สาวแซ่บ 1 ในตำนานผู้สื่อข่าวสายตำรวจ ที่ถอดมงกุฎอำลาวงการกันไปได้สักพักใหญ่ๆ ด้วยภาระกิจที่ต้องดูแลลูกสาววัยน่ารัก ก่อนจะย้ายถิ่นฐานไปปักหลักที่จังหวัดอุบลราชธานี หันประกอบธุรกิจส่วนตัว ที่สำคัญที่สุดคือ เธอเป็น”คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” เก่ง แกร่ง อดทน กว่าจะมีวันนี้ยาก (แต่ก็เดินมาได้ลำพัง)
นางสาววิภาดา นิ่มทอง อายุ 34 ปี หรือออย มีพี่น้อง 2 คน เธอเป็นลูกสาวคนโตสวยสุดค่ะ (เธอบอกเราแบบนั้น) เรียนจบ ป.ตรี จากสถาบันราชภัฏอุบลราชธานี สาขานิเทศศาสตร์ เอก การประชาสัมพันธ์ ปัจจุบันมีลูก1คน ชื่อ ด.ญ.กวินธิดา นิ่มทอง น้องอลิน อายุ10ขวบ เรียนชั้นป.4 รร.อัสสัมชัญอุบลฯ
“ออย” เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ เลิกกับสามีตอนลูก2ขวบ ปัจจุบัน ทำงานช่วยกิจการที่บ้านตำแหน่งผู้จัดการหอพักและรีสอร์ทเล็กๆใน จ.อุบลฯค่ะ ซึ่งใน ปี2547 ทำงานเป็นผู้สื่อข่าวสายอาชญกรรม สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ประจำที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปราม ศาลอาญาฯลฯ
ทำงานที่สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นปี 2547-2553 ตำแหน่งผู้สื่อข่าวและรีไรท์เตอร์ จากนั้นปี2553-2554 ทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการโต๊ะอาชกรรม สำนักข่าวเอ็มบีชาแนล สถานีข่าวดาวเทียมช่อง32 จานPSI ปี2555 -2556 เป็นรีไรท์เตอร์โต๊ะข่าวภูมิภาคและอาชญกรรม สำนักข่าวpostnewsร่วมผลิตข่าวให้กับNBT
ปี2556-2557 ย้ายสายงานเลย จากรีไรท์เตอร์ ผู้ช่วย บก. มาเป็นครีเอทีฟ ให้กับรายการธุรกิจติดดาว ในสังกัด post tv เครือ บางกอกโพสต์ ออกอากาศทาง ททบ.5 ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการธุรกิจให้ออกมาง่ายๆชาวบ้านดูแล้วเข้าใจสบายๆ ธุรกิจใหม่ๆไอเดียใหม่ๆในการทำมาหากิน ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างยากถึงยากมากเพราะหลุดพ้นจากวงจรข่าวเลย
แต่ด้วยใจรักสนุกสนานกับการออกกองถ่ายและเป็นคนชอบคิด เลยสนุกกับงานแม้จะเหนื่อย จนล่าสุดมีอาการป่วยเกี่ยวระบบหลอดเลือด และต้องการดูแลลูกสาวคนเดียว จึงลาออกจากวงการสื่อ กลับมาช่วยกิจการที่บ้านตั้งแต่ปลายปี2557-ปัจจุบัน
“เหตุผลที่ออกจากวงการข่าว คือจริงๆไม่อยากออกเลย รักงานนี้มาก รัก สนุก และมีความสุขที่ทำ แม้จะเปนงานที่ไม่มีเวลาเหมือนชาวบ้านแต่ทำแล้วสุขใจ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างทำให้ต้องผันตัวเองจากนักข่าวน้อยๆรีไรท์อ้วนๆ มาปนครีเอทีฟ
” แต่ตอนที่ทำงานเป็นครีเอทีฟยังติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆตลอดเวลา เหมือนอาชีพนักข่าวมันซึมเข้ากระแสเลือดละ ปัจจุบันลาออกจากวงการสื่ออย่างถาวร มาเป็นลูกจ้างแม่ช่วยกิจการที่บ้าน บอกตรงๆไม่ได้อยากกลับมาทำงานที่บ้าน เลย แต่ด้วยการป่วยและไม่ทีเวลาให้ลูก …
“ชีวิตนี้มอบให้ลูกคนเดียวเพราะมีเค้ามาแล้วต้องดูแลให้ดี เพราะลูกไม่มีพ่อด้วย ลูกเริ่มโต เลยตัดสินใจลาออกมาช่วยงานที่บ้านเพื่อจะได้มีเวลาดูแลลูกเต็มที่ และที่สำคัญมาดูแลแม่ ดูแลกิจการที่แม่ทำเลี้ยงดูคนในครอบครัวมา แต่เอาจริงๆอยากกลับไปทำข่าวเหมือนเดิมมมากกว่า”
คิดถึงมว้ากกกกกกก อยากกลับไปทำงานเหมือนเดิม สนุกสนานลั้นลา เอาจริงๆนักข่าวอาญชกรรมใครก็มองว่า ดิบ เถื่อน ดุ แลดูโหด ไม่ค่อยได้นั่งโรงแรม ห้องสัมมนาหรูๆ แอร์เย็น ต้องลงพื้นที่ ศพ เจอะบ่อยจนชิน คุก โรงพัก ไปบ่อยเช่นกัน 5555
“คิดถึงวงการข่าวมาก สายอื่นไม่รู้เป็นไงแต่สายอาชญกรรมหรือสายโจร เป็นอะไรที่พี่น้องในสายเอื้อเฟื้อ ดูแลกันและกันแบบจริงใจ ช่วยหลือ แนะนำน้องๆ ไม่ว่าจะมาจากสังกัดไหน จะทีวี วิทยุ หรือหนังสือพิมม์ ขอคำแนะนำอะไรพี่เค้าแนะนำให้หมด ไม่มีหวง พาไปหาแหล่งข่าว แนะนำ ซึ้งใจมาก แม้กระทั่งตอนออยท้องอ่อนๆ ตอนนั้นยังเป็นนักข่าวประจำ บชน. พอพี่ๆรู้ข่าวว่าท้อง ทุกคนบอกไม่ต้องบู้นะ มีข่าวไรพี่จัดการให้หมด ทั้งสัมภาษณ์ ถ่ายรูป อัดเสียงไว่ให้หมด ออยมานั่งๆนอนๆเฉยๆแต่ได้ข่าว บอกตรงๆรักพี่ๆเพื่อนๆในวงการข่าวมากค่ะ อยากกลับไปมาก กลับไปลุย เดินตามม๊อบ เข้าเวรดึก ดูศพ555 ไม่รู้ทำไม งานที่ทำเหนื่อยนะ แต่ทำแล้วมีความสุข”
“ออย” ยังพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อตำรวจด้วยว่า… ทุกวันนี้มองตำรวจทำงานเยอะขึ้น555 พราะคดีต่างๆโจรต่างๆมันเปลี่ยนรูปแบบวิธีการแยบยลมากขึ้น แต่ยังรักตำรวจเช่นเดิม เพราะตำรวจทำหน้าที่ดูแลเรา แต่ละคดีกว่าจะจับคนร้ายมาได้ แต่ตำรวจก็ลากคอคนร้ายมาได้นะ
เหมือนคดีล่าสุดที่เกิดกับบ้านตัวเองที่คนร้ายเข้ามาขโมยรถลูกค้าในหอพัก ตร.อุบลฯ ใช้เวลา3วันตามจับคนร้ายได้ ดีใจมาก
แม้จะมีภาพลบของตำรวจออกมาบ้างตามสื่อโซเชียล แต่ตำรวจน้ำดีมีเพียบ ที่สำคัญทุกวันนี้ ตร.ใหม่ๆหน้าตาน๊าร๊าคคคคคมาก ดูแลชุ่มชื่นหัวใจ ที่สำคัญไม่ใช่หน้าตาหล่อเหลา ยังเก่งด้วยนะ ปลื้มๆๆเคยคิดอยากมีแฟนเป็นตำรวจ เพราะเท่มากๆๆๆ แต่ชีวิตนี้ไม่มีตร.มาจีบเลย555
โดยเฉพาะ “หมวดโต๊ส”… พูดแล้วขอกรี้ดดดดก่อน ชอบน้องเค้ามาก หน้าตานี่แบบ…
สาวๆใจละลาย แถมมาดูโปรไฟล์น้องยิ่งรักเลย น้องเปนตร.ในชายแดนใต้ ดินแดนที่ใครๆเลือกได้ก็ไม่อยากไป แต่ตัวน้องไป ไม่ใช่หล่อแต่หน้านะใจน้องยังหล่อมากด้วย ยิ่งเห็นตอนน้องไปแจกน้ำที่สนามหลวงโอ้ยยยยกรี้ดมากคร้า
งานข่าวสายตร. แตกต่างตากสายอื่นมาก เพราะไม่ได้มีห้องทำงาน หรือต้องเข้าประชุมสัมมนา สบายเหมือนสายอื่น ตะลอนๆตามโรงพัก ตามคดีสำคัญ และที่สำคัญนักข่าวสายนี้รักกันมากด้วย มีข่าวมีงานอะไรจะแจ้งจะบอกกันไม่มีกั๊ก หรือหวงข่าว จะบอกกัน ใครมีเบอร์แหล่งข่าวคนไหนสำคัญก็จะบอกๆกันไป…
สายอื่นเคยไปสัมผัส ขอบอก โคตรหวงงงง งก ชิงดีชิงเด่น บอกเลย รักสายนี้มาก555
ส่วนนักข่าวในวงการที่เคารพนับถือและปลื้มมากคือ พี่โต้ง เจ้าของนิตยสาร Cop’s Magazine เค้าเก่งนะ แอบมองตอนทำงานดูทุ่มเทตั้งใจ ทำอะไรด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือ พี่โต้งเท่มากๆ พูดน้อยต่อยหนัก ตบเจ็บด้วย555 ปากแกตรงๆ แต่ออยชอบ ชอบผลงานชอบทุกอย่าง สมัยหนุ่มๆหล่อมาก สมัยนี้หล่อนิดหน่อย แต่ก็หล่อได้อยู่”
ส่วนอีกคนคือ “พี่อู๋ บก.บห.” ไทยรัฐออนไลน์ ได้ร่วมงานกับแกตอนอยู่ไอเอ็นเอ็น แกน่ารักเข้าใจน้องๆ “รักสัตว์ รักน้ำ รักปลา รักซากุระ” มีบุญคุณกับออยและอลิน ด้วย ไม่ได้รับเป็นพ่อของลูกนะคะ (55555) แต่ช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่ก่อนคลอด พี่อู๋ใจดี น้องๆรักค่ะ เห็นพี่อู๋เติบโตในบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ดีใจ วันหน้ามีโอกาสจะขอ ไปสมัครทำงานด้วย5555 รับรองไม่ทำให้ปวดหัวเหมือน เจ้น้ำ และเจ้ก๊อฟ อิอิ
ออยฝากคิดถึงพี่ๆทุกคน และขอให้ดูแลสุขภาพมากๆเพราะสายนี้สายโหด 555 คือทำงานค่อนข้างหนักเวลาพักผ่อนน้อย หากเลือกได้จะกลับไปเป็น นักข่าวอ้วนๆน้องแหนม อิแหนม ไปป่สนพี่ๆอีกครั้งค่ะ ที่สำคัญเค้าคิดถึงวงการนี้มว้ากกกก
เธอบอกกับเราด้วยว่า “ออยเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 8 ปีแล้วค่ะ เหนื่อยมั่ยคงต้องบอกว่าหนื่อยมาก? เจอะปัญหาสารพัด แต่ต้องทนและสู้เพราะเราต้องทำให้ลูกสบาย มีความสุขไม่รู้สึกขาดหายแม้ไม่มีพ่อ …บางทีความรู้สึกก็ห้ามยากแต่ด้วยเวลาและการต่อสู้กับปัญหาต่างๆผ่านมาจนถึงวันนี้ออยและลูกเข้มแข็งมากขึ้นค่ะ วันนี้ถึงเราจะแข็งแรงมากทั้งกายและใจ
ส่วนเรื่องพี่ๆเพื่อนๆในวงการข่าวทุกวันนี้ ขอชมว่าเก่งนะ….ต้องขอบพระคุณมากๆค่ะที่ให้โอกาส มีพื้นที่ให้ออยออกมาเปิดใจพูด …จริงๆออยไม่ก่งหรอกค่ะ แต่สถานการณ์บังคับและสิ่งเดิมพันตรงหน้าคือลูก ออยเลยต้องทำทุกทางเพื่อลูกของออยค่ะ
“ตอนนี้ก็โชคดีมากแล้วที่แม่เลี้ยงเข้ามาช่วยดูแลลูกและส่งเสียทุกอย่าง ออยเลยได้เบาแรงลง และจากประสบการณ์ต่างๆทำให้ออยผันตัวเองมาดูแลลูกเองจนถึงวันนี้ค่ะ”