“ถ้าเค้าไม่สู้ ผมคงไม่ฆ่า” วลีเด็ด เกาะกระแส ข่าว ชั่วโมงนี้ หลายๆคน ฟังแล้ว คง หมั่นไส้ หน้าดู
“ไอ้ห่า ทำไมมึงไม่สำนึก”
“คนแบบนี้เอาไปยิงทิ้งเถอะ”
“เป็นใครๆ ก็ห่วงของ มึงไปแย่งของเค้าทำไม”
หลากหลาย คำด่าทอ จะหลุดออกมา สู่ คีบอร์ด โลกออนไลน์
หากแต่ ลองพิจารณา ให้ชัดๆ จะรู้ว่า “ไอ้ ต้อม” มันกำลัง สอนเราอยู่
บ่อยครั้ง ที่คนร้ายหรือ ผู้ก่อเหตุ มี ความต้องการเพียงแค่ทรัพย์สิน เท่านั้นนั้น แต่มันจะยกระดับความรุนแรงมากขึ้น จนถึงขั้น ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์หรือ ฆ่าชิงทรัพย์ ในขณะที่ เหยื่อ หรือ ผู้เสียหาย ขัดขืน
มันคุ้มไหม ที่เราจะเสี่ยง เพื่อ โทรศัพท์ iphone 7plus สักเครื่อง
มันคุ้มไหม ที่เราจะเสี่ยง เพื่อ กระเป๋า แบรนเนม 1 ใบ
มันคุ้มไหม ที่เราจะเสี่ยงเพื่อ เงินในกระเป๋าสตางค์ 500 บาท
เราไม่รู้หรอกว่า คนร้าย มีอาวุธแค่ไหน
เราไม่รู้หรอกว่า คนร้าย เตรียมตัวมายังไง
เราไม่รู้หรอกว่า คนร้าย มีกี่คน
และเราไม่รู้หรอกว่า คนร้าย เคยก่อคดีมาขนาดไหน
จากเหตุที่เกิดขึ้น เชื่อว่า หลายคน อาจจะไม่ทันคิด
หลายคนอ่านข่าว เพียงเพื่อ เสพ
หลายคนอ่านข่าว เพียงเพื่อ มีเรื่อง คุย
หลายคนอ่านข่าว เพียงเพื่อ ต้องการจะใส่อารมณ์ไปกับ สถานการณ์
วันนี้ เลยจะมาแนะนำ วิธีการ ปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุประเภท วิ่งราว หรือ ชิงทรัพย์ ให้ นำเอาไป ใช้และสอนให้คนรู้จัก ต่อไปเพื่อ จะได้ ป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย (สูญเสีย ขั้นถึง ชีวิต หรือบาดเจ็บ)
1. ข้อแรก สำคัญที่สุด ขณะเกิดเหตุ ในทันที หลายคน สติหลุด แน่นอน ให้พยายาม ดึงสติกลับมา แล้ว พิจารณารูปแบบคนร้าย อย่าคิดถึง มูลค่า ทรัพย์สินที่เสียไป เป็นอันขาด ความเสียดาย อาจจะก่อให้เกิด ความกล้าเสี่ยง แบบไม่คุ้ม
2. อาชญากรรมประเภท street crime ให้ ระลึกไว้ว่า คนร้าย ส่วนมากต้องการ แค่ ทรัพย์ แล้ว มันจะรีบหนีไป ดังนั้น เมื่อเกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าคนร้ายจะมาจาก ด้านหน้า หลังซ้ายขวา เดินมา วิ่งมา ซ้อนมอไซด์ มา มันอยากได้อะไร ให้มันไป เพื่อรักษา สิ่งที่มีค่ามากกว่า เราเสียโทรศัพท์แต่เรายังมีชีวิต เราเสียสตางค์แต่เรายังมีชีวิต
3. จำไว้ว่า การเผชิญหน้ากับคนร้าย ยิ่งนานยิ่ง อันตราย รีบหลบจากจุดเสี่ยงนั้นให้ เร็วที่สุด
4.แจ้งตำรวจ ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ หาก นึกลักษณะ ยานพหนะ หรือรูปร่างคนร้ายได้ ให้ แจ้งให้ครบ เพราะ เจ้าหน้าที่ จะทำการแจ้งสกัดจับ หาก เราต้องผ่าน เส้นทางใหนๆ เป็นประจำให้ เมม เบอร์โทรตรง สน.เพื่อ ความรวดเร็วในการแจ้งข้อมูลให้ สายตรวจ
5.เมื่อเห็นว่า ตัวเราเอง อยู่ใน สถานการณ์ที่ปลอดภัยแล้ว ให้หาจุดอ้างอิงเวลา เช่นการ โทรศัพท์ออก การดูนาฬิกา หรือการสอบถามเวลา จากคนใกล้เคียง เพื่อประโยชน์ในการ ดูกล้องวงจรปิด
6.ให้ จด บันทึก หรืออัดเสียงหรือเล่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในทันที่ที่ มีเวลา หรือสะดวก ตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะ สี รถ สีหมวก สีเสื้อ จำนวนคนร้าย เพศคนร้าย เพราะเวลานานไป ความทรงจำอาจจะเลือนหาย
7.นึกและเล่าเรื่องราวให้ เจ้าหน้าที่สืบสวน ให้ได้มากที่สุด
8.ห้ามคิดว่า การเสียทรัพย์สินของตน มันน้อย ไม่กี่บาท ขี้เกียจไป สน. ขี้เกียจไปแจ้งความ เพราะว่า ข้อมูลที่คุณมี อาจจะเป็น จิ้กซอ ชิ้นสำคัญที่จะตามจับคนร้าย คนนั้นไม่ให้ก่อเหตุกับคนอื่น อีก
จำไว้ว่า การร่วมมือของคุณ หมายถึง จิ้กซอ 1 ชิ้น ที่จะ ประกอบ พยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ไม่ให้ กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง
และสิ่งสำคัญ หาก สามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ คุณต้องมาให้การ เป็นพยาน ในการดำเนินคดี เพื่อที่คนร้าย นั้นๆ จะได้รับโทษทัณ ตามที่สมควรจะได้ ส่วนมากน้อย ให้ มันได้เป็นไปตาม กระบวนการยุติธรรม ต่อไป
ก็จบเท่านี้ สำหรับคำแนะนำ จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น อยากฝากสิ่งสุดท้าย หาก จำคำแนะนำอื่นๆไม่ได้ ให้นึกถึงคำที่ ไอ้ต้อมมัน พูด “ถ้าไม่สู้ก็ไม่ตาย” เป็น 1 คำสอน ไว้สอน ลูกหลาน คนใกล้ชิด ไว้ให้จำขึ้นใจกันเลยครับ