอดวานซ์ ฝึกกึ่งต่อสู้ ฝึกการใช้ใส่เสื้อผ้า การพก การลุก นั่ง ยิง เหมือนการแข่งขัน ไอดีบีเอ แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้น
คือฝึกให้รู้ ฝึกให้เป็น ถ้าเผื่อจำเป็นต้องต่อสู้จริงๆ จะยิงแบบไหน จะทำยังไง หลักใช้ปืนส่วนตัว ผมไม่ค่อยพก พยายามเซฟตัวเอง ปืนทุกกระบอกเก็บเข้าเซฟ แยกกระสุน
ปืนก็เหมือนกับดาบสองคม ถ้าเราคุมปืนไม่ได้ เราก็ตายเพราะปืน
เฮียเก๋ 8/8/64



























