เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.64 ที่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดระนอง
พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์, พ.ต.ต.ธีระยุทธ ไทยราช,สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ระนอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.415, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง และเจ้าหน้าที่ทหาร
ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 65 นาย ปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย8 จุด แบ่งเป็น จ.ระนอง 7 จุด จ.ชุมพร 1 จุด เพื่อตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทย
จับกุม นายเสรี อายุ 40 ปี ชาว จ.ระนอง ข้อหาร่วมกันซ้อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จับได้ที่ด่านตรวจทุ่งตาพล ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง
จับกุมนายบุญรอด หรือรอด อายุ 35 ปี ชาว จ.ระนอง พร้อมกัญชาแห้ง 4.4 กรัม,ต้นกัญชา 1 ต้น ที่บ้านพัก ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง
นอกจากนี้ยังได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาสอบปากคำอีก 4 คน
ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงปลายเดือน ต.ค. – ธ.ค. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเข้ามาในพื้นที่ จ.ระนอง 3 คดี
รวมผู้ต้องหา 12 คน ขณะกำลังลักลอบพาแรงงานต่างด้าวรวม 127คน หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรบริเวณพื้นที่ จ.ระนอง
ก่อนมีการสืบสวนขยายผลจนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คดีมีความเชื่อมโยงถึงกัน ในรูปแบบของขบวนการใหญ่รับว่าจ้างจากนายทุนให้ลักลอบขนแรงงานชาวพม่าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพื่อนำไปส่งต่อยังปลายทาง
จากแนวทางการสืบสวนในส่วนพื้นที่ จ.ระนอง จะมีกลุ่มรับจ้างลักลอบขนแรงงานต่างด้าวด้วยกันอยู่ 2 เครือข่าย
รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเบื้องต้น 2 ราย พร้อมกับหมายค้นเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายอีก 8 จุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมนายเสรี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ผู้ต้องหาตามเป้าหมายที่ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว และจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้าในคดีครอบครองกัญชาได้อีก 1 ราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
สอบปากคำนายเสรีรับสารภาพ ได้รับการติดต่อว่าจ้างจาก “โกโส” นายทุนชาวพม่า ให้ตนและพวกขับรถไปรับแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่บริเวณสวนปาล์มแห่งหนึ่งติดกับชายแดน เพื่อพาข้ามเข้ามายังฝั่งไทยแทบพื้นที่ จ.ระนอง โดยเส้นทางธรรมชาติ แล้วพาไปส่งยัง จ.ชุมพร จากนั้นจะมีคนขับรถมารับแรงงานต่างด้าวดังกล่าวต่ออีกทอดหนึ่งเพื่อพาไปส่งยังปลายทางต่างๆ
พร้อมยอมรับว่าเริ่มทำมาตั้งแต่ข่วงที่เริ่มมีการปิดประเทศป้องกันโควิด ทำมาประมาณ 5-6 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างคิดเป็นรายหัวแรงงานต่างด้าวที่พาขนเข้ามาหัวละ 1,500 บาท แต่ละครั้งจะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาเที่ยวละประมาณ 15-20 คน เบื้องต้นนำตัวส่ง สภ.เมืองระนอง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป