“บิ๊กแจ๊ด”พร้อม4คนไทยมุสลิมที่ไปแสวงบุญประเทศซาอุฯออกมาแถลงยืนยันปลอดภัยจากโควิดเพราะยาสมุนไพรไทย
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ม. ค. 65 ที่ห้องประชุม อบจ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง “บิ๊กแจ๊ด” นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อม นายอดุลย์ มะหะหมัด อายุ 58 ปี (ที่ปรึกษา นายก อบจ.ปทุมธานี) นายไพฑูรย์ ฮึกหาญ อายุ 58 ปี นายสุพจน์ สมนึก อายุ 52 ปี และ นายกมลชัย ยะลาน อายุ 28 ปี
สี่คนไทยมุสลิมชาว จ.ปทุมธานี ที่เป็นคณะผู้ที่เดินทางกลับมาจากการไปแสวงบุญ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่ทั้งสี่คนนั้นกลับมาแล้วตรวจATK แล้วไม่พบการติดเชื้อโควิด
ส่วนคนไทยมุสลิมในคณะทั้งหมดรวม 31 คนที่เดินทางกลับมาด้วยเครื่องบืนลำเดียวกันตรวจพบว่าติดโควิด 27 คน ต้องกักตัว
ส่วนอีก 4 คนที่ไม่พบว่าติดเชื้อโควิดเพราะได้ทานยาสมุนไพรไทย ตำหรับยาวัดคิรีวงก์ (วัดน้ำตก) จ.ชุมพร ซึ่งเป็นยาเสรืมภูมิต้านไข้พิษไข้กาฬ ทำให้ปลอดภัยไม่ตืดเชื้อโควืด-19 และเชื้อโอไมครอน
การแถลงข่าวครั้งนี้มี พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์”วัดน้ำตก” (รองเจ้าคณะอำเภอหลังสวน) จ.ชุมพร และนางกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา และตัวแทนจากสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมกันแถลงถึงเรื่องยาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อสู้ไวรัส ในครั้งนี้อีกด้วย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวต่อว่า
การที่ตนและพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่เป็นชาวจังหวัดปทุมธานี และเป็น 4 ใน กลุ่มของผู้ที่ไปร่วมแสวงบุญ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย มาแถลงข่าวด้วยความสมัครใจของตัวพวกเขาเอง
เนื่องจากพวกเขาได้พบและได้รับประสบการณ์ด้วยตัวเองเกี่ยวกับการได้ทานยาสมุนไพร ที่ตนได้ร่วมกับ เจ้าอาวาสวัดคิรีวงก์ เจ้าของสูตรยาสมุนไพรไทย 5 ชนิด ที่มีสรรพคุณ สามารถเสริมภูมิต้านไข้พิษไข้กาฬได้
ทั้ง 4 คนนั้น ที่ไปร่วมแสวงบุญ ได้ทานกันทุกคน เมื่อเดินทางกลับมา มีการตรวจATK ก็ไม่พบว่าติดเชื้อโควิด ดังนั้นเห็นได้ว่า สมุนไพรไทยนั้น สามารถที่จะเป็นตัวเสริมภูมิป้องกัน ได้ดี และเป็นสิ่งที่ทางผู้หลักผู้ใหญ่ หรือทางรัฐบาล น่าจะให้การสนับสนุนสมุนไพรไทย
เพราะถือเป็นสิ่งที่หลายๆชาติยังมีความต้องการยาตัวนี้ หรือแม้ทางรัฐบาลจะไม่ให้การสนับสนุน ก็อย่ามาขัดขวาง ในการผลิตยาสมุนไพรไทยเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็ยังดี
ด้าน นายกมลชัย ยะลาน 1 ใน 4 ผู้ที่ไปแสวงบุญ ได้กล่าวว่า พวกตนมีความเชื่อมั่นว่าสมุนไพรไทยตำหรับยาวัดคิรีวงก์ช่วยได้จริง และขอบอกกล่าวกับสื่อมวลชนว่า พวกตนทั้งสี่คนได้กินยาสมุนไพรไทยที่ นายก อบจ.ฯ ได้มอบให้ ในวันที่เดินทางไปประเทศซาอุฯ
เมื่อทำพิธีทางศาสนาอิสลาม เสร็จแล้ว ก็ได้เดินทางกลับ และมาขึ้นเครื่องบินลำเดียวกันกับกลุ่มคณะคนไทยมุสลิมด้วยกันรวมทั้งหมด 31 คน แต่เมื่อกลับมาถึงสนามบินแล้วมีการตรวจ ก่อนพบว่าพวกตนทั้ง 4 คนนั้น ไม่มีใครติดเชื้อ ส่วนอีก 27 คน ที่นั่งเครื่องมาลำเดียวกันพบว่าติดเชื้อทั้งหมด ดังนั้น จึงเชื่อว่ายาสมุนไพรตัวนี้ สามารถช่วยได้จริง