นายตำรวจหนุ่มคนนี้ สมัยยังเรียนอยู่นักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปี 2
ได้ร่วมกับพ่อ พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ขณะเป็น ผกก.สภ.เทพารักษ์ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา
สร้างวีรกรรมบุกช่วย น.ส.ภัทรพร รามโกมุท ครูสาวออกจากรถเก๋งขณะประสบอุบัติเหตุเกิดไฟลุกไหม้รถยนต์ ที่ริมถนน ต.สำลี หมู่ 3 อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อเช้าวันที่ 10 พ.ย.57 ทำให้ครูสาวรอดตายฉิวเฉียด
ถึงวันนั้นผ่านมา 7 ปี นรต.กษิดิส สันติปรีชาวัฒน์ หรือแบงก์ นรต.70 ติดยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งรอง สว.(สอบสวน)กก.สส.บก.ตม. 3 และเพิ่งจบปริญญาโทจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจไต้หวัน มาหมาดๆ
มีจังหวะเวลาตรงกัน เจ้าตัวเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ศึกษาต่างแดนว่า
จบนรต.เรียนต่อเซี่ยเหมิน
หลังจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ บรรจุในตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ไม่น่าจะถึงปี ไปยื่นทุน 2 ที่ คือทุนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไต้หวัน และมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ที่เซี่ยเหมิน ประเทศจีน
เซี่ยเหมิน เป็นเมืองทางใต้ของประเทศจีน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นเกาะอยู่ทางใต้ มีสะพานข้ามไปได้ เมืองนี้มีความเจริญสูงมาก อยู่ตรงข้ามกับไต้หวัน
ผู้กองแบงก์อนาคตตำรวจไทยเริ่มก่อนเล่าต่อ
จังหวะนั้นมันได้ มีทุนของสมาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-จีน เป็นสมาคมที่ทางจีน ส่งให้สมาคมฯ แล้วให้สมาคมฯ ไปคัดเลือกข้าราชการที่สนใจไปเรียนที่จีน
ได้คอนเน็กชั่นเพื่อนขรก.
ไปเรียนภาษาประมาณ 10 เดือน ที่เซี่ยเหมิน นอกจากภาษา สิ่งที่เราได้คือคอนเน็กชั่น เพื่อนที่เป็นข้าราชการด้วยกัน มีโอกาสได้รู้จักกัน
เพราะเราไปตรงโน้น เราถอดบทบาทการเป็นตำรวจออก ได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนๆ ที่หลากหลายกระทรวง ทบวง กรม แล้วตอนหลัง ผมคิดว่า ในอนาคตคอนเน็คชั่นในจุดนี้จะค่อยๆ ขยับขึ้นไป ค่อยๆไต่ขึ้นไป
มั่นใจกลับไทยภาษาจีนได้ใช้แน่
ในสโครปของเซี่ยเหมิน ตอนนั้นเรียนภาษาจีนกลางอย่างเดียวเลย เรียนทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ หยุดก็เรียนๆ เพื่อที่จะได้ภาษา เรียนไปสักพัก คิดว่า ภาษาจีนมันได้ใช้แน่
ผมก็คิดว่า พอกลับมาเป็นตำรวจ เราพูดจีนได้ คงเท่น่าดู คิดว่าดี
ใครๆก็รู้ว่า มังกรจีน เป็นมังกรตัวใหญ่ของเอเชีย เดี๋ยวยังไง เขาต้องมาเที่ยวเมืองไทย แล้วเมืองไทยก็เป็นจุดมุ่งหมายหลักที่เขาชอบมาเที่ยว
ได้เปรียบกว่าใครหลายด้าน
การที่เรารู้ภาษาเขา มันก็เหมือนเป็นการดี ได้เปรียบกว่าคนอื่น ทั้งการทำงาน คอนเนกชั่น การสืบสวน หรือการประชาสัมพันธ์อะไรต่างๆ
คนจีน พอเขาเห็นคนไทยพูดจีนได้ เขาก็ดีใจ เหมือนว่า เราพูดภาษาเขาได้ ไต้หวัน ก็ใช้ภาษาจีนกลาง เหมือนกัน แต่คนไต้หวันนี่ เขาจะมีภาษาถิ่นของเขาเอง แต่ทั้งประเทศจะใช้เป็นจีนกลาง ผมก็เรียนด้วย
เวลาปิดเทอม ก็เที่ยว ก็เที่ยวแบบเที่ยวเละเทะเลย เที่ยวในจีนไปเที่ยวได้เรียกว่า เกือบทุกภาค
เซี่ยเหมินจบ ได้ใช้งานที่เฉิงตู
เรียนจบจากจีนเสร็จ กลับไทยมาคิดว่าเราเรียนไม่พอ ปีเดียวไม่พอแน่นอน ก็รีบสอบภาษา เอาวุฒิภาษาไปยื่นที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไต้หวัน ระหว่างนั้นก็รอดำเนินการไปคัดเลือกทุน
ก็ทันได้ใช้งานของ ตร.พอดี เพราะมีงานตำรวจโลกที่เฉิงตู
เป็นการจัดงานรวมตำรวจจากทั่วโลก มาแข่งกีฬากัน ก็ได้รู้จัก ได้เจอเพื่อนตำรวจจีน ได้เจอหลายๆ หน่วยงานที่เป็นตำรวจในต่างชาติ
ดูแลบิ๊กตร.แข่งกีฬาตร.โลก
ตอนนั้นผมเป็นแค่ ร.ต.ท.ตำแหน่งอยู่ ตท.เขาจัดผมให้ไปดูแลพี่ๆ นักกอล์ฟ ทีมตำรวจไทย มี รอง ผบช.อยู่ 3 คน
ก็ไม่คิดว่า เป็นแค่ ร.ต.ท.แล้วจะได้มีโอกาสเข้าไปตรงนั้น ไปคอยดูแลผู้ใหญ่ เวลาเขาไปแข่งกอล์ฟ เขาก็แบ่งทีมละ 2-3 คน แยกกัน ผมก็มีโอกาสได้ใช้ภาษาจีนช่วยพี่ๆ เขาคอนแท็ค
ลาต่อเรียนป.โทไต้หวัน
จบกีฬาที่เฉิงตู กลับมาไทยได้แป็ปหนึ่ง ทำเรื่องลาต่อไปเรียนที่ไต้หวัน ตอนนั้นรู้แล้วว่าได้ทุน ป.โท เกี่ยวกับตำรวจ
ภาษาจีนเขาเรียก ฮวงจิ้งสวง เป็นคณะวิทยาการตำรวจชายแดน ถ้าแปลเป็นอังกฤษ คือบอเดอร์โปลิศ
แต่ไต้หวันไม่มีชายแดน เขาเป็นเกาะ การที่คนจะเข้ามาได้ ก็มี 2 ทาง ไม่เครื่องบินก็เรือ การจะเข้าทางนี้ ต้องผ่านด่าน
ด่านก็คือ ตม.ฉะนั้นแล้ว คณะบอร์เดอร์โปลิศ พอตำรวจไทยเห็น นี่มัน ตชด. ไม่มีใครอยากไป
จริงๆ มันคือ ตม. ต่างกันนิดเดียว ภาษาอังกฤษ มันบอเดอร์โปลิศ แต่หน้าที่จริงๆ คือ ตม.
โรงเรียนนายร้อยอยู่เถาหยวน
ผมไปเรียน ป.โท ที่เมืองเถาหยวน ถ้าเทียบกับบ้านเราเหมือนไปเรียนที่นครปฐม นนทบุรี ประมาณนี้ นั่นคือมหาวิทยาลัยโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ว่าศูนย์กลางคือ ไทเป เป็นเมืองหลวง
ถึงจะเรียน ป.โท ถึงจะเรียนภาษามาปีหนึ่งแล้ว แต่มันไม่พอ
ตักตวงภาษาเพิ่มเพราะไม่พอ
คือใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไปนู่นไปนี่ได้ คุยกันได้บ้าง บางทีก็ไม่ค่อยคล่อง คิดว่าเรียนปีเดียวไม่พอ ทีนี้พอมาที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจปุ๊บ ก็เรียนเกี่ยวกับพวกตำรวจ แต่ยุทธวิธีพวกนี้ ไม่ค่อยเท่าไหร่ จะเป็นแนวแบบเรียนวิจัย อะไรพวกนี้
วิ่งรอก “เถาหยวน-ไทเป”
เรียนป.โท ก็มีเวลาว่าง เพราะไม่ได้เรียนทุกวัน แต่ทุกวันผมต้องมาเรียนภาษาเพิ่มที่ไทเป ไป เถาหยวน-ไทเป ไทเป-เถาหยวน ทุกวัน วิ่งไปวิ่งมา เหนื่อยแต่คุ้ม
เถาหยวน มหาวิทยาลัยตำรวจ อยู่บนเขา เหมือนนครนายก เขาชะโงก แต่อันนั้นคือเป็นเขาเลย เป็นเนินขึ้นไปเลย
ปิดเทอมเช่าบ้านที่ไทเป
มาเรียนที่ไทเป ที่ซือต้า พอเราเปลี่ยนสังคมใหม่ เราก็ได้เพื่อนใหม่ ทีนี้พอช่วงปิดเทอม ไม่ได้กลับไทย เลยมาเช่าบ้านอยู่ที่ไทเป ใกล้ๆ ซือต้า ใกล้ๆมหาวิทยาลัย
เช้าๆ เราต้องปั่นจักรยานไปเรียน เรียนเสร็จสัก 3-4 ชั่วโมง ก็ปั่นกลับ ไปกินข้าว ทุกวันมันจะวนไปอย่างนี้ ต่อให้ปิดเทอม มันก็ยังเรียนภาษาจีนทุกวันๆ
ผู้ใหญ่เอ็นดูพาตกหมึก
ทีนี้ก็มีโอกาสรู้จักผู้ใหญ่ที่ไต้หวัน เขาเอ็นดู เขามีธุรกิจ ก็แนะนำให้ทำธุรกิจโน่นนี่ ก็มีโอกาสได้ไปตกหมึกก็เป็นพรรคพวกกัน คือไต้หวัน กับคนไทย เขาก็เหมือนกับว่า ไอ้นั่นเพื่อนฉัน เขาก็เหมือนกับมีคอนเน็คชั่นต่อกัน
ก็ได้รู้จักคนที่ไปตกปลา ตกหมึก มันก็หลากหลาย ก็ได้สังคมใหม่ สังคมที่มีเพื่อนเป็นคนไต้หวัน นอกจากว่าเราจะมีสังคมตำรวจแล้ว เราก็ยังมีเพื่อนเป็นคนไต้หวันอีก
กลายเป็นคนในครอบครัว
คนไต้หวันเป็นคนน่ารัก ผมอยู่ไต้หวันมา บางทีมีปัญหา เดือดร้อน คนไต้หวันเขาก็ช่วยเรา อย่างช่วงโควิดหนักๆ ออกจากบ้านไม่ค่อยได้ ก็ทำกับข้าวมาให้บ้าง ให้อะไรมากินบ้างอะไรอย่างนี้ เราก็ช่วยกัน
บางครั้งผมกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวเขา อย่างที่ผมรู้จัก เถ้าแก่ เขาเปิดร้านอุปกรณ์ตกปลา ใกล้ๆ บ้าน เดินผ่านทุกวัน
เจอกันบ่อยๆ ก็ทักทายกัน รู้จักกัน แล้วพอเดินผ่านเรื่อยๆ เราก็แวะกินข้าวบ้านเขาบ้าง เลยกลายเป็นเหมือนคนหนึ่งในครอบครัว
เรียน 2 ปีจบเป็นผู้กองตม.3
ใช้เวลาเรียน 2 ปี จบ กลับมาไทยติดยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สว.สอบสวน กก.สส.ตม.3 โซนเมืองนนท์ ที่ทำการอยู่ที่ ตม.นนท์ ดูแลโซนภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก บก.ตม.3
คือมาเส้นทางนี้แล้ว อนาคตก็คือด้วยความที่ผมมองไว ไม่รู้ว่ามองถูกหรือมองผิด มองว่าได้ใช้ภาษามากที่สุด ได้ใช้ภาษาจีน ที่เราอุตส่าห์ไปเรียนมา
รับมีแนวคิดต่อป.เอก
ก็มีแนวคิดต่อ ป.เอก อยู่ อยากไปทางอังกฤษ แต่เอาตรงๆ คืออยากกลับมาทำงานก่อน ด้วยความที่เราขาดไป 3 ปี เพื่อนนี่ทำงานทำไปเยอะ แล้วเราก็หายไปในส่วนนั้น
แต่สิ่งที่เราได้คือภาษา ได้เพื่อนใหม่ ได้อะไรหลายๆ อย่าง ที่ค่อนข้างจะยากที่จะได้มา ก็ได้อย่างเสียอย่าง
คนที่จะไปเรียนเมืองนอก ต้องคิดว่าจะต้องได้อย่างเสียอย่าง คอนเน็คชั่นในไทย อาจจะไม่มี หรืออาจจะได้ฝั่งไต้หวันแทน ก็ต้องชั่งน้ำหนักนิดหนึ่ง
แนะน้องๆอนาคตภาษาจีนสำคัญ
สิ่งที่จะแนะนำน้องๆ คือตอนนี้จีนเป็นมหาอำนาจ อนาคตยังไงเดี๋ยวเขาก็ต้องเข้ามาอีก หลังโควิด เข้ามาไทย
จีนไทยไม่ใช่อื่นใดเป็นพี่น้องกัน ทีนี้พวกคนจีน เขาเข้ามา มันทำให้อนาคตภาษาจีน จะกลายเป็นภาษาที่สำคัญมากๆ ในโลก
ให้เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้
ถ้าจะเรียนจีนจริงๆ แนะนำน้องๆ ให้ไปเรียนจีนตัวย่อก่อน ที่จีนแผ่นดินใหญ่ สิ่งที่อยากจะบอกเพิ่มเติม ก็คืออย่างรุ่นน้องที่อยากจะไปเรียนตรงนี้ อยากให้เตรียมตัวเสียตั้งแต่วันนี้
อย่างผมนี่ มารู้ตัวช้า เพราะว่ากว่าจะเริ่มมาเรียนภาษาจีน ก็ตอน ร.ต.ต.แล้ว จบไปแล้ว น้องๆ รุ่นใหม่ ผมก็สังเกต เขาเริ่มเรียนภาษาจีนตั้งแต่ปี 1-3 เขาก็เริ่มเรียนกันแล้ว มองว่ายิ่งเรียนมานานก็ยิ่งคุ้นเคยกับเขา
รับไปจีนแรกๆ ถึงกับเอ๋อ
อย่างผม เรียนจีนก่อนไปจีน 2-3 เดือน เวลาเขาจับไปขึ้นรถ ไปเรียนจีน ก็เอ๋อ งงอยู่ประมาณหนึ่ง แทนที่เราจะมีพื้นฐานแล้วไปจีน ก็ไปใช้ได้ เรียนต่อได้เลย มันกลายเป็นว่า ภาษาจีนเราก็ยังไม่แน่น เรียนที่ไทยไปก็ยังไม่แน่น
พอไปเรียนจีนปุ๊บโดนเขาจับปูใส่ใหม่ ช่วง 2 เดือนแรก ยังเคว้งๆ อยู่ เหมือนว่าเรายังงงๆ อยู่ แต่คือพอมันผ่านช่วง 3-4 เดือนไปแล้ว มันก็ดีขึ้น
เปิดทีวีทั้งวัน ฟังให้คุ้นหู
ผมก็จะเปิดทีวีทุกวันเลย เปิดทิ้งไว้เลย เปิดไว้ทั้งวันมันก็มีข่าว วนไปเรื่อย เราก็ฟังไปเรื่อยๆให้มันคุ้นหู เคยมาอ่านหนังสือตอนเช้ามา ตื่นมา เปิดรีโมตทีวีก่อน ให้มันพูดไปเรื่อยๆ
ตอนแรกๆ ยังงงๆ แต่พอไปสักพัก เริ่มฟังออก ทุกวันนี้ ยังทำแบบนี้อยู่ เวลาอาบน้ำ เวลาไปเข้าห้อง เปิดทีวีไต้หวัน แรกๆ ยังฟังไม่ออก แต่พอฟังทุกวันๆ ก็ซึมซับสำเนียง
สุดท้าย ผู้กองแบงก์สรุปให้ฟัง 3 ปีนที่ไปท่องแดนมังกร เรียนทั้งจีนทั้งไต้หวัน
นอกจากภาษาแล้ว สิ่งที่เขาได้คือเพื่อนข้าราชการไทยที่ไปเรียนด้วยกัน เพื่อนข้าราชการต่างชาติ เพื่อนที่เป็นไต้หวันด้วย คนจีนด้วย ตำรวจไต้หวัน ตำรวจจีน
น่าจับตาครับ ผู้กองแบงก์ตำรวจรุ่นใหม่ในโลกที่เล็กลง
กากีกลาย9/10/10