ทีมงาน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. โชว์ผลงานเจ๋งอีก ! บุกถลายรัง แก๊งปลอมเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯค้าขายข้ามชาติ สาวลงลึก อาจารย์สอนปริญาโท มหาลัยดังเมืองโคราช ผู้ร่วมกระบวนการถูกรวบด้วย รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 5 ราย มูลค่าเสียหายคิดเป็นเงินไทยกว่า 5.3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สว.กก.1 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐอเมริกา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (US.Secret Service) แถลงข่าวจับกุมแก๊งปลอมเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ประกอบด้วย นางทัษต์ชานันต์ คุนซ์ อายุ 48 ปี นางปาณิสรา เตชะอิสระเดช อายุ 47 ปี นายกิตติพงศ์ ญาณาวรรธนพงศ์ อายุ 43 ปี นายณัชชภัทรพงษ์ แย้มประดิษฐ์ อายุ 55 ปี และนายชอง ชูลล์ แตงเกอร์ (Mr.Jean Jules Tenker) อายุ 45 ปี ชาวแคเมอรูน พร้อมของกลาง ธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม ใบละ 100 ดอลล่าร์ 1,534 ฉบับ มูลค่า 153,400 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยกว่า 5.3 ล้านบาท
( ชมคลิป พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สว.กก.1 บก.ป.แถลงข่าว https://www.facebook.com/naya.khattapan/posts/10210456242674472)
กระดาษเคลือบสารเคมีสีดำ ขนาดเท่าธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ 30 ห่อ น้ำยาล้างสารเคมีเงินดำ 1 แกลลอน หนังสือเสนอราคาขายเงินรัฐบาลต่างชาติปลอม 2 ฉบับ ภาพถ่ายต้นฉบับธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม ใบละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐฯ 13 ฉบับ บัญชีธนาคาร 11 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นางทัษต์ชานันต์ ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาบางกะปิ ส่วนนางปาณิสรา นายกิตติพงศ์ และนายชองฯ จับกุมได้ที่ร้านแซ่บแน่ สาขาทาวน์อินทาวน์ และนายณัชชภัทรพงษ์ จับกุมได้ที่ลานจอดรถโรงแรมทาวน์อินทาวน์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบการแพร่ระบาดของธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม เป็นจำนวนมาก จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐฯ เพื่อสืบสวนที่มาที่ไปแหล่งแพร่ระบาดและขบวนการปลอมแปลงธนบัตรดังกล่าว จากการวิเคราะห์ข้อมูลความเชื่อมโยงคดีที่ กก.1 บก.ป.เคยจับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้วก่อนหน้านี้
พบว่ามีขบวนการค้าธนบัตรสกุลต่างประเทศปลอมในย่านบางกะปิ กทม.เป็นนักค้าธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม ที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จึงวางแผนสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้อำพรางตัวเป็นกลุ่มนักค้าธนบัตร ติดต่อสั่งซื้อธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม ใบละ 100 ดอลล่าร์ ในราคาฉบับละ 1,100 บาท รวม 10,000 ฉบับ ก่อนนัดหมายส่งมอบกันที่ห้างสรรพสินค้าแมคโคร สาขาบางกะปิ
พ.ต.ต.ณัฐพล กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อถึงเวลานัดหมาย นางทัษต์ชานันต์ และนายชองฯ ได้นำธนบัตรดังกล่าว 300 ฉบับ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องสุราต่างประเทศ มาส่งมอบให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะขยายผลติดตามจับกุม นางปาณิสรา และนายกิตติพงศ์ ขณะกำลังรอรับส่วนแบ่งเงินจากการขายธนบัตรปลอมครั้งนี้อยู่ที่บริเวณร้านแซ่บแน่ สาขาทาวน์อินทาวน์ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การซัดทอดว่า ธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ จำนวนนี้ ได้รับมาจาก นายณัชชภัทรพงษ์ ที่มีฉายาในวงการว่า “อาจารย์โต้ง” เนื่องจากเป็นอาจารย์สอนพิเศษนักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการโรงแรม มหาวิทยาลัยชื่อดังในจ.นครราชสีมา (วิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์และเทคโนโลยีอาชีวศึกษาเอเทค) และยังเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจรับเขียนแผนงานธุรกิจให้กับบริษัทเอกชนระดับใหญ่หลายแห่ง
สว.กก.1 บก.ป.กล่าวอีกว่า เมื่อพบข้อมูลเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้นางปาณิสรา ติดต่อสั่งธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม เพิ่มเติม กระทั่งนายณัชชภัทรพงษ์ ได้เดินทางมาถึงลานจอดรถโรงแรมทาวน์อินทาวน์ เพื่อเตรียมส่งมอบธนบัตรปลอมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม พร้อมกับยึดของกลางธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม 1,132 ฉบับ ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพาย จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักที่ตรอกการเคหะฯ อาคาร 5 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ พบกระดาษเคลือบสารเคมีสีดำขนาดเท่าธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ 30 ห่อ น้ำยาล้างสารเคมีเงินดำ 1 แกลลอน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศอันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลง โดยการกระทำเกี่ยวกับเงินตรา ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้
พ.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักลอบขายธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม มาแล้วหลายปี ซึ่งจะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยอาศัยนายณัชชภัทรพงษ์ ที่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี สามารถติดต่อประสานงานกับชาวต่างชาติได้ มีประสบการณ์เคยติดต่อทำสัญญาการผลิตเงินตราต่างประเทศปลอมหลายสกุลเงิน โดยมีการติดต่อซื้อขายกับนายหน้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้เร่งขยายผลหาความเชื่อมโยงกับผู้กระทำผิดที่เคยจับกุมไว้แล้วก่อนหน้านี้ โดยเชื่อว่ามีแหล่งผลิตในประเทศไทย ถูกนำออกแพร่ระบาดทั้งใน กทม.และพื้นที่ภาคอีสาน